.ถ้อยแถลง..เพลงชุดพระจันทร์ พระจันทร์ เป็นสิ่งที่ประดับความงามให้กับราตรี และความเย็นยะเยือกของพระจันทร์ยังช่วยกล่อมอารมณ์ของมนุษย์ให้สงบลงได้ พระจันทร์จึงมีอิทธิพลต่อความเชื่อและความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ทำให้เกิดประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์ขึ้นมามากมาย
ทางด้านวรรณกรรม นำความงามของพระจันทร์สร้างฉาก สร้างอารมณ์ทั้งสุขและทุกข์ของตัวละคร ทางด้านเพลงก็ไม่ใช่น้อยที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์ โดยเฉพาะในเพลงไทยที่มีพระจันทร์มาเกี่ยวข้อง โดยใช้เป็นชื่อเพลงบ้าง แฝงไว้ในบทร้องบ้าง และรวมทั้งชื่อเพลงกับบทร้องบ้าง
ในบางครั้งการบรรเลงดนตรีไทยในคืนที่มีพระจันทร์ นึกจะบรรเลงเล่นตามบรรยากาศ ก็นึกชื่อเพลงที่เหมาะสมไม่ได้ เท่าที่นึกกันได้บางเพลง มีบทร้องไม่ตรงความหมายของชื่อเพลง เช่น เพลงไส้พระจันทร์ เพลงชมแสงจันทร์ เป็นต้น
เมื่อมีโอกาสที่ได้บรรเลงเช่นกันในคืนที่มีพระจันทร์ ผู้เขียนได้พยายามรวบรวมเพลงไทยที่จะเสริมอารมณ์ทั้งผู้ฟังและผู้บรรเลงในบรรยากาศเช่นนี้ เป็นเพลงเถาและต่อด้วยเพลงสองชั้นเพื่อให้สมบูรณ์แบบตามลักษณะของการบรรเลงดนตรีไทย...
สมพล อนุตตรังกูร
เพลงโสมส่องแสง เถา
เพลงโสมส่องแสง เถา : กรมหมื่นพิชัยมหินทโรดม ทรงสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ ทรงเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยปลัดทูลฉลอง กระทรวงเกษตราธิการ พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๒ พระชันษา ๒๘ ปี ในระหว่างทรงรับราชการได้ทรงนิพนธ์เพลงลาวดวงเดือน ทั้งบทร้องและทำนอง เป็นที่นิยมแพร่หลายมาจนปัจจุบันนี้
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ นายมนตรี ตราโมท ได้นำทำนองเพลงลาวดวงเดือนมาขยายขึ้นเป็นอัตราสามชั้น และตัดลงเป็นชั้นเดียว จนครบเป็นเพลงเถา โดยยึดสำเนียงลาวอันเป็นพื้นฐานเดิมไว้ เพื่อให้เป็นเพลงสำเนียงลาวที่สมบูรณ์จึงได้แต่งลูกหมดสำเนียงลาวประจำเพลงนี้ไว้ด้วย กับแต่งบทร้องขึ้นสำหรับร้องประจำ ได้แก้ไขทางร้องจากของเดิมในบางท่อนที่ร้องสองครั้ง ก็ให้ร้องเพียงครั้งเดียวตลอดทั้งเถา แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า “โสมส่องแสง” เลียนจากความหมายชื่อเพลงเดิมที่เรียกว่า ”ลาวดวงเดือน” ...
สมพล อนุตตรังกูรบทร้องเพลงโสมส่องแสง เถาสามชั้น
โอ้ว่าแสงโสมส่อง ผ่องทั่วนภากาศ
แจ่มใสไพลาศ สุกสะอาดลออตา
ผ่องแผ้วแพร้วรัศมี สาดรังสีสว่างหล้า
ใสสดหมดเมฆา อวดอาภาเมื่อคืนเพ็ญ
ทรงกลดโรจน์รุ่งพร้อย งามหยดย้อยลอยตรงเด่น
ช่างงามแท้แข (เอย) ยามเพ็ญ ส่องแสงเย็นยวนอารมณ์
แสงเจิดเฉิดฉวี ส่องแสงศรีสีชวนชม
บ่มีแสงใดสวยสม ใฝ่นิยมเยี่ยงรัชนี
กระนี้หนอกระต่ายน้อย จึงเผ้าชะม้อยมุ่งศศี
กระต่ายชะแง้แข (เอย) บ่มี จิตไมตรีตอบเลยเอย
สองชั้น
โอ้โอ๋ จันทราเอย
เชิญเมตตา กรุณากระต่ายน้อย
เสียแรงหวัง เฝ้าตั้งตาคอย
มิเอื้อมอาจสอย สอยมาชมเอย
อกข้อน สะท้อนจิตหา
เฝ้าแต่เบิ่งดูฟ้า (ละหนอ) เศร้าอารมณ์
ฟูมฟกอกตรม ระทมใจเอย
หนาวจับจิตหนาว ยิ่งหนาวราวไข้
หนาวที่ไม่ สมใจหมายเชย
น้ำค้างพร่างพรม ช้ำลมรำเพย
หนาวใจไร้เชย ชมละเนอ
ชั้นเดียว
โอ้แขของข้อยเอย อย่าเพิ่งคล้อยเคลื่อนคลา
อย่าด่วนแฝงเมฆา อยู่ให้ข้าชมเอย
ถึงแม้ไม่สมใจหวัง ขอพอตั้งตาชม
ให้ชื่นอารมณ์ หายตรมอุราเอย
เบิ่งแสงโสมส่อง แสงผุดผ่องพอตา
ชูชื่นชีวา ของข้าคงเอย
เราละเนอ
ตัวโน๊ตห้อง
ซ้ายแถวล่างสุด "
- รมร "
อาจารย์สมพล อนุตตรังกูร
ปัจจุบันอายุ ๘๔ ปี (เมษายน ๒๕๕๖)
และทุกวันนี้ท่านยังคงสอนดนตรีไทยเป็น
วิทยาทานแก่บุคคลทั่วไป
(ระนาด ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย ขิม จะเข้ ขลุ่ย ฯลฯ)
..ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์สมพล อนุตตรังกูร ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ด้านดนตรีไทย
ที่อนุญาตให้นำทำนองดนตรีไทย ซึ่งท่านเป็นผู้ประพันธ์และเขียนด้วยลายมือของท่านเอง
เผยแพร่เป็นวิทยาทานใน www.sookjai.com
โดยวัตถุประสงค์ เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่า และช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะการดนตรีไทย
ให้สืบทอดยาวนานตลอดไป มา ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพสูงยิ่ง.