[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 17:10:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงกรนสัญญาณที่ไม่อาจเพิกเฉย  (อ่าน 2389 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sati
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 7
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 169


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 17 ธันวาคม 2553 13:22:47 »


จากปัญหาของคนทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับ "เสียงกรน" ไม่เพียงก่อให้เกิดความรำคาญยังส่งผลต่อสุขภาพกาย สภาพจิตใจ ชีวิตสมรสและสถานภาพทางสังคมของผู้กรน ที่สำคัญเสียงกรนอาจเป็นสาเหตุร่วมของการเกิดโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมา อาทิ โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ และนอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยหยุดหายใจขณะหลับและมีปริมาณออกซิเจนลดลงเกินครึ่ง ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เสี่ยงเกิดอันตรายขณะทำงานหรือขับรถในตอนกลางวัน ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

ด้วยผลของโรคนอนกรนที่ตามมาจนไม่อาจนิ่งนอนใจได้ทั้งต่อผู้กรนและคนใกล้ชิด มูลนิธิโรคนอนกรนและการนอนหลับผิดปกติ นำโดย ศ.นพ.ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ ประธานมูลนิธิฯ ผนึกกำลังจัดงาน “วันโรคนอนกรน” ณ ห้องประชุมชั้น 10 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา เพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องต้นสู่การป้องกันและรักษาอาการกรน โดยได้รับเกียรติจาก พลโทธวัชชัย ศศิประภา ผอ. ศูนย์แพทย์พระมงกุฎเกล้า เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานจัดให้มีการบรรยายในหัวข้อ “โรคนอนกรนรักษาได้” จาก พ.อ.นพ.ดร.โยธิน ชินวลัญช์ และ พญ.วิสาข์สิริ ตันตระกูล

 ศ.นพ. ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ กล่าวว่า ร้อยละ 90 ของคนนอนกรนจะไม่รู้ว่าตัวเองกรน และมักปฏิเสธว่าตัวเองไม่กรน บางครอบครัวภรรยาทนไม่ได้ต้องรีบพาสามีมารักษา เพราะนอนไม่หลับกันทั้งบ้าน หรือเมื่อต้องไปค้างคืนที่ต่างจังหวัดไม่สามารถนอนร่วมห้องกับผู้อื่นได้ ทำให้เกิดความอับอาย เกิดปัญหาต่อการเข้าสังคมได้ บางรายเป็นหนักถึงขั้นหงุดหงิด ทะเลาะวิวาท เกิดปัญหาครอบครัวตามมา นอกจากนี้ข้อเท็จจริงที่อันตรายที่สุดของโรคนอนกรน คือ ปัญหาคุณภาพชีวิตของผู้กรนและคนรอบข้าง แม้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน แต่ไม่ควรเพิกเฉย ส่วนอาการที่บ่งชี้ว่าต้องรับการรักษา คือ เมื่อคนรอบข้างบอกว่า เมื่อเริ่มมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ เกิดอาการง่วงนอนตอนกลางวันมากผิดปกติ และควรสังเกตตัวเองด้วยว่า เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการหายใจไม่ออกและสำลักน้ำลายร่วมด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว

 “อาการกรนพบได้ในทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิง สำหรับสาเหตุของการกรนก็ได้แก่ โรคอ้วน,  ดื่มสุรา,  สูบบุหรี่, ลักษณะทางพันธุกรรม, โรคภูมิแพ้, การทำงานและการออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป ส่วนสาเหตุการกรนในเด็กนอกจากจะมีปัจจัยคล้ายๆ ผู้ใหญ่แล้ว โรคต่อมทอนซิล (ต่อมน้ำเหลืองหลังคอ)อักเสบ และ ต่อมอะดีนอยส์ (ต่อมน้ำเหลืองหลังโพรงจมูก) อักเสบ ซึ่งจะทำให้เด็กหายใจยาก ก็เป็นสาเหตุของการกรนได้ง่ายขึ้นด้วย”

  นอกจากนี้ประธานมูลนิธิ ยังกล่าวว่า ผู้ป่วยโรคนอนกรนสามารถใช้หมอนช่วยลดอาการกรนได้ เนื่องจากการหนุนหมอนที่มีระดับความสูงพอเหมาะ จะช่วยให้ทางเดินหายใจไม่พับงอจนเกินไป  แต่ในรายที่มีอาการกรนมากควรเริ่มรักษาด้วยการดูแลตัวเอง ลดน้ำหนัก เลิกสุรา งดบุหรี่ ไม่ทำงานหรือออกกำลังกายจนหักโหมเกินไป ควรเลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้ง่วงนอน เพราะจะทำให้กรนมากขึ้น  นอกจากนี้ยังบริหารช่องคอให้กล้ามเนื้อตึงตัวด้วยการเป่าท่อที่มีความยาว 1.5 เมตร โดยเป่าจนสุดแรงวันละ 20 นาที สำหรับผู้ประสบปัญหานอนกรนเล็กน้อยถึงปานกลาง ลองกำมือหนึ่งข้างให้หลวมพอสำหรับลมผ่านได้ นำมือจ่อที่ริมฝีปาก ก่อนออกแรงเป่าลมค้างไว้ครั้งละ 5-10 วินาที โดยส่งแรงลมให้ผ่านออกทางด้านล่างของมือ ทำติดต่อกันวันละ 20 นาที จะช่วยทำให้ช่องลมกว้างขึ้น

 “ถ้าในบางรายอาการหนัก การรักษาก็ต้องอาศัยเครื่องมือและการผ่าตัดร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันการรักษาอาการนอนกรนทำได้ง่ายกว่าที่คิด อย่ามัวรอให้เกิดผลเสียต่อร่างกายจนเกิดโรคอื่นๆ ตามมาแล้วถึงคิดตัดสินใจมาพบแพทย์ อยากให้ทุกคนร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญ ว่ายังมีทางออกสำหรับโรคนอนนกรน โดยที่ไม่ต้องทนอีกต่อไป” ศ.นพ. ชัยรัตน์ กล่าว


ที่มา คมชัดลึก

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

โปรดงดแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ ขาดเมตตาธรรม ส่อเสียด ดูหมิ่น สร้างความแตกแยกให้แก่สังคมหรือกระทบกระทั่งต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพ กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และขัดต่อกฎหมาย....และอย่าลืมว่าเราเป็นคนไทย โปรดใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยยนะคะ....
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2553 23:33:49 »

มีคนบอกผมนอนกรน ดังมากกกกก...

แต่แปลกที่หูกับปากอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ผมกลับไม่ได้ยิน 5555+

สำหรับตัวผมเอง 1 คือ อ้วน และ 2 ผมนอนหนุนหมอนซ้อนกัน 2-4 ใบ

ชอบนอนหมอนสูงจนคอแทบจะตั้งฉาก

เวลาไปนอนต่างที่ต่างถิ่นถ้ามีหมอนให้แค่ใบเดียว

ผมต้องเอามาพับครึ่งก่อนหนุน (ให้มันสูงขึ้น)

ลำบากจริ๊งงงง... 5555+
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: นอน นอนกรน อันตราย สัญญาณ เฉยชา 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.285 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 25 มกราคม 2566 16:02:12