
1. ความรักแบบเสน่หา ( Eros) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต มีความดึงดูดใจซึ่งกันและกันแสดงออกมาทั้งคำพูดและความใกล้ชิด อยากเจอกันทุกวันถ้าเป็นไปได้ วาดฝันและไม่ได้คาดการณ์ถึงอุปสรรคใด ๆ
2. ความรักแบบไม่ผูกมัด ( Ludus) เป็นเหมือนเกมส์ชนิดหนึ่ง ไม่ต้องการผูกมัด พยายามที่จะไม่สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง เพื่อรักษาความเป็นอิสระของตน เปลี่ยนไปตามสภาพ จะไม่หึงหวงหรือแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
3. ความรักแบบมิตรภาพ ( Storge) พัฒนามาจากมิตรภาพ เป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานาน ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น เร่าร้อน แต่เน้นการที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกัน มั่นคง
4. ความรักแบบลุ่มหลง ( Mania) เชื่อว่าเป็นความเจ็บปวด มีปรารถนาความใกล้ชิด และต้องการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสูง อาจจะทำร้ายตนเองเพื่อเอาชนะ หรือเชื่อว่าเมื่อปราศจากความรัก ชีวิตก็ไม่มีคุณค่า
5. ความรักแบบมีเหตุผล ( Pragma) ตั้งอยู่บนรากฐานของความเป็นจริง แสวงหาคนรักที่เหมาะสมกับตน สามารถตอบสนองความต้องการของกันและกัน ได้แสวงหาคนที่มีลักษณะคล้ายตนหรือต่างจากตน แต่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาด

6. ความรักแบบเสียสละ ( Agape) เป็นความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว ต้องการเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับมีความห่วงใย และคำนึงถึงความสุขผู้อื่นโดยไม่ใส่ใจกับความต้องการของตนเอง เช่น ความรักทางศาสนาของพระเยซูคริสต์ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน ความรักของพ่อและแม่

รูปแบบของความรักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและมีหลายๆ แบบปนๆ กับลักษณะของบุคคลที่เรามีความสัมพันธ์หรือคุณคิดอย่างไร? ภาพความจริงของความรักหรือสุขใจในระยะแรกๆ Men & Women ปัจจุบันมองความรักและมีบทบาทเปลี่ยนไปหรือเปล่า ??? หากเรามองความรักแบบ Serious โดยเอา Feminist Theory มาจับ จะพบว่า พลังของความรักที่ดี มีผลทางบวกต่อชีวิตผู้คนมากมายแน่นอน ทุกๆ การตัดสินใจในชีวิตเปรียบเมือนการเปรียบเทียบ อย่างไรก็ดีการให้สิ่งที่มีคุณค่ามากักขัง และอย่าสร้างภาพฝันที่อาจไม่สามารถเป็นจริงได้ => ลองมีความสุขแบบง่ายๆ พอดีๆ กับทางสายกลางในทุกๆ วัน ที่ผ่านไป แม้ในการดำรงชีวิตที่แท้จริงทุกๆ วัน การมีรักหรือไม่มีก็แทบไม่ต่าง ไม่หวือหวาหรือเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องปรับเข้าหากัน อย่างน้อยถ้ามีสติ 'กำลังตกหลุมรักใคร' (Love Fallen) ก็ไม่ควรที่จะ 'ทุกข์ หรือ หลง' ไปกับกลไก Illusion สิ่งสมมติของอารมณ์รักจากจินตนาการ จนสมบูรณ์แบบเตลิดกันไปแทบทุกอย่าง...ซึ่ง 'ความสมบูรณ์แบบ' ไม่มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงค่ะ

(บทความตีพิมพ์ใน นิตยสาร ดิฉัน รายปักษ์
ฉบับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2552) -With Love & Truly-
[/size]
Credit by :
http://sivarnee.spaces.live.com/blog/cns!A1908597D7518FCB!640.entry
Pics by : google
ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ