สาธุค่ะ น้าแม็ก
เห็นด้วยกับน้าอีกแล้วล่ะ
ถ้าให้แล้วเราไม่เดือดร้อน ให้แล้วเราสบายใจก็น่าจะ ok แล้วนะคะ
ส่วนคนที่รับไปจะได้อะไรบ้าง หรือจะเอาไปทำอะไร ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าเราสามารถทำให้ใครมีดวงตาเห็นทำได้แม้แต่ซักคนเดียว ก็ถือว่าคุ้มแล้วล่ะค่ะ
คนเรามีบุญนำมา กับมีความเพียรของตัวเองเป็นส่วนประกอบ ถ้าอาศัยบุญอย่างเดียว
ไม่เพียรพยายาม สิ่งที่ทำก็ไม่ใช่จะสำเร็จ แต่บางคนมีความเพียรเป็นเลิศ แต่ไม่มีบุญ
หนุนนำ ก็ทำได้แค่นั้น
การทำบุญด้วยการให้ ยิ่งให้ก็จะยิ่งได้รับ ทุกครั้งที่ทำบุญ ก็ขอให้ภาวนาเสมอ ๆ ว่า
ขอให้มีโอกาสได้ทำบุญ ได้ช่วยเหลือคนและสัตว์ให้พ้นทุกข์ให้ได้มาก ๆๆ ขึ้นเรื่อย ๆ
ร้อยเท่าทวีคูณนะคะ สาธุ ...........แบบนี้ถึงจะเรียกว่ายิ่งทำยิ่งรวย ไม่ใช่ภาวนา
ให้ถูกหวย ถูกเบอร์ ภาวนาให้รวยๆ ๆ ๆ .........เพราะ ไม่มีใครรู้ว่า รวยๆ คือแค่ไหน
แต่ถ้ารู้จักให้แสดงว่ารู้จักพอ เรียกว่ารวยแล้วก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น การยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับ
ก็คือได้รับความอิ่มใจ สุขใจ แล้ววันข้างหน้าก็ไม่ต้องห่วงว่าจะยากจนเพราะเรารู้จักให้
ในสิ่งที่พอสมควร ไม่ใช่วิ่งทำบุญด้วยเงินก้อนโตตามวัดต่างๆ แล้วจะได้บุญมากมาย
เพียงแต่รู้จักให้ รู้จักแบ่งปันตามสมควรแก่ฐานะก็เป็นบุญกุศลมหาศาลแล้วค่ะ
ส่วนคนที่รับไปจะได้ประโยชน์อย่างไร ก็สุดแล้วแต่บุญวาสนาแล้วล่ะค่ะ
เราไปกำหนดไม่ได้ แต่ถ้าเราแจกเฉพาะคนที่ต้องการจริง ๆ แล้วขอมา
ก็แสดงว่าคนเหล่านี้เริ่มรู้ถึงประโยชน์ของธรรมะแล้ว เค้าก็น่าจะขวานขวาย
หามาเองได้แล้ว แต่ถ้าเรานำไปวางแจกตามสถานที่ต่าง ๆ ก็อาจจะทำให้คน
ที่ไม่เคยศึกษาธรรมะเลย หรือไม่เคยฟังธรรมเลย หยิบไปฟัง หรือได้ยินได้ฟัง
โดยบังเอิญ และกลับมาสนใจธรรมะได้ ซึ่งตรงนี้น่าปลื้มใจกว่าการให้แต่คนที่
สนใจฟังเสียอีก
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะคิดยังไง การให้ธรรมะ ก็ถือเป็นการสร้างกุศลที่สูงสุดจริงๆ
โมทนาสาธุกับทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ