[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
17 เมษายน 2567 04:02:53 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ล่ามองค์ทะไล ลามะ “พระพุทธเจ้าในตัวคุณ”  (อ่าน 2117 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 16 ธันวาคม 2553 17:08:48 »

http://i431.photobucket.com/albums/qq32/arsom/Flower/1220.jpg
ล่ามองค์ทะไล ลามะ “พระพุทธเจ้าในตัวคุณ”



ล่ามองค์ทะไล ลามะ “พระพุทธเจ้าในตัวคุณ”


แม้ในเทศกาลศิลปวัฒนธรรมทิเบตเมี่อเร็วๆ นี้ น้องสาวขององค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณแห่งทิเบตจะไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานวัฒนธรรมในเมืองไทยได้ แต่คราวนี้ Geshe Damdul Numgyal ล่ามองค์ทะไล ลามะ มีโอกาสเดินทางมาบรรยายธรรมในเมืองไทย

 ท่านบวชเรียนตั้งแต่เรียนจบไฮสคูล และศึกษาพุทธปรัชญาตามแนววัชรยาน ท่านเป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่ทำงานเผยแพร่พุทธศาสนาวัชรยาน และทำงานให้องค์ทะไล ลามะ ท่านมีโอกาสพบปะคนจากทั่วโลกที่เดินทางไปที่ธรรมศาลา ประเทศอินเดีย

 การเดินทางมาคราวนี้ นอกจากบรรยายธรรม ยังนำปฏิบัติภาวนาแบบทิเบต ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้ากล่าวว่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคขัดขวางในการเข้าถึงความสุขคือ อวิชชาหรือความไม่รู้

 “ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ ล้วนเกิดจากความไม่รู้ทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง หากห้องนี้มีแต่ความมืด แล้วคุณอยากอ่านหนังสือ ก็ต้องมีแสงสว่าง ดังนั้นคุณต้องเริ่มต้นจุดเทียน เพื่อนำแสงสว่างเข้ามา ถ้าเราประจักษ์เรื่องนี้ เราต้องเริ่มต้นที่จะให้มีแสงสว่างในปัญญา ความมืดก็จะหายไป

 หนทางที่จะหลุดพ้นก็คือ การบ่มเพาะแสงสว่างแห่งปัญญา เราต้องศึกษาเรื่องใกล้ตัวเพื่อที่จะพบความสุขที่แท้จริง พระพุทธเจ้ากล่าวว่า จงนำถ้อยคำของท่านไปปฏิบัติเถอะ อย่ามานับถือหรือศรัทธาในตัวท่าน ขอให้ผู้ปฏิบัติได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง”

 ไม่ว่าพุทธนิกายใดก็ตาม ท่านชี้ว่าต้องแสวงหาแก่นแท้ของพุทธะให้เจอ ชาวพุทธต้องตั้งคำถาม ไม่ใช่เชื่อเพราะการบอกต่อ สิ่งหนึ่งที่พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ค้นหาก็คือ ความจริงแท้

 “ไอน์สไตน์บอกว่า ศาสนาที่ก้าวไปพร้อมๆ กับวิทยาศาสตร์ก็คือ พุทธศาสนา หลายปีที่อาตมาได้ศึกษาพุทธปรัชญา อาตมาสนใจสิ่งที่ไอน์สไตน์กล่าวเขาพูดถึงทฤษฎีสัมพันธภาพ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของพื้นที่และเวลา”

 ท่านยกตัวอย่างเรื่องความสัมพันธ์ต่างเวลาต่างสถานที่ของคนสองคน คนหนึ่งขับยานอวกาศขึ้นไปนอกโลกใช้เวลา ๑๐ นาที ส่วนคนบนโลกที่รอคอยใช้เวลา ๓๐ ปี ทำไมเวลาของทั้งสองแตกต่างกัน

 "หลายคนอาจคิดว่า เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเราคิดถึงเวลาที่แน่นอนตายตัว ไม่ได้มองในแง่ทฤษฎีสัมพันธภาพ ในมุมพุทธไม่มีสิ่งใดตายตัว ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องสัมพันธ์อิงอาศัยซึ่งกันและกัน พระพุทธเจ้าบอกว่า ทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์เกิดขึ้นจากอวิชชา มนุษย์คิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตายตัวและแน่นอน พระพุทธเจ้าจึงให้เรามองสภาวะความเป็นจริงที่เกิดขึ้น อย่ามองตายตัวว่าต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ให้มองอย่างเป็นเหตุปัจจัยมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็นจุดร่วมของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่”

 นอกจากการอธิบายพุทธตามแนวทางทฤษฎีสัมพันธภาพแล้ว ท่านยังอธิบายตามแนวควอนตัมฟิสิกส์อีกว่า ตามหลักของทฤษฎีนี้ ก็คือภาวะของสิ่งที่สังเกตกับตัวผู้สังเกต

 “เรื่องควอนตัมมีจุดร่วมกับสิ่งที่ศาสนาพุทธกล่าว คือ สิ่งที่เราสังเกตเห็นมีความสัมพันธ์กับวิธีคิด ในศาสนาพุทธทุกอย่างที่เป็นไปและเกิดขึ้นในชีวิตมาจากจิตใจของเราทั้งสิ้น ยกตัวอย่างตอนที่คุณมองอาตมา คุณคิดว่าอาตมาไม่เกี่ยวข้องกับคุณเลย ซึ่งเป็นการมองที่ผิดในแง่มุมศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ความทุกข์ทั้งมวลที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ ไม่ว่าความโกรธ ความเกลียด ความชังมาจากวิธีคิดของคุณทั้งนั้น แต่เมื่อใดที่คุณคิดว่าสิ่งนั้นเป็นเช่นนั้นเอง คุณมองตามความเป็นจริง ความทุกข์ทรมานก็จะหายไป”

 จากเหตุผลดังกล่าว ท่านบอกว่า ภาวะพุทธะมีอยู่ในทุกคน เราสามารถเป็นพระพุทธเจ้าด้วยตัวของเราเอง

 ระหว่างที่ล่ามขององค์ทะไล ลามะบรรยาย ท่านย้ำว่า ถ้ามีคำถามสามารถขัดจังหวะการพูดคุยได้ตลอดเวลา

 ท่านย้อนถามว่า ทำไมจิตเดิมแท้จึงมีความบริสุทธิ์ ลองนึกถึงธรรมชาติของน้ำ ทำไมน้ำสกปรกสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดโดยการเติมสารเคมีบางอย่างลงไป แต่ทำไมถ่านหินสีดำเปลี่ยนเป็นสีขาวไม่ได้

 “เพราะธรรมชาติเดิมแท้ของน้ำ ไม่ใช่สิ่งสกปรก จึงแยกสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำได้ แต่สภาพเดิมแท้ของถ่านหิน มีเนื้ออะตอมเป็นสีดำ ดังนั้นธรรมชาติเดิมแท้ของจิต เป็นจิตใจของพุทธะ เป็นความบริสุทธิ์ สิ่งสำคัญคือ เราต้องแยกภาวะด้านลบหรือกิเลสออกไป เพื่อพบกับภาวะเดิมแท้”

 อย่างไรก็ตาม ท่านย้ำว่าต้องมีความเพียรพยายามในการปฏิบัติ คุณสามารถกลายเป็นพระพุทธเจ้าด้วยตัวของคุณเอง ศาสนาพุทธจึงต่างจากศาสนาอื่นที่ต้องบูชาและสักการะพระพุทธเจ้า แต่การสักการะไม่ได้เปลี่ยนให้คุณเป็นพระพุทธเจ้าด้วยตัวเอง

 “เมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะจะประเสริฐหรืองดงามขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะของคุณเอง จึงมีคำถามอีกว่า ต้องใช้ความพยายามแค่ไหน แล้วปัญญาที่จะให้เราได้เป็นพระพุทธเจ้าคือ ปัญญาแบบไหน”

 ท่านบอกว่า ต้องเป็นปัญญาหรือความฉลาดที่จะเห็นหรือรู้ได้ว่า ทุกๆ สรรพสิ่งบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน เป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน แม้ความทุกข์หรือความสุขในตัวผู้อื่น ก็มีความสัมพันธ์กับคุณ

 “ลองจินตนาการเรื่องราวของคุณแม่สองคนนี้...แม่คนหนึ่งมีลูกคนเดียว แม่อีกคนมีลูกสิบคน แม่คนแรกทำงานแค่สองสามชั่วโมงก็สามารถเลี้ยงดูลูกได้ แต่แม่คนที่สองต้องทำงานหนัก มุ่งมั่นกระตือรือร้นมากกว่า เพราะเธอมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่า

 แต่ปรากฏว่า แม่คนที่สองประสบความสำเร็จมากกว่า เมื่อลูกทั้งสิบเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วนำของกำนัลสิบอย่างมาให้ เธอรู้สึกมีความสุขมาก

 “ขณะที่แม่คนแรกได้รับความเบิกบานอย่างเดียวจากลูกคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนคุณมองการหลุดพ้นด้วยนิพพานลำพังตัวคุณเอง คุณก็จะได้รับเบิกบานเฉพาะตัวคุณเท่านั้น แต่ถ้าคุณคิดว่าจะมอบความสุขให้สรรพชีวิตทั้งหมดทั้งปวง คุณก็จะได้รับความสุขไม่มีที่สิ้นสุด เราเรียกว่า ภาวะโพธิจิต  เป็นสภาวะความรักแบบไร้เงื่อนไขกับทุกๆ สิ่งที่ดำรงอยู่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ก็จะให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน”

 ท่านอธิบายต่อว่า ไม่มีจิตใจใดจะงดงามมากไปกว่าภาวะแห่งโพธิจิต เพราะต้องการช่วยเหลือทุกๆ ชีวิตอย่างไร้เงื่อนไข และด้วยแรงปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิตให้หลุดพ้น ประกอบกับปัญญาหรือความรู้อย่างลึกซึ้ง

 "คุณภาพทั้งสองสิ่ง ทำให้เรามีความงดงามแห่งพุทธะ"

เรื่อง  : เพ็ญลักษณ์ ภักดีเจริญ

ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20100315/52093/ล่ามองค์ทะไลลามะ“พระพุทธเจ้าในตัวคุณ”.html

http://skyd.org/site/view.php?group=4&aid=758

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 8.0.552.215 Chrome 8.0.552.215


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2553 23:03:17 »

สาธุ ขอบคุณ อ.มด ครับ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
รายงานพิเศษ : องค์ "ทะไล ลามะ" ใช้ทวิตเตอร์ สอนธรรมะในโลกออนไลน์
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 1 2252 กระทู้ล่าสุด 18 เมษายน 2553 19:24:39
โดย หมีงงในพงหญ้า
เรื่องจากต่างแดน : เปิดตำหนัก 'ทะไล ลามะ' ที่อินเดีย
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 1 2567 กระทู้ล่าสุด 18 เมษายน 2553 17:26:37
โดย มดเอ๊ก
มายาศาสตร์เร้นลับ ในดินแดนทิเบต : ตุลกู การกลับชาติมาเกิดของ ลามะ พระผู้ทรงคุณ
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 2 8499 กระทู้ล่าสุด 24 ธันวาคม 2553 15:57:54
โดย มดเอ๊ก
รายการพื้นที่ชีวิต: สัมภาษณ์ ดาไล ลามะ หัวข้อ พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
แคทรีนจังกกไข่ 1 1854 กระทู้ล่าสุด 16 มกราคม 2556 02:06:35
โดย แคทรีนจังกกไข่
ปัญญาญาณแห่งการอภัย: บทสนทนาและการเดินทางเปี่ยมมิตรภาพ (องค์ ทะไล ลามะ)
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1220 กระทู้ล่าสุด 11 สิงหาคม 2559 18:56:30
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.315 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 29 มีนาคม 2567 01:30:51