[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 มิถุนายน 2568 06:08:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นงูสวัสดรอบตัว แล้วจะตาย จริงหรือไม่ ?  (อ่าน 2537 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7886


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2553 19:05:39 »

         งูสวัด (Herpes zoster) เป็นโรคที่มีการอักเสบอย่างเฉียบพลันที่ปมประสาทไขสันหลัง (Spinal ganglion) ของระบบประสาทส่วนกลาง  เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งทำให้มีอาการพุเป็นเม็ดพอง  ภายในมีน้ำใส ๆ ขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ  ที่ผิวหนังตามแนวบริเวณที่มีปลายประสาทมาหล่อเลี้ยงจากส่วนต้นที่มีการอักเสบนั้น และมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่บริเวณเดียวกันนั้นด้วย

          ผู้ชายจะเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิง เป็นได้ทุกวัย แต่คนอายุเกิน ๕๐ ปี เป็นกันมาก มักเป็นกันในต้นฤดูร้อน และก่อนจะเข้าฤดูหนาว เริ่มแรก ๓-๔ วัน  มักมีไข้หนาว  เพลีย และอาการทางกระเพาะอาหาร  ลำไส้  โดยเฉพาะในผู้ใหญ่มักมีอาการเจ็บปลายประสาทด้วย  วันที่  ๔  หรือที่  ๕  จะมีเม็ดพองภายในมีน้ำใส ๆ ขึ้นเป็นหย่อม ๆ ฐานที่ผิวหนังรอบ ๆ อักเสบแดง โดยมากบริเวณทรวงอก แล้วค่อย ๆ แผ่ออกไปด้านเดียวพอเป็นได้สัก ๕ วันก็จะค่อย ๆ แห้งลงแล้วตกสะเก็ด เมื่อเป็นครั้งหนึ่งแล้ว มักเกิดภูมิคุ้มกัน

          นอกจากทรวงอก  อาจเป็นบริเวณอื่นอีกได้ รวมทั้งบริเวณเยื่อจมูกและนัยน์ตาด้วย และในคนสูงอายุอาจเป็นโรคปวดประสาทอยู่อีกนานภายหลังเป็นโรคงูสวัดก็ได้

          บางรายอาจเป็นแผ่ออกไปทั้งสองข้างได้  แต่มีน้อย ที่เชื่อกันว่าเมื่อแผ่ไปรัดรอบตัวแล้วผู้นั้นต้องตาย ไม่เป็นความจริงอาจเป็นด้วยเมื่อเม็ดพองน้ำนั้นแตกเป็นแผลแล้ว มีเชื้อโรคอื่นเข้าแทรกแซง  ทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นได้

          การรักษา  ใช้ยาผงโรย  หรือทายาน้ำที่ระงับการปวดแสบปวดร้อน  ยาจำพวกปฏิชีวนะ ฯลฯ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง







“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”


Credits:Sanook

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2553 19:23:19 »

รักษาแผนโบราณดีกว่า ถูกด้วยจ๊ะ 
น้าชายเคยเป็นไปหาหมอโรงพยาบาล คิดตังค์เกือบหมื่น
มีคนแนะนำไปหาหมอแผนโบราณ เสียค่ายาไม่กี่ร้อย
แถมอาการดีกว่ากินยาแผนปัจจุบันตั้งเยอะ   ตลก ตลก
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 3.079 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 05 สิงหาคม 2567 21:28:24