[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 20:24:54 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านเมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน  (อ่าน 7062 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553 18:19:14 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>



ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดยข้าพเจ้า(บางครั้ง)ขอรับภาพนี้เก็บอยูที่เว็ปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ สีสด DOTCOM



เมืองใดไม่มีทหารหาญเมืองนั้นไม่นานเป็นข้า

เมืองใดไร้จอมพาราเมืองนั้นไม่ช้าอับจน

เมืองใดไม่มีพาณิชย์เลิศเมืองนั้นย่อมเกิด - ขัดสน

เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ - เมืองนั้นไม่พ้น - เสื่อมทราม

เมืองใดไม่มีกวีแก้วเมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม

เมืองใดไม่มีนารีงามเมืองนั้นหมดความภูมิใจ

เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศเมืองนั้นไม่เพริศ - พิสมัย

เมืองใดไร้ธรรมอำไพเมืองนั้นบรรลัยแน่นอน



.....................ส่วนหนึ่งของพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ ๖......................


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2553 19:22:09 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553 18:23:38 »




(:LOVE:)ข้าพเจ้าขออนุญาตนำข้อความตอนหนึ่งที่ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ บรรยายในวันนี้ รัก




.......................monday 7 june 2010(2553).......................




มาให้ท่านได้พิจารณาดังนี้..........................................

แต่ว่ากาละที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรมเป็นกาละที่หายากไม่ง่ายเลยนะคะ

เกิดในประเทศที่สมควรคือมี(ธรรมะ)ที่เราสามารถที่จะได้ฟัง - ได้ไตร่ตรอง - ได้เข้าใจขึ้น

แต่ถ้าที่ใดที่ไม่มีธรรมะนะคะ............เมืองใดไร้ธรรมอำไพเมืองนั้นบรรลัยแน่นอน

มีคำว่า  ไร้  ไร้  ไร้ หลายไร้นะคะแต่ที่ไร้ธรรมะก็ คือ............................เมืองใดไร้ธรรมอำไพ

เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน..........................พูดถึง เมือง นะคะ แล้ว เมือง นี้อยู่ที่ไหน ?

จิต เปรียบเหมือนนครหรือเปล่า ? ศัตรูนี่น่ะเข้ามาถึงรวดเร็วมากเลยค่ะ

ไม่มีเครื่องป้องกันเพราะฉะนั้นทุกวัน ๆ นี่น่ะค่ะ ->(นคร)  =  -> จิต



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2553 19:24:08 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553 18:29:34 »




เมื่อมีอ-->กุศล<--เกิดขึ้นย่อมนำสิ่งที่เป็นผลที่ไม่ดีจะนำมาซึ่งผลที่ดีไม่ได้เลยเพราะฉะนั้น

แม้แต่ฟังธรรมะก็ต้องมีความเข้าใจที่ละเอียดขึ้น..................ละเอียดขึ้น..................ละเอียดขึ้น

ไม่สามารถที่จะแก้ไขคนอื่นหรือว่าบ้านเมืองทั้งหมดได้นะคะเพราะเหตุว่า  

ที่จะเป็นบ้านเมืองที่จะเป็นชาติได้ก็ต้องแต่ละหนึ่ง - แต่ละหนึ่ง ถ้าแต่ละหนึ่งดี

ไม่ไร้ธรรมะใช่มั๊ยคะเมืองนี้ก็ปลอดภัย

ชาติใดไร้รักสมัครสมานจะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล

แม้ชาติย่อยยับอับจนบุคคลจะสุขอยู่อย่างไร




.....................................บทพระราชนิพนธ์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖.................................



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2553 19:25:48 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553 18:39:03 »







........................ปริสาสูตร...........................



................................ว่าด้วยบริษัท ๓ จำพวก.................................



[๕๓๕]ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบริษัท ๓ นี้บริษัท ๓ คือ อะไร ? คือ (อคฺควตีปริสา)

บริษัทที่มีแต่คนดี(วคฺคาปริสา)บริษัทที่เป็นพรรค(คือแตกกัน)

(สมคฺคาปริสา)บริษัทที่สามัคคีกัน.

บริษัทที่มีแต่คนดีเป็นอย่างไร ? ในบริษัทใดภิกษุผู้ใหญ่ ๆ ไม่เป็นผู้สะสม

บริขารไม่ย่อหย่อน(ในการบำเพ็ญสิกขา)ทอดธุระในทางต่ำทรามมุ่งไปในทาง

ปวิเวกปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึงเพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุเพื่อทำ

ให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้งปัจฉิมาชนตา(ประชุมชนผู้เกิดมาภายหลัง)

ได้เยี่ยงอย่างภิกษุผู้ใหญ่เหล่านั้นก็พากันเป็นผู้ไม่สะสมบริขารไม่ย่อหย่อน

(ในการบำเพ็ญสิกขา) ฯลฯ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้งบริษัทนี้เรียกว่า

บริษัทที่มีแต่คนดีบริษัทที่เป็นพรรคเป็นอย่างไร ? ในบริษัทใดภิกษุทั้งหลายเกิดแก่งแย่ง

ทะเลาะวิวาทกันทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากบริษัทนี้เรียกว่าบริษัทที่

เป็นพรรคบริษัทที่สามัคคีกันเป็นอย่างไร ? ในบริษัทใดภิกษุทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน

ชื่นบานต่อกันไม่วิวาทกัน(กลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน)เป็นประหนึ่งว่า

นมประสมกับน้ำมองดูกันและกันด้วยปิยจักษุ(คือสายตาของคนที่รักใคร่กัน)

บริษัทนี้เรียกว่าบริษัทที่สามัคคีกัน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2553 19:26:41 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553 18:48:13 »




ดูก่อนภิกษุทั้งหลายในสมัยใดภิกษุทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน ฯลฯ

มองดูกันและกันด้วยปิยจักษุ ในสมัยนั้นภิกษุทั้งหลายย่อมได้บุญมากในสมัยนั้นภิกษุ

ทั้งหลายชื่อว่าอยู่อย่าง(พรหม)คือ.......................อยู่ด้วยมุทิตา(พรหมวิหาร)อันเป็นเครื่องพ้น

แห่งใจ(จากริษยา)ปีติย่อมเกิดแก่ผู้ปราโมทย์ยินดีกายของผู้มีใจปีติย่อมระงับผู้มี

กายรำงับย่อมเสวยสุขจิตของผู้มีสุขย่อมเป็นสมาธิ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขาน้ำนั้นไหลไป

ตามที่ลุ่มยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็มซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็ม

แล้วย่อมยังหนองให้เต็มหนองเต็มแล้วย่อมยังบึงให้เต็มบึงเต็มแล้วย่อมยัง

คลองให้เต็มคลองเต็มแล้วย่อมยังแม่น้ำให้เต็มแม่น้ำเต็มแล้วย่อมยังทะเล
 
ให้เต็มฉันใดก็ดีในสมัยใดภิกษุทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน ฯลฯมองดูกันและ

กันด้วยปิยจักษุในสมัยนั้น - ภิกษุทั้งหลายย่อมได้บุญมาก ฯลฯจิตของผู้มีสุข

ย่อมเป็นสมาธิฉันนั้นเหมือนกันดูก่อนภิกษุทั้งหลายนี้แลบริษัท ๓




.................................จบปริสาสูตรที่ ๔.................................



.........................ข้อธรรมบรรยายโดย อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์...................



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2553 19:27:16 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2553 06:07:43 »






   
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะน้อง"บางครั้ง"
บันทึกการเข้า
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 กันยายน 2553 12:50:41 »



http://i883.photobucket.com/albums/ac40/42tong/tong/312.gif
บ้านเมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน




   
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะน้อง"บางครั้ง"
บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: บ้าน เมือง ประเทศ ธรรมมะ ข้อคิด เทศนา คติธรรม พึงเห็นแจ้ง 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.262 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 09 เมษายน 2567 17:48:31