ไข่เน่า

ผม เห็นไข่เน่าดำๆทีไร จะนึกถึงพุทราที่มีหนอนไชเสียพรุนแล้ววางไข่ใต้ผิว เมื่อเห็นครั้งใด ต้องทำใจใหม่ทุกครั้ง กลิ่นและสีของมันเป็นเช่นนั้นเองผล ไข่เน่าแก่เต็มที่จะเป็นสีดำเทาอ่อนนุ่มนิ่ม ผิวมัน ผลโตประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร และมีรสหวานอมเปรี้ยว กลิ่นเหม็น นึกถึงไข่เน่าทุกครั้งเมื่อฝนตกพร่ำๆ ซึ่งผลของมันจะแก่จัดในฤดูฝน น่ากินทีเดียว

"ชำมะเลียง" บางพื้นที่เรียก โคมเรียง พุมเรียง หรือผักเต้า มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสรรพคุณ ผลสุกแก้ท้องเสีย รากแก้ไข้ แก้ไข้เหนือ แก้ท้องผูก เป็นต้น

 เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงใหญ่ ในวงศ์ SAPINDACEAE สูง 4-15 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาล แตกเป็นร่อง
 ใบ ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ออกเยื้องกันเล็กน้อย รูปหอกเรียงยาวสีเขียวเข้ม ปลายใบแหลม ขอบเรียบ
 ดอก ออกเป็นช่อ ตามกิ่ง ลำต้น มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศ และไม่สมบูรณ์เพศปนกัน ช่อดอกยาว กลีบดอกสีม่วงแดง
 ผล กลม หรือรูปไข่ สีดำแดง แต่ละผลมี 1-2 เมล็ด 1 ช่อมี 20-30 ผล เมื่อแก่จะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ เนื้อนุ่ม รสหวานหอมฝาด
      ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง เติบโตได้ดีทุกสภาพพื้นดิน ความชื้นและแสงแดดปานกลาง
ผลสดสีเขียว อมม่วงแดง สุกเป็นสีม่วงดำ มีลักษณะกลมป้าน ชำมะเลียงจะสุกช่วงเดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ เด็กๆจะเลือกผลชำมะเลียงที่ลูกโตๆแก่จัด รสหวาน กินแล้วใจเย็นอย่างโบราณว่า

มะพุด















ลักษณะทั่วไป
มะพูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบใหญ่ หนา มัน เป็นรูปไข่ยาวรีคล้ายใบมังคุด แต่ปลายใบจะแหลมกว่า ดอกสีเขียวอมเหลือง ผลใหญ่ขนาดส้มเขียวหวานผลดกออกตามกิ่ง ผลดิบสีเขียว ผลแก่มีสีเหลือง เมื่อสุก จะมีสีสัน เนื้อในผลสีเหลืองจำปา รสเปรี้ยวอมหวาน รับประทานเป็นอาหารได้
การปลูก เพาะเมล็ด
สรรพคุณทางยา
น้ำคั้นจากลูก รสเปรี้ยวอมหวาน แก้ไอ ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ และแก้เลือดออกตามไรฟัน
ราก รสจืด แก้ไข้ แก้ร้อนใน และถอนพิษผิดสำแดง
เปลือก มีรสฝาด ใช้ชำระบาดแผล
ผลดิบแกงส้มกับกุ้งสดจะให้รสเปรี้ยวแทนมะนาวได้  ปัจจุบันได้มีผู้นำมาไปแปรรูปเป็นน้ำผลไม้จำหน่าย
ใบและเปลือกของต้นนิยมนำมาใช้ย้อมสีเส้นไหม   จะให้สีเหลืองคล้ายสีเหลืองดอกบวบ
ประโยชน์
มะพูดเป็นต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในบริเวณบ้าน โดยปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ) เชื่อว่าคนโบราณปลูกเอา เคล็ดเพื่อหวังให้ลูกหลานเป็นคนช่างพูดช่างเจรจาในสิ่งที่ดีงาม เพราะคนที่พูดจาไพเราะก็จะมีคนชื่นชอบกันมาก  มะพูด เป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มสวยให้ร่มเงาได้ดี  และผลของมะพูดก็นำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ 

ในยุคที่ผลไม้ตามฤดูกาลบางชนิดยังไม่ถูก เก็บขึ้นหิ้งเป็นยาสมุนไพร ชีวิตชาวบ้านมีผลไม้ให้กินตลอดปี เด็กๆนอกจากจะกินผลไม้ในยุคของตัวเองแล้ว ยังรู้จักผลไม้ยอดนิยมของคนรุ่นก่อนๆ ด้วยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ เห็นคุณย่า คุณยายชอบกินผลไม้แปลกๆ เช่น ไข่เน่า, มะขวิด, มะขามเทศ...เมื่อ นึกย้อนไปในอดีต รสชาติอันหอมหวานของผลไม้บางชนิดยังติดที่ริมฝีปาก ถึงอยากกินตอนนี้ก็หาไม่ได้ ยิ่งผลไม้จากเมืองนอกทะลักเข้ามามาก จนผลไม้พื้นเมืองของเราทำท่าจะห่างไกลจากชีวิตผู้คนไปทุกที หรือว่ากินผลไม้ไทยไม่ทันสมัย, รสชาติของผลไม้จากต่างประเทศดีกว่า, อยากได้สารอาหารแปลกๆที่มาจากดินแดนห่างไกล ก็ว่ากันไป











ชมพู่น้ำดอกไม้
บ้าน สวนหลังนั้น มีต้นชมพู่น้ำดอกไม้อยู่หลายต้น ในแถบนั้นเป็นดินร่วนปนทราย น่าจะเป็นทะเลโบราณมาก่อน อยู่ที่ตำบลแพงพวย ผมได้ลิ้มรสชมพู่น้ำดอกไม้ของสวนนี้เป็นประจำ กลิ่นหอม แก่จัดจะมีรสหวาน เคี้ยวนุ่มปาก  บ้านเราได้กิ่งพันธุ์ชมพู่น้ำดอกไม้ขนาดเท่าแขนเด็ก จากเจ้าของที่ไม่ยอมจะให้ใครง่ายๆ ที่บ้านเอาลงดิน ซึ่งเป็นดินดำปนดินเหนียว หลังจากนั้น ผมไม่เคยได้ข่าวว่ามันเจริญเติมโต หรือให้ผลเลย น่าเสียดายที่บ้านเราแม้จะเป็นชาวสวนขนานแท้ ก็ยังปลูกชมพู่น้ำดอกไม้ไม่สำเร็จ
ชมพู่น้ำดอกไ�

คนไทยสมัยก่อนคุ้นเคยกับส้มมือที่นำมาใช้ทำเป็นยาดม เรียกกันว่า 'ยาดมส้มโอมือ' ที่มีกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ใช้สูดดมบรรเทาอาการเป็นลม หน้ามืดตาลาย แต่เชื่อว่าคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย ที่ไม่รู้ว่ายาดมส้มโอมือทำมาจาก "ผลส้มโอมือ" ซึ่งเป็นผลไม้หายากในปัจจุบัน วันนี้"108เคล็ดกิน"จึงขอพาไปทำความรู้จักผลไม้ชนิดนี้กัน  ส้มโอมือ หรือ ส้มมือ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในจำพวกส้ม พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อน ผลรูปร่างแปลกกว่าส้มอื่น มีรูปร่างเรียวยาวห้อยลงมาเป็นแฉก ๆ คล้ายนิ้วมือ บ้างก็ว่าคล้ายลำเทียน ขนาดใกล้เคียงกับนิ้วมือผู้ใหญ่ หรือใหญ่กว่าดอกสีขาว มีกลิ่นหอมมาก ผลมีผิวขรุขระ มีร่องแฉกคล้าย นิ้วมือกว่า 10 นิ้ว เมื่อสุกผลมีสีเหลืองสด ภายในผลสีขาว ไม่มีเมล็ด เปลือกหนาคล้ายฟองน้ำอย่างส้มโอ เนื้อแห้งไม่ชุ่มน้ำ ผิวเปลือกมีน้ำมันหอมระเหย กลิ่นหอมคล้ายกลิ่นมะนาว  ส่วนเนื้อแห้ง ไม่ฉ่ำน้ำ มักไม่นิยมนำผลมารับประทานสดเหมือนส้มทั่วไป รสชาติจืดชืดไม่อร่อยแต่จะนำเปลือกไปใช้ประกอบในการปรุงอาหาร และทำยา เพราะมีสรรพคุณในการกระตุ้นหัวใจ บำรุงหัวใจ บำรุงตับ ทำให้เลือดลมดี ไปสกัดทำน้ำมันหอมระเหย แก้อาการวิงเวียนศีรษะ คลายเครียด ในประเทศจีนและญี่ปุ่นนิยมนำไปไว้ในห้องนอนและห้องน้ำเพื่ออบกลิ่น ขณะที่ในประเทศตะวันตกรู้จักสรรพคุณทางการแพทย์ของส้มโอมือมาช้านาน

   



















มือพระพุทธเจ้า “Buddha’s Hand” หรือที่คนไทยเรียกว่าส้มโอมือ หรือ ส้มมือ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง จำพวกส้มพบได้ทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อนส้มชนิดนี้มีชื่อต่าง ๆ กันในหลากหลายภาษา แต่โดยมากมีความหมายคล้ายกันว่า นิ้วมือ เช่น ในภาษาจีนเรียก ฝอโส่ว หมายถึงนิ้วพระพุทธเจ้านับเป็นส้มที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง คาดว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย เกิดจากการกลายพันธุ์ของมะนาว

ส้มโอมือมีผลรูปร่างแปลกกว่าส้มอื่น ๆ กล่าวคือมีรูปร่างเรียวยาวห้อยลงมาเป็นแฉก ๆ คล้ายนิ้วมือบ้างก็ว่าคล้ายลำเทียนขนาดใกล้เคียงกับนิ้วมือผู้ใหญ่ หรือใหญ่กว่า และอาจมีความยาวได้ถึง 12 นิ้วเมื่อสุกผลมีสีเหลืองสดเปลือกหนาคล้ายฟองน้ำอย่างส้มโอ เนื้อแห้งไม่ชุ่มน้ำ มีกลิ่นหอมอย่างมะนาวชาวจีนและญี่ปุ่นจึงนิยมใช้เปลือกในการดับกลิ่นภายในบ้านหรือตู้เสื้อผ้า

Buddha's Hand Citron Sorbet VitaMix BlendItandMendIt

ก้อยกุ้ง ก้อย เป็นอาหารประเภทที่เนื้อสัตว์มีลักษณะที่ต้องทานดิบๆหรืออย่างน้อยก็กึ่งสุกกึ่งดิบ ในอดีตนิยมทานกันทั่วไป แม้กระทั่งในรั้วในวังก็ได้มีบันทึกถึงก้อยเอาไว้เช่นกัน แต่จะนิยมเป็นพวกเนื้อกุ้ง เป็นอาหารทางแถบภาคอีสาน นิยมทานทั้งกับข้าวและกับผักสด จะให้ดีควรทำพร้อมกับเมนู น้ำพริกก้อยกุ้ง


สูตรก้อยกุ้ง

สำหรับ 1-2 ท่าน
เวลาในการทำ 9 นาที

วัตถุดิบก้อยกุ้ง

1. เนื้อกุ้งแม่น้ำสับ 5 ช้อนโต๊ะ (เก็บมันกุ้งเอาไว้)
2. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
3. ใบผักชี 20 ใบ
4. น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
5. หนังหมูต้มซอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1/2 ช้อนชา ไม่ใส่ก็ได้
8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
9. มันหมูชิ้นเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ ทอดหรือลวกจนสุกก็ได้

วิธีทำก้อยกุ้ง

1. นำเนื้อกุ้งที่สับไว้มาคลุกกับเกลือและน้ำมะนาวจะเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือบางคนเรียกว่าสุกมะนาว จากนั้นนำเนื้อกุ้งสะเด็ดให้แห้งแยกออกมาพักไว้ เก็บน้ำมะนาวที่เหลือไว้ใช้กับเมนู น้ำพริกก้อยกุ้ง น้ำมะนาวที่แช่กุ้งนี้เรียกว่า น้ำสะเออะ
2. นำเนื้อกุ้งที่ได้มาผสมเข้ากับ มันหมู หนังหมู ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย ปรุงรสด้วยน้ำปลา ให้ออกเค็มเปรี้ยวนำ ตัดหวานจากเนื้อกุ้งสดๆตามมาเป็นอันใช้ได้ เมื่อได้รสชาติที่พึงพอใจแล้ว นำเสริฟคู่กับน้ำพริกก้อยกุ้ง ข้าว ผัดสด

กุ้งแม่น้ำอบชีส Baked River Prawn with Cheese ใครที่ชอบทานกุ้งโดยเฉพาะกุ้งตัวโตๆอย่างกุ้งแม่น้ำ ลองนำมาอบกับชีสและเนยกระเทียมดูบ้างก็จะได้เมนูอาหารง่ายๆที่มีรสชาติและหน้าตาระดับ 5 ดาวเลยค่ะ


สูตรกุ้งแม่น้ำอบชีส Baked River Prawn with Cheese

สำหรับ 2 ที่
เวลา 15 นาที

วัตถุดิบกุ้งแม่น้ำอบชีส Baked River Prawn with Cheese

1. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
2. เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
3. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือ 1 ช้อนชา
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
6. มอสเซเรล่าชีส 100 กรัม

วิธีทำกุ้งแม่น้ำอบชีสBaked River Prawn with Cheese

1. ล้างกุ้งให้สะอาด ไม่ต้องแกะเปลือกผ่ากลางเอาเส้นดำออก ผ่ากุ้งครึ่งตัวแต่ไม่ต้องตัดออกจากกัน โรยเกลือ พริกไทย เตรียมไว้
2. นำเนย กระเทียม ต้นหอม เกลือ พริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทากลางตัวกุ้งที่ผ่าไว้ให้ทั่ว
3. นำกุ้งที่ทาเนยกระเทียม โรยชีสด้านบน นำไปอบที่ไฟ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที จนกุ้งสุกจัดใส่จานเสิร์ฟ

มะเขือม่วงย่างแซลมอนรมควันซอสบาบีคิว Grilled Eggplant with BBQ Smoked Salmon เมนูอร่อยเบาๆ ที่ทานง่ายไม่ต้องกลัวอ้วนกันเลยทีเดียว บวกกันเข้าไปกับแซลม่อนรมควัน ที่ขับกลิ่นหอมให้จานนี้ คุกรุ่นด้วยรสเข้มเต็มคำ

 

สูตรมะเขือม่วงย่างแซลมอนรมควันซอสบาบีคิว Grilled Eggplant with BBQ Smoked Salmon
 
สำหรับ 1-2 ท่าน
เวลา 15 นาที
 
วัตถุดิบมะเขือม่วงย่างแซลมอนรมควันซอสบาบีคิว Grilled Eggplant with BBQ Smoked Salmon
 
1. แซลมอนรมควัน 3-4 สไลท์
2. มะเขือม่วงหั่นแว่นย่าง 4-5 สไลท์
3. กระเจี๊ยบย่าง 2-3 ชิ้น
4. เคเปอร์ 1 หยิบมือ
5. ซอสบาบีคิว 1 ช้อนโต๊ะ
6. มะเขือม่วงบด 1 ช้อนโต๊ะ
7. ใบโหระพา 1 ช่อ
8. เกลือทะเล 1 หยิบมือ
 
วิธีทำมะเขือม่วงย่างแซลมอนรมควันซอสบาบีคิว Grilled Eggplant with BBQ Smoked Salmon

1. จัดมะเขือม่วงย่างลงจานให้สวยงามเลยครับ จากนั้นก็ลงมะเขือม่วงบดลงมาตรงกลาง
2. ม้วนแซลมอนลงจานท็อปให้สวยงาม จากนั้นก็ตกแต่งด้วยใบโหระพา ราดด้วยซอสบาบีคิว ที่เราตีให้เข้ากับน้ำมันมะกอก
3. ลงเครื่องเคราที่เหลือลงมาตามใจท่าน ไม่ว่าจะเป็นกระเจี๊ยบ เคเปอร์ แล้วตบท้าย โรยหน้าด้วยเกลือทะเล เท่านี้ก็พร้อมอร่อยครับ
 
ข้อแนะนำมะเขือม่วงย่างแซลมอนรมควันซอสบาบีคิว Grilled Eggplant with BBQ Smoked Salmon
 
เกลือทะเลโรยพอประมาณพอครับ เพราะแซลมอนรมควันรสออกเค็มอยู่แล้ว

เมนูนี้เป็นเมนูที่ทานแล้วได้รสชาติของอาหารทะเลชัดเจน ประกอบไปด้วย กุ้ง หมึกและหอยแมลงภู่ ทานคู่กับผักต่างๆ เข้ากัเป็นอย่างดี นากจากนั้นน้ำจิ้มก็สามารถเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอาหารทะเลจริงๆ ครับ


สูตรเมี่ยงทะเล

สำหรับ 4 ที่
ระยะเวลาในการทำ 15 นาที

ส่วนผสมเมี่ยงทะเล

1. แผ่นเมี่ยงญวน 12 แผ่น
2. กุ้งลวดสุกผ่าครึ่งตามยาว 12 ตัว
3. หอยแมลงภู่ลวกสุก 24 ตัว
4. หมึกกล้วยลวกสุก ขนาด 1 นิ้ว 24 ชิ้น (ประมาณ 2 ตัว)
5. แครอทหั่นฝอย 1 ถ้วยตวง
6. กะหล่ำปลีขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
7. โหระพา 1/2 ถ้วยตวง
8. ผักกาดหอม 15 ใบ

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

1. น้ำมะนาว 9 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลปึก 3 ช้อนโต๊ะ
4. พริกขี้หนูแดงซอย 6 ช้อนโต๊ะ
5. รากผักชีสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
7. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเมี่ยงทะเล

1. ปั่นส่วนผสมน้ำจิ้ม โดยใช้เครื่องปั่นอาหาร จนส่วนผสมละเอียดดี พักไว้
2. นำแผ่นเมี่ยงญวน แบ่งครึ่ง แช่น้ำ 10 วินาที (แช่ทีละแผ่น) นำผักกาด กะหล่ำปลี แครอท ใบโหระพา วางบนแผ่นเมี่ยงตามลำดับ จากนั้นนำอาหารทะเลวางอย่างละ 1 ชิ้น แล้วห่อให้แน่น แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟ พร้อมรับประทานคู่กับน้ำจิ้ม 

หอยนางรมอบซอสบาบีคิวกับหอยลายรสเผ็ด Spicy Clam BBQ Baked Oyster หอยนางรมสดๆจากฝรั่งเศส อบชีส ร่วมกันไปกับหอยลายปรุงรสเผ็ด เป็นการผสมผสานแบบหรูๆ บวกกับบ้านๆ อร่อยลงตัวครับ


สูตรอาหารหอยนางรมอบซอสบาบีคิวกับหอยลายรสเผ็ด Spicy Clam BBQ Baked Oyster

สำหรับ 1 ที่
เวลา 10-15 นาที

วัตถุดิบหอยนางรมอบซอสบาบีคิวกับหอยลายรสเผ็ด Spicy Clam BBQ Baked Oyster

1. หอยนางรมสด 1-2 ตัว
2. หอยลายปรุงรสเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
3. แซนวิชชีส 1 แผ่น
4. หอมแดงหั่นเต๋าเล็ก 1 ช้อนชา
5. พริกดอง Relish 1 ช้อนชา
6. บาบีคิวซอส 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำหอยนางรมอบซอสบาบีคิวกับหอยลายรสเผ็ด Spicy Clam BBQ Baked Oyster

1. เปิดหอย จากนั้นลงบาบีคิวซอสลงไป ต่อด้วยหอยลายปรุงรส หอมแดง และพริกดอง แล้วโปะด้วยชีส
2. เข้าอบที่ 180 องศา จนกว่าชีสจะละลายเยิ้ม
3. พอเยิ้มได้ที่ จัดลงเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคราต่างๆตามชอบ แค่นี้ก็พร้อมอร่อยได้แล้วครับ

ข้อแนะนำ

น้ำที่อยู่ในหอยค่อนข้างเค็มครับ ถ้าจะเก็บไว้ ให้ระวังรสเค็มด้วย

เมนูนี้ใช้วัตถุดิบหลักชั้นดีจากทะเล ไม่ต้องการการปรุงรสมากมาย แต่เน้นความสดของวัตถุดิบเป็นตัวให้รสชาติแบบธรรมชาติ ดังนั้นความอร่อยของอาหารจานนี้ ขึ้นอยู่กับการเลือกซื้อวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงนั่นเอง


สูตรสามกษัตริย์ผัดพริกเกลือ (ทะเลผัดพริกเกลือ)

เมนูนี้ใช้เวลาในการทำ 30 นาที
สำหรับ 2-3 ท่าน

วัตถุดิบสามกษัตริย์ผัดพริกเกลือ (ทะเลผัดพริกเกลือ)

1. กุ้งทะเล 200 กรัม
2. ปลาหมึก 400 กรัม
3. หอยเชลล์ 200 กรัม
4. โคนต้นหอมซอย 2-3 ต้น
5. รากผักชีสับหยาบ 2 ราก
6. กระเทียมสับหยาบ 5 เม็ด
7. พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเต๋า 3-4 เม็ด
8. แป้งโกกิ 1/2 ถ้วย
9. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
10. เกลือ 1/3 ช้อนชา
11. พริกไทย 1/3 ช้อนชา
12. เหล้าจีน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
13. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

วิธีทำสามกษัตริย์ผัดพริกเกลือ (ทะเลผัดพริกเกลือ)

1. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ประมาณ 170-180 องศาเซลเซียล
2. นำหอยลงฉ่า โดยไม่ต้องชุปแป้ง พักไว้
3. นำปลาหมึก ชุปแป้งบางๆ ลงทอดพอเหลือง พักไว้
4. นำกุ้งชุปแป้งบางๆพอเหลือง พักไว้
5. นำรากผักชี กระเทียม โคนต้นหอม ลงผัดไฟกลาง เติมเนื้อสัตว์ เติมเหล้าจีน เติมซีอิ๊วขาว คลุกให้เข้ากัน ปิดไฟ
6. โรยต้นหอมซอย พริกแดงหั่นเต๋า ค่อยๆเติม เกลือ น้ำตาล พริกไทย ทีละน้อย สลับกันจนทั่ว ควรใช้มือในการโรยส่วนผสมที่เป็นของแห้ง

กุ้งห่อผัก เป็นของว่าง ที่มีไฟเบอร์ วิตามินสูง และไขมันต่ำ อร่อย ทำง่าย ไม่เลี่ยน สามารถทำทานเล่นในครอบครัวหรือว่าสำหรับงานเลี้ยงก็ได้


สูตรอาหารกุ้งพันผัก - กุ้งห่อผัก

ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ส่วนผสมกุ้งพันผัก - กุ้งห่อผัก

1. น้ำส้มสายชูหมัก 3/4 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1/2 ถ้วย
3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
4. ซอสพริก 1/3 ถ้วย
5. กุ้ง เลือกขนาด 40-50 ตัวต่อโล
6. ไข่เจียวหั่นชิ้น
7. ต้นหอมลวก สำหรับมัด
8. ผักใบ เช่น ผักกาดหอม สลัดคอส สำหรับห่อกุ้ง และผักอื่นๆ
9. ผักที่จะห่อด้านในพร้อม กุ้ง เช่น แครอทลวก แตงกวา ผักชี สะระเหน่ ผักชีฝรั่ง ตามชอบ

วิธีทำกุ้งพันผัก - กุ้งห่อผัก

1. ทำน้ำจิ้ม โดยการ ต้มน้ำส้มสายชู กับน้ำตาล และน้ำปลา จนเดือด ปิดไฟ แล้วพักไว้ให้เย็น
2. นำ 1 มามาผสมกับซ้อสพริก ใช้ตะกร้อมือ คนให้เข้ากัน
3. ลวกกุ้ง ในน้ำต้มเดือด ใส่เกลือเล็กน้อย
4. นำผักใบ มาห่อกุ้ง ไข่เจียว และผักแนมอื่นๆ
5. จัดเสริฟพร้อมน้ำจิ้ม

ผัดไทยกุ้งสด คงต้องพูดว่าผัดไทยเป็นเมนูที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่รู้จักกันดี แทบจะเป็นเมนูประจำชาติเลยก็ว่าได้ แต่จานนี้พิเศษตรงที่ใส่กุ้งแม่น้ำตัวโตๆเนื้อแน่นๆ และคงไม่ต้องบอกว่าอร่อยแค่ไหน ลองชิมดูซิแล้วคุณจะติดใจ


สูตรอาหารผัดไทยกุ้งสด

สำหรับ 1-2 ที่
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

ส่วนผสมผัดไทยกุ้งสด

1. เส้นจันท์ 100 กรัม (สำหรับผัดไทยโดยเฉพาะ)
2. กุ้งแม่น้ำ 2 ตัว
3. เต้าหู้เหลือง 1/2 ถ้วย (หั่นตามยาวหนา 1 ซม.)
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. หัวไชโป๊สับละเอียด ( แบบหวาน ) 1 ช้อนชา
6. กุยช่าย 3 ต้น
7. ถั่วงอก 1 ถ้วย
8. ถั่วลิสงคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
9. กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
10. พริกป่น 1 ช้อนชา
11. น้ำปรุงผัดไทย 2 ช้อนโต๊ะ
12. น้ำซุปซี่โครงไก่ 1/4 ถ้วยตวง
13. น้ำมันสำหรับผัด ( ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำผัดไทยกุ้งสด

1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กุ้งแม่น้ำลงไปทอดพอสุก แล้วนำขึ้นมาพักไว้ก่อน
2. เทน้ำมันใส่กระทะ ใส่ไชโป้วหวานลงไปผัด ตามด้วยกุ้งแห้งและน้ำปรุงผัดไทย คนให้เข้ากัน
3. ตอกไข่ใส่ตามลงไป ไม่ต้องรอให้ไข่สุก ก็ให้ใส่เส้นจันท์ลงในกระทะได้ทันที และเติมน้ำซุปไก่ลงไป
4. ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน เมื่อเส้นก๋วยเตี๋ยวเริ่มนิ่ม เติมพริกป่น , ถั่วลิสงป่น , เต้าหู้เหลืองผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
5. สุดท้ายใส่ถั่วงอกและใบกุ่ยช่ายลงไป ผัดไม่ต้องให้ผักสุกมาก เป็นอันเสร็จ พร้อมเสริ์ฟได้ทันที

เป็นอาหารที่หลายท่านยังไม่ให้การยอมรับ เนื่องจากวิธีการทำที่ค่อนข้างโหดร้ายสักเล็กน้อย แต่เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อมากทางแถบภาคอีสาน หาทานได้ตามร้านส้มตำ จิ้มจุ่ม ร้านอาหารอีสาน ตามที่ต่างๆมากมาย แต่วันนี้ วิธีการทำจะแตกต่างออกไปโดยการน๊อคกุ้งให้สลบตายสนิทไปเสียก่อนแล้วค่อยนำมาปรุงอาหาร การน๊อคน้ำเย็นเป็นการฆ่าสัตว์น้ำ อย่างปราณีที่สุดที่มีในปัจจุบันแล้ว นิยมมากตามร้านอาหารซีฟู๊ดทั่วไป โรงแรมต่างๆ ร้านที่ขายอาหารซีฟู๊ดมักจะใช้วิธีนี้ทั้งนั้น


สูตรกุ้งเต้น

สำหรับ 1-2 ท่าน
ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

วัตถุดิบกุ้งเต้น

1. กุ้งฝอย 1 ถ้วยตวง
2. หอมแดงซอย 3-5 หัว
3. ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
4. พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผักชีลาบซอย 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
9. สะระแหน่ 10 ใบ หรือไม่ใส่ก็ได้

วิธีทำกุ้งเต้น

1. กุ้งฝอยหากยังไม่ตาย ให้นำไปน๊อคด้วยน้ำเย็นจัดๆสัก 5 นาทีจนสลบทั้งหมด นำขึ้นสะเด็ดน้ำพักไว้จนแห้ง
พักไว้ในตู้เย็น
2. ผสมน้ำยำด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว พริกขี้หนูซอยหรือทุบ จนละลายเข้ากัน
3. ผสมทั้งหมดด้วยกัน ข้อ 1-5 คลุกเค้าพอเข้ากัน โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ หรือผักชี ต้นหอม

เมนูผสมผสาน ที่รวมเอากลิ่นอายของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทั้งเกาหลี และแม็กซิกันเข้าด้วยกัน เสริมอรรถรสเข้าไปด้วยกุ้งกุลาดำตัวบิ๊กเบิ้มย่างจนกลิ่นหอมฉุย จานนี้เชื่อเถอะว่า คนในบ้านคุณจะต้องร้องว้าวแน่นอน


สูตรกุ้งย่างซอสแม็กซีโคเรีย Grilled Shrimp with Mexi-Korean Sauce

สำหรับ 1-2 ที่
ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

วัตถุดิบกุ้งย่างซอสแม็กซีโคเรีย Grilled Shrimp with Mexi-Korean Sauce

1. กุ้งกุลาดำ 3-4 ตัว
2. ขนมปังกรอบ 4-5 ชิ้น
3. บาบีคิวซอส 3-4 ช้อนโต๊ะ
4. ซอสโคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผง Old Bay 1 ช้อนชา
6. น้ำมันพริกเผา 2 ช้อนชา
7. พริก Jalapeno 2-3 สไลท์
8. ผักสลัด ตามชอบ
9. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
10. โซจู 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำกุ้งย่างซอสแม็กซีโคเรีย Grilled Shrimp with Mexi-Korean Sauce

1. ปรุงกุ้งด้วยเกลือ พริกไทย และ Old Bay จากนั้นย่างบนกะทะร้อนจัดด้วยน้ำมันมะกอก ให้ได้สีสวยทั้งสองด้าน แล้วนำขึ้นมาพักไว้ ปล. พริกJalapeno ก็ย่างไปพร้อมๆกันได้นะครับ
2. ในกะทะใบเดิม ลงโคชูจัง กับบาบีคิวซอส เคี่ยวให้เข้ากัน เชื่อมกันด้วย โซจู อาจลงน้ำสต๊อกได้นิดหน่อย ตีให้เข้ากันแล้วลงกระเทียม ปรับรสด้วยเกลือพริกไทย ตามชอบครับ
3. ลงซอส Mexi-Korean ลงจาน แล้วจัดกุ้งย่างที่เราพักไว้ลงมาจัดให้งามแงะ แล้วตกแต่งด้วยพริก Jalapeno ย่าง และผักสลัดต่างๆ รวมทั้ง ขนมปังกรอบเพื่อเสริมรสสัมผัส ให้ครบเครื่องยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้ จานที่ทุกคนต้องร้องว้าว ว้าว ว้าว ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ

ข้อแนะนำ

เวลาย่างกุ้ง ให้ย่างพอสีขึ้นทั้งสองด้านพอครับ อย่าให้สุกจนเกินไป เพื่อรสสัมผัสที่ดีเยี่ยม เชื่อผม

เมนูกุ้งทอดอีกหนึ่งเมนู ที่มีกลิ่นไอความเป็นไทยด้วยซอสมะขามรสชาติแบบไทยๆนั้นเอง กุ้งคลุกแป้งให้เคลือบตัวกุ้ง นำไปทอดให้พอสุก ราดด้วยน้ำซอสมะขามเปียก รสชาดเปรี้ยวหวาน โรยด้วยผักชี หอมเจียว แค่นี้ก็ได้เมนูกุ้งทอดจานอร่อยแล้วครับ ไม่ว่าจะทานกับข้าวหรือทานเปล่าๆ ก็อร่อยทั้งคู่ครับ


สูตรอาหารกุ้งทอดซอสมะขาม

ระยะเวลา 50 นาที
สำหรับ 3-4 คน

วัตถุดิบกุ้งทอดซอสมะขาม

1. กุ้งวังหรือกุลาดำ (กุ้งล้างแกะเปลือก-เก็บหัว หางไว้- ผ่าหลังชักไส้ออก) 5 ตัว
2. แป้งมัน 1/4 ถ้วย
3. เกลือและพริกไทย 1 ช้อนชา

ซอสมะขาม
4. หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. มะขามเปียก 1/4 ถ้วย
6. น้ำปลา 1/4 ถ้วย
7. น้ำตามปีบ 1/4 ถ้วย
8. งาคั่วป่นหยาบๆ 1 ช้อนโต๊ะ
9. พริกขี้หนูแห้งทอด 4 – 5 เม็ด
10. หอมเจียว 1/4 ถ้วย

วิธีทำกุ้งทอดซอสมะขาม

1. กุ้ง – ผ่าหลังแบ่งครึ่งอย่าให้ขาด เจาะเนื้อกุ้งให้เป็นตรงกลางค่อนมาทางหาง ม้วนหางกุ้งผ่านรู ให้กุ้งขมวด นำไปคลุกแป้งมันที่ผสมเกลือและพริกไทย ทอดไฟแรง ดูพอสีเนื้อสุก ตักขึ้น สะเด็ดน้ำมันพักใส่ภาชนะไว้
2. กะทะตั้งไฟกลางใส่น้ำมันพืช เจียวหอมให้พอเหลือง หรี่เป็นไฟอ่อน ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปีบยีไม่ให้เป็นก้อน ใส่ น้ำปลา ชิมรสออกเปรี้ยวหวาน เค็ม (ใช้เกลือช่วยตัดรสได้เล็กน้อย) เคี่ยวให้พอข้น ดูน้ำจะใสขึ้น อย่าให้เหนียวไป เพราะเวลาทิ้งให้เย็นตัว จะเหนียวขึ้นอีก ถ้าเหนียวจนเกินไปใส่น้ำช่วยคลายน้ำตาล ใส่งาคั่วป่น และพริกทอด นำไปราดบนตัวกุ้ง แต่งหน้าด้วยใบผักชี

กุ้งนึ่งไข่นมสด เป็นเมนูที่หน้าตาและรสชาติคล้ายไข่ตุ๋นเป็นอย่างมาก แต่จะมีรสของนมสดเพิ่มเข้ามาจะยิ่งทำให้อร่อยยิ่งขึ้น และเนื้อกุ้งจะค่อนข้างนิ่มเละง่ายกว่าไข่ตุ๋นเพราะมีส่วนผสมที่เป้นน้ำอยู่มาก น่าจะเป็นที่ถูกใจของคนชอบทานไข่นิ่มๆ


สูตรกุ้งนึ่งไข่นมสด

สำหรับ 1-2 ที่
เวลา: 15 นาที

วัตถุดิบกุ้งนึ่งไข่นมสด

1. กุ้ง 4-5 ตัว
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. นมสดรสจืด 1/2 ถ้วย
4. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ 1/2 ช้อนชา
6. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
7. เห็ดหอม 2 ดอก

วิธีทำกุ้งนึ่งไข่นมสด

1. แกะเปลือกกุ้ง เอาเส้นดำออก ล้างให้สะอาด
2. ผสมไข่ นมสด น้ำ ซีอิ๊วขาว เกลือเข้าด้วยกัน แล้วกรองผ่านกระชอนใส่ลงชาม แล้วนำไปนึ่งไฟอ่อนประมาณ 5-10 นาที
3. เปิดฝา แล้ววางกุ้งด้านบน และนึ่งต่ออีกประมาณ 5-10 นาที จนกุ้งสุก (แล้วแต่ภาชนะที่นำไปนึ่ง ถ้าชามบางก็จะสุกเร็ว ถ้าหนาก็จะใช้เวลานึ่งนาน) นำลงจากเตาเสิร์ฟทานได้ทันที

 

ไก่ในรัง (ไก่บาร์บีคิวในกระทงหมี่กรอบ)เมนูทานเล่น ที่น่ารักสมกับชื่อ เมนูไก่ในรัง เป็นการดัดแปลงเอาเส้นบะหมี่ธรรมดา มาสานเป็นรังเล็กๆ ทอดให้กรอบ ชิ้นพอคำ ทานคู่กับไก่ผัดซอสบาร์บีคิว และผักลวก เช่น ก้านผักคะน้าและแครอท


สูตรไก่ในรัง (ไก่บาร์บีคิวในกระทงหมี่กรอบ)

สำหรับ 4 ที่
ระยะเวลาในการทำ 30 นาที

ส่วนผสมไก่ในรัง (ไก่บาร์บีคิวในกระทงหมี่กรอบ)

1. บะหมี่หรือบะหมี่หยก 300 กรัม
2. เนื้อสะโพกไก่หั่นชิ้น 200 กรัม
3. ก้านคะน้าลวก 1/2 ถ้วยตวง
4. แครอทหั่นแว่น 20 แว่น
5. หอมแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ
7. ซอสสำเร็จรูป รสบาร์บีคิว 3 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
9. น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง (สำหรับทอด)

วิธีทำไก่ในรัง (ไก่บาร์บีคิวในกระทงหมี่กรอบ)

1. นำเส้นบะหมี่มาพันเป็นรูปวงกลม หลวมๆ แล้วนำไปทอดให้เหลืองกรอบ
2. หมักซอสปรุงอาหาร กับเนื้อไก่ จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช รอให้ร้อน ใส่หอมแดงผัดพอหอม ตามด้วยเนื้อไก่ที่หมักไว้ลงผัด พอเริ่มสุกปรุงรสด้วยซอสสำเร็จรูป รสบาร์บีคิว ผัดจนกระทั่งไก่สุกดี พักไว้
3. นำบะหมี่ทอดกรอบ ไก่บาร์บีคิว และผัดต่างๆ จัดเป็นชิ้นพอคำ และจัดเสิร์ฟ
 

ทอดมันกุ้งเป็นอาหารยอดนิยมของบ้านเรา ในสูตรนี้ได้ใช้วิธีการทำทอดมันกุ้งนำมาผสมกับวัตถุดิบของอาหารยุโรป อย่างอัลมอนด์ แถมยังมีไส้ไข่แดงเค็มอยู่ข้างใน เพื่อสร้างความน่าสนในให้ตัวทอดมันกุ้ง อีกทั้งยังเพิ่มซอสมายองเนสกับผิวมะนาว เหมือนเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับการรับทานทอดมันกุ้งอีกด้วย


สูตรทอดมันกุ้งหุ้มเกราะ (ทอดมันกุ้งเคลือบอัลมอนด์)

เมนูนี้ จัดเสริฟลูกละประมาณ 50-70 กรัม จานละ 5 ลูก สามารถจัดเสิร์ฟได้ ประมาณ 3-4 ที่ กำลังพอดี แล้วแต่ขนาดของการปั้นทอดมันกุ้ง

ใช้เวลาในการทำประมาณ 1 ชั่วโมง

วัตถุดิบทอดมันกุ้งหุ้มเกราะ (ทอดมันกุ้งเคลือบอัลมอนด์)

1. เนื้อกุ้งกุลาสับ 600 กรัม
2. มันหมูแข็งสับ 300 กรัม
3. ไข่ขาว 30 กรัม
4. ไข่แดง ให้พอที่จะชุบทอด
5. ไข่แดงเค็ม 1 ลูก
6. แป้งมันฮ่องกง 2 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 6 กรัม โดยประมาณ
8. พริกไทย 2 กรัม โดยประมาณ
9. น้ำมันงา 8 กรัม
10. แอลมอนด์
11. น้ำมันสำหรับทอด
12. มายองเนส ผิวมะนาว น้ำจิ้มบ๋วย ผักชี ไว้ตกแต่ง

วิธีทำทอดมันกุ้งหุ้มเกราะ (ทอดมันกุ้งเคลือบอัลมอนด์)

1. แกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก คลุกแป้งมันให้ทั่ว ล้างด้วยน้ำเปล่า สะเด็ดน้ำจนแห้ง ซับด้วยผ้าสะอาดจนกุ้งหมาด ใช้มีดตบให้แบน สับด้วยสันมีดให้พอละเอียด เข้าตู้เย็นทิ้งให้เย็นจัด
2. ล้างมันหมูให้สะอาด ขูดเอาเลือดที่ติดอยู่ออกจนหมด ซับให้แห้ง สับจนละเอียด แช่เย็นจัด
3. นำมันหมูสับและกุ้งสับ ผสมรวมกัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ไข่ขาว น้ำมันงา แป้งมัน ผสมจนเข้ากันดี ในอ่างผสม ฟาดด้วยมือจนเหนียว แช่เย็น
4. นำไส้ทอดมันกุ้งที่ได้ แบ่งเป็น ส่วนๆพอคำ แบออก นำไข่แดงวางตรงกลาง ห่อไส้ทอดมันกุ้งจนรอบไข่แดง คลุกกับไข่แดง และแอลม่อน ลงทอดในน้ำมันที่ร้อน 150 องศาเซลเซียล เสิร์ฟ กับมายองเนส ผสมผิวมะนาว กับน้ำจิ้มบ๊วย

ข้อแนะนำ

ตัวกุ้ง กับมันหมู หลังจากทำความสะอาด ต้องซับน้ำออก จนหมาด หลังจากสับละเอียดควรแช่เย็นในช่องธรรมดา การปรุงรสให้ปรุงทีละน้อยก่อน วิธีการเช็ครสชาติ นำทอดมันกุ้งส่วนเล็กๆ ลงทอด หรือ เอาอลูมิเนียมฟลอยห่อ แล้ววางบนกระทะ จนสุก ก็จะสามารถชิมรสชาติ ถ้าไม่ชอบก็สามารถปรุงเพิ่มตามชอบใจ

 

อาหารไทยโบราณที่ทำได้ง่ายๆ ใช้กุ้งสุกมาคลุกเคล้ากับผักและสมุนไพรต่างๆ ปรุงรสเปรี้ยว เค็ม หวาน คล้ายกับยำแต่ไม่มีรสเผ็ด


สูตรอาหารแสร้งว่ากุ้ง (อาหารไทยโบราณ)

ระยะเวลา 30 นาที
สำหรับ 1 – 2 คน

เครื่องปรุงแสร้งว่ากุ้ง (อาหารไทยโบราณ)

1.กุ้งใหญ่ (นึ่ง/ต้ม/เผา-แกะเปลือก-หั่นเฉียงเป็นชิ้นๆ) 4 ตัว
2.ขิง (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
3.หอมแดง (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
4.ต้นหอม (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
5.ผักชี (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
6.ตะไคร้ (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
7.ใบมะกรูด (ซอย) 1 ช้อนโต๊ะ
8.มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำมะกรูด/น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
10.น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
11.น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแสร้งว่ากุ้ง (อาหารไทยโบราณ)

1. อ่างผสมใส่น้ำมะขามเปียก น้ำมะกรูด น้ำตาล น้ำปลา คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่กุ้ง ขิง หอมแดง ต้นหอม ผักชี ตะไคร้ ใบมะกรูด เคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน ใส่จานเสริฟ