[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 17:45:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจง แปลงกายเป็นเสือทดสอบคณะธุดงค์ โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง  (อ่าน 26419 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ลั้ลลา
ผู้ดูแลบ้านสุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 2097


【ツ】ต้นไม้แห่งแสง

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 36.0.1985.143 Chrome 36.0.1985.143


หน้ากู
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 22 สิงหาคม 2557 12:48:41 »

หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจง แปลงกายเป็นเสือทดสอบคณะธุดงค์ โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจงแปลงกายเป็นเสือ
เพื่อทดสอบคณะธุดงค์
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ขณะที่นั่งคุยกันอยู่นั่นเอง บรรดาท่านทั้งหลายก็ปรากฏว่า
มีเสือลายพาดกลอน ๒ เสือ อาตมาจะไม่เรียกว่า ๒ ตัว ...
ทั้งนี้เพราะว่า จะเป็นการปรามาสครูบาอาจารย์ สองเสือ
ย่างสามขุมเข้ามา ท่าทางดุดัน องอาจมาก ทำท่าคล้าย
กับว่าจะกินพวกเรา ทั้ง ๓ คนเห็นเข้า ก็นึกในใจว่า
เสือมาแล้ว ทุกวันเราเห็นแต่เพียง เสือปลาบ้าง
เสือดาวบ้าง แต่วันนี้เจอะลายพาดกลอน แล้วก็ยาว
มากใหญ่มาก ถ้าแกจะกินเราก็รู้สึกว่า ๓ คนอิ่มพอดี ๆ
ทุกคนตั้งใจเลิกพูด ตอนนี้เลิกพูดแล้ว เพราะอะไรรู้ไหม
เพราะว่าทุกคนยังกลัวตายอยู่ ไม่ใช่ไม่กลัวตาย

ก็นึกในใจว่า เวลานี้เสือมา ถ้าเสือทำร้ายเรา เราก็ต้องตาย
แต่ความตายของเรามีความหมาย นั่นคือ ถ้าเราตายเวลานี้
เราจะไปอยู่พรหม นี่ผู้พูด ผู้เขียนนะ คิดอย่างนี้นะ อีก ๒ องค์
เขาคิดอย่างไรก็ไม่ทราบ อีก ๒ องค์ดูเหมือนว่าจะตั้งใจ
ไปนิพพานเลย แต่ว่าผู้เขียนเอง ไม่เข้าใจเรื่องนิพพาน
ก็คิดว่า ถ้าตายเวลานี้เราอยู่พรหม ทำไมจึงจะไปพรหม
ถ้าหากว่าเราจะไปชั้นดุสิตไม่ดีหรือ ในเมื่อเราปรารถนา
พุทธภูมิ ก็มีความรู้สึกว่า ชั้นดุสิตนี่มีนางฟ้ามาก
พระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง มีนางฟ้าเป็นบริวาร เป็นหมื่น ๆ
ถ้าไปอยู่พรหม เราอยู่คนเดียว พรหมองค์หนึ่ง วิมาน
หลังหนึ่ง มีพรหมองค์เดียว ไม่มีบริวาร สำหรับบริวาร
ก็มีวิมานคนละหลัง ไม่อยู่ร่วมกัน เราชอบ อารมณ์เป็นสุข

เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็เริ่มจับ อานาปานสติ แล้วเสือก็ย่าง
๓ ขุมเข้ามา หลับตานึกถึงภาพพระพุทธเจ้าเท่าที่เคยเห็น
เห็นชัดเจนแจ่มใสมาก เห็นตามเดิม ท่านอยู่กับ ลุงพุฒ
คือ มหาพุฒ เห็นท่านทรงแย้มพระโอษฐ์ ก็ชื่นใจ คิดว่า
เอาละ ช่างมัน คราวนี้กายเนื้อมันจะตาย แต่กายที่ไม่ใช่
กายเนื้อเราจะไปพรหม แล้วเสียงลุงพุฒก็ถามมาบอกว่า
ไปแค่พรหมน่ะ พอใจแล้วหรือ ก็เรียนท่านบอกว่า ในเมื่อ
มาจากพรหม ก็ขอไปพรหม ท่านก็บอกว่า ไปชั้นดุสิต
ไม่ดีหรือ เป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ ก็บอกว่า ผู้หญิงมาก
และผู้หญิงที่นั่นก็สวยมาก ก็เกรงว่า กำลังใจจะยุ่งกับผู้หญิง
มากเกินไป เดี๋ยวกังวลจะมีมาก ก็ขอไปอยู่พรหม ไปอยู่คนเดียว

ท่านก็บอก ตามใจ นั่งทำสมาธิไป จิตใจจับที่ภาพพระพุทธเจ้า
อย่างเดียว ไม่ไปไหน ก็คิดว่า ร่างกายมันจะเป็นอาหารของเสือ
เวลานี้ก็ช่างหัวมัน ไม่สนใจแล้ว แล้วก็ประกอบกับความรู้สึกว่า
คิดว่าดี ถ้าตายเวลานี้ ดี เราอยู่กับพระพุทธเจ้า อย่างไร ๆ
เราก็ไม่ลงนรก จิตใจชุ่มชื่น ต่างคนต่างทำสมาธิกัน อีก ๒ องค์
เขานึกอย่างไร อาตมาไม่ทราบ สักพักใหญ่ ๆ เสือก็ไม่กิน
พอลืมตาขึ้นมาดู เสือนั่งข้างหน้าเฉย ๆ นั่งมองคนนั้น
นั่งมองคนนี้ ในเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้ว ก็ถามเสือว่า ทำไมแก
จึงไม่กินฉันล่ะ เสือขยับหนวด ขยับปาก ก็บอกว่า เสือ ๒ ตัวนี่
ไม่กินโว้ย เสือ ๒ ตัวนี่อยากจะรู้ว่า ลูกศิษย์ที่ปล่อยเข้ามาอยู่ป่า
ศรีประจันต์นี่ มันจะมีกำลังใจขนาดไหน มันจะมีความกล้าหรือ
มีความกลัว การตัดสินใจผิดหรือตัดสินใจถูก เสียงเสือตัวที่พูด
ตัวแรก เสียงเหมือนหลวงพ่อปานชัด เสือพูดภาษาคน และเสือ
ที่สองก็พูดเบา ๆ เหมือนเสียงหลวงพ่อจง

ท่านบอกว่า การตัดสินใจแบบนี้น่ะ ถูกต้องทุกองค์ สององค์นั่น
ตัดสินใจเพื่อนิพพานตรง เพราะเป็นพุทธสาวก ปรารถนา
สาวกภูมิถูกต้อง ต้องทำอย่างนี้ และองค์นี้ปรารถนาพรหม
ก็ดี เพราะปรารถนาพุทธภูมิ ตั้งใจไปพรหม รวมความว่า
ทุกองค์ตัดสินใจถูก ความกลัวย่อมมีแก่คนทุกคน บุคคลใด
ถ้ายังไม่เป็นอรหันต์ก็ตาม ยังไม่ใช่พระพุทธเจ้า ยังไม่ใช่
ม้าอาชาไนย หรือไม่ใช่พระเจ้าจักรพรรดิ์ต้องกลัว แต่การ
กลัวของพวกคุณทั้งหมดถูกต้องเป็นการกลัวที่ถูก คือ กลัว
เสือจะกิน แต่ก็ไม่กลัวในการที่จะไปเป็นพรหม ไปนิพพาน

หลังจากนั้น เสือทั้ง ๒ เสือ ค่อย ๆ คลายตัว เป็นหลวงพ่อปาน
กับหลวงพ่อจง ในเมื่อกลายเป็นหลวงพ่อทั้งสอง ก็ลุกขึ้นกราบ
ท่านด้วยความเคารพ อิ่มใจ ชื่นใจ น้ำตาไหล ท่านถามว่า
ดีใจรึ บอกดีใจขอรับ ถามว่า หลวงพ่อเป็นเสือได้อย่างไร
ท่านบอกว่า มันเรื่องของฉันน่ะ ฉันจะเป็นเสือจะเป็นแมว
ฉันจะเป็นอะไรมันเรื่องของฉัน ไม่ต้องถาม พวกเธอทำตาม
คำสั่งได้ดีที่สุด แล้วการกระทำของพวกเธอทั้งหมดนี่
มันไม่พ้นสายตาของฉัน ก็ถามว่า หลวงพ่อส่งตาทิพย์
มาดูหรือ ท่านก็เลยบอกว่า งานของฉันมาก ไม่มีเวลา
จะดูพวกเธอ แต่เทวดาเขารายงาน เทวดารายงานทุก
อิริยาบทที่เธอทำ เธอจะนั่งท่าไหน จะนอนท่าไหน
เขาบอกหมด

ก็รวมความว่า ไม่พ้นสายตาของท่าน เพราะเทวดาบอก
ท่านก็เลยบอกว่า วันนี้เป็น วันวิสาขบูชา ทุกองค์ก็ตั้งใจ
ไปพระมหาจุฬามณีเจดีย์สถานก็แล้วกัน ไปตั้งใจอธิษฐานว่า
จะอยู่ที่นี้จนกว่าจะได้อรุณจึงจะลง ถ้าตัดสินใจอย่างนั้น
พอได้อรุณปั๊บมันจะเคลื่อนลงทันที เมื่อท่านสอนแบบนั้นแล้ว
ท่านก็หายไป เราก็กราบตามหลังท่าน ไม่รู้ว่าท่านไปอย่างไร
ร่องรอยก็ไม่มี เงาก็ไม่มี ไม่รู้ว่าหายไปไหน



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

เราช่วยกันนำต้นรักที่เพาะได้
   ส่งไปตาม บ้านที่ต้องการ
       อยากจะได้...
   หรืออยากจะเติม
น้ำมนต์
นักโพสท์ระดับ 5
*****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 36


เย็นฉ่ำ เย็นชื่น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 37.0.2062.120 Chrome 37.0.2062.120


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 กันยายน 2557 10:39:24 »



ภาพหลวงพ่อจงเสกน้ำมนต์ ใหลจากมือลงขวดเปล่าที่วัดสุทัศน์



เกี่ยวกับประวัติภาพถ่ายนี้ คือ ในงานพุทธาภิเษกแห่งหนึ่ง ครั้งนั้นทางเจ้าภาพได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ไปหลายรูปด้วยกัน ซึ่งเจ้าของภาพจำ ได้ว่า 2 องค์ที่เขาเห็นและศรัทธาอย่างยิ่งก็คือ
1.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขันธ์
2.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
สาเหตุเพราะได้ประจักษ์กับตา ถึงอภินิหารของทั้งสองท่านนี้ แต่ว่าไม่สามารถถ่ายภาพของหลวงพ่อคล้ายได้ ถ่ายได้เฉพาะหลวงพ่อจงรูปเดียวเพราะเขาไม่คิด ว่าจะมีการทดลองวิชาของพระคุณเจ้าเกิดขึ้น ที่มาของภาพมีดังนี้
ในงานนั้นพ่อท่านคล้ายและหลวงพ่อจง นั่งพักอยู่ใกล้ๆกันก็บังเอิญมีโยมคนหนึ่ง มาขอให้ พ่อท่านคล้ายช่วยทำน้ำมนต์ให้ พ่อท่านจึงบอกกับโยมคนนั้นว่า ให้ไปเอาขวดมา และเอาน้ำมาแก้วหนึ่งด้วยท่านจะทำน้ำมนต์ให้ โยมคนนั้นก็ไปเอาขวดและน้ำมาให้พ่อท่านคล้ายทำน้ำมนต์ พ่อท่านรับแก้วน้ำมาแล้วให้โยมคนนั้นเอาขวดไปตั้งไว้ข้างหน้าห่างไปพอสมควร จากนั้น พ่อท่านก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาเหมือนดื่มแต่ไม่ได้ดื่มเพียงอมไว้แล้วก็พ่นน้ำไปที่ขวดใบนั้น พรวดเดียวน้ำเต็มขวดเลย
หลวงพ่อจงท่านหันมามองแล้วก็หัวร่อ หึ หึ แล้วก็บอกว่า "ฉันก็ทำได้จ๊ะ"


บันทึกการเข้า

เพียงหยดน้ำหยดหนึ่งจากฟากฟ้า
ไม่นานนักก็ระเหยกลับสู้ผืนนภา
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
คาถามหาอำนาจ (หลวงพ่อปาน)
บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
หมีงงในพงหญ้า 0 3066 กระทู้ล่าสุด 03 สิงหาคม 2553 23:38:11
โดย หมีงงในพงหญ้า
หลวงพ่อจง กับ ฤทธิ์ยักษ์เฝ้าทรัพย์ อยุธยา
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
Compatable 0 3903 กระทู้ล่าสุด 17 พฤษภาคม 2556 12:24:22
โดย Compatable
หลวงพ่อจง สอน หลวงพ่อเมี้ยน ให้หวย
เกร็ดครูบาอาจารย์
Compatable 0 2589 กระทู้ล่าสุด 23 กันยายน 2557 00:38:10
โดย Compatable
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระอภิญญาเมืองกรุงเก่า โดย อาจารย์ยอด
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
มดเอ๊ก 0 1733 กระทู้ล่าสุด 20 กรกฎาคม 2559 22:47:48
โดย มดเอ๊ก
ตำนานเรื่องเล่า : อภินิหาร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1587 กระทู้ล่าสุด 20 กรกฎาคม 2559 23:12:11
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.324 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 16 มีนาคม 2567 16:22:58