[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 18:50:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้าแม๊คพาเที่ยว - ตะลุยเวียดนาม ฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ มุยเน่ ฯลฯ  (อ่าน 11086 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.102 Chrome 50.0.2661.102


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2559 12:55:19 »



ราตรีนี้ที่ถนนคนเดิน

พอมาถึงโรงแรม เราเอาสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากกระเป๋า แล้วเก็บไว้ที่โรงแรม ล้างหน้า เซ็ตผมกันพอเป็นพิธี
จากนั้นก็ได้เวลาตระเวนราตรี จนกระทั่งเวลานี้พาหนะที่ดีที่สุดสำหรับเราก็ยังเป็นสิ่งเดิม "ตีน"



เราเดินออกจากโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้าย แถวนี้จะเป็นถนนสองเลน ซึ่งก็ไม่ใช่สองเลนแบบเต็ม ๆ ซะด้วย
จะให้ดีเราเรียกว่าถนนเลนครึ่ง อีกครึ่งเอาไว้ให้แทรก ๆ หลบ ๆ กันเอง

บริเวณรอบ ๆ ที่พักของเราเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่พอสมควร อารมณ์คล้าย ๆ ตรอกข้าวสารแต่ไม่คึกคักเท่า
ร้านเหล้าน้อย จะเน้นหนักไปแนว ๆ ร้านอาหารข้างทางซะมากกว่า



สิ่งที่ผมชอบคือที่นี่เค้าตั้งร้านอาหารแบบไม่เกรงใจเทวดาฟ้าดิน เห็นได้ว่าไม่ใช่แค่ตามฟุตบาท แต่ล้นออกมากลางถนน
มันตลกตรงที่พอมีรถวิ่งผ่านมา เค้าก็จะยกเก้าอี้แล้วขยับไปเบียด ๆ กันหลบให้รถผ่าน แต่พอสักพักผ่านไป
จอกแหนเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ ล่องลอยแผ่วงกว้างกลับมาใหม่



เราเดินดูร้านอาหารที่หน้าตาเหมือน ๆ กันทั้งซอย และตกลงปลงใจนั่งที่ร้านนี้ ร้านที่อาเจ๊แกยืนกวักนักท่องเที่ยวทุกคน
ที่เฉียดกรายเข้าไปใกล้



หลังจากได้โต๊ะนั่งแล้ว อาเจ๊แกก็เอาเมนูอาหารมาให้ เมนูที่นี่ไม่ใช่แค่มีภาษาอังกฤษกำกับ แต่มีภาพประกอบด้วย
เรารู้อยู่แก่ใจว่าภาพประกอบตามเมนูอาหารมักน่ากินเกินจริง เหมือนกองไฟที่เอาไว้ล่อแมงเม่าอย่างเรา ๆ
แต่ใครจะสนเล่า สุดท้ายเราก็เลือกจะทำตัวเหมือนแมงเม่าแล้วเลือกกินจากหน้าตาของมันนั่นแหละ

เราสั่งอาหารกันมาหลายอย่าง อาเจ๊แกรับออเดอร์แล้วก็เดินข้ามฝั่งหายไปไหนไม่รู้ เรานั่งกันงง ๆ ไหนวะครัว ?
จนสักพักเราก็ได้รู้ว่า อาเจ๊แกเปิดร้านแบบเอเย่นต์ หรือพูดง่าย ๆ คือเป็นนายหน้านั่นแหละครับ
คือพอแกรับออเดอร์ปุ๊บ แกก็จะไปเดินสั่งจากร้านแถว ๆ นั้น แกแวะซื้อจากร้านโน้นร้านนี้ แล้วก็เอามาให้เรากิน
เจ๊แกไม่ต้องลงทุนอะไร เอาโต๊ะมาตั้ง แล้วเอาเมนูมาให้ แล้วเดินไปสั่ง แล้วเอามาเสริฟ แค่นั้น ! จบ !
เป็นธุรกิจที่ง่ายกว่าที่คิด แต่อย่าคิดว่าเจ๊แกคิดแพงนะครับ อาหารราคาไม่แพงเลย สงสัยเจ๊แกจะได้ราคาดีลเลอร์



ระหว่างรออาหารที่เจ๊แกกำลังเดินไปสั่งมาให้ น้ำผลไม้ที่สั่งไว้ก็มาเสริฟ ในแก้วที่เห็นในรูปนั่นแหละครับ
ให้เดาผมเชื่อว่าไม่มีใครเดาออกว่ามันคือน้ำอะไร งั้นขอเฉลยเลยก็แล้วกัน มันคือน้ำส้มคั้นครับ
มีเศษกากส้มกองอยู่ก้นแก้ว มีรสเปรี้ยวนิด ๆ คล้ายมะนาว รสชาติเฝื่อน ๆ ปะแล่ม ๆ นี่มันไม่ใช่น้ำส้มคั้น
ในความคิดผมมันเหมือนเศษกากส้มชงกับน้ำล้างตีนมากกว่า งานนี้ผมรอดตัวเพราะสั่งน้ำเปล่า



รอไม่นานอาหารที่สั่งไว้ก็มาเสริฟที่โต๊ะจนครบ



ทั้งไก่ทอด เสริฟพร้อมน้ำจิ้มไก่ จานนี้รสชาติใช้ได้ครับ คืออร่อย ทานได้ ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ



จานนี้อะไรไม่รู้ครับ ผมไม่ได้เป็นคนสั่ง แต่มีเนื้อเหนียว ๆ หนา ๆ ด้านในมัน ๆ คล้ายกับไส้หมู
จานนี้ทานกันไม่หมดครับ คือไอ้ตัวผัดผักอ่ะอร่อย แต่ไอ้ส่วนที่เหมือนไส้อ่ะเราเขี่ยกันทิ้ง



นี่ครับ จานนี้เราสั่งกันเพราะในรูปมันดูน่ากินมาก มันคือหนวดปลาหมึกชุบแป้งทอดครับ เสริฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มเค็ม ๆ
พอหยิบมากัดคำแรกเท่านั้นแหละ "เหนียวชิบหาย" เหนียมเหมือนกำลังกินยางมอเตอร์ไซค์ชุบแป้งทอด
คือรสชาติมันไม่แย่นะครับ ถ้าเทียบกับอาหารอื่น ๆ จานนี้ยังอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเหนียว
เหนียวแบบบัดซบ เหมาะมากสำหรับกินแกล้มเหล้า เพราะกว่าจะเคี้ยวแหลกก็หายเมาพอดี



จานนี้ยำแมงกะพรุนครับ สาว ๆ บอกอร่อยกันทุกคน แต่ผมไม่กล้าแตะเลยเพราะแมงกระพรุนที่นี่มีจุด ๆ บนตัวด้วย
ดูน่ากลัวมากกว่าน่ากิน ปกติก็ไม่กินแมงกะพรุนอยู่แล้ว ยิ่งมามีจุด ๆ แบบนี้ด้วยทำใจไม่ลงเลยจริง ๆ



แล้วก็มีผัดเต้าหู้น้ำแดงรสอร่อยเชียวแหละ เต้าหู้เค้าไม่เหม็นครับ หวาน ๆ หอม ๆ น้ำแดงที่ราดก็รสชาติดี
เมนูนี้อร่อยจริงกินกันหมดเกลี้ยงครับ อาจเพราะรสชาติค่อนข้างคุ้นชินใกล้เคียงกับบ้านเมืองเรา



ทุกอย่างไม่ถือว่าแย่ครับร้านนี้ ติดนิดเดียวตรงแหนมย่างที่เราสั่งมาจานนึง แหนมย่างของเค้าหน้าตาคล้าย ๆ
แหนมบ้านเราแต่ประเด็นคือมันไม่เปรี้ยว แถมออกหวานด้วยจ้า เป็นเมนูที่ขัดแย้งกับสามัญสำนึกตัวเองมาก
สมองมันบอกเราว่าไอ้ของแบบนี้มันต้องเปรี้ยวนำเค็มตาม ต้องหอมข้าวหอมกระเทียม แต่พอมันเข้าปากปุ๊บ
มันหวาน ๆ จืด ๆ เหนียว ๆ มีกลิ่นหอมนิด ๆ จากการย่างไฟ แต่รู้สึกว่ามันไม่อร่อยเอาซะเลย

ถ้าจะติก็ติแค่เมนูนี้เมนูเดียวเลยแหละ แต่ภาพรวมก็ถือว่าเป็นอีกมื้อที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง



ระหว่างนั่งทานก็มีเจ๊คนนี้เดินมาที่ร้านครับ มายืนคุยล้งเล้ง เดาว่าน่าจะมาเคลียร์เรื่องค่าอาหารกับเจ้าของร้าน
ที่ผมชอบใจคือป้าแกเขียนคิ้วได้กุ๊งกิ๊งกระดิ่งแตกซะจริง ๆ หันไปมองนี่เกือบหัวเราะลั่น

แต่โลกก็ไม่โหดร้ายเสมอไป



อย่างน้อยระหว่างนั่นกินก็ยังมีสารเพิ่มความหวานแทนน้ำตาลมาให้ผมได้สดชื่นขึ้นบ้าง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤษภาคม 2559 14:00:20 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.102 Chrome 50.0.2661.102


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2559 14:00:00 »



ไอศกรีมแล็บ ( Icream Lab )

หลังจากของคาว เราเดินต่อกันมาในซอย พบวัยรุ่นมากมายนั่งแคะหอย แหย่หอยตลอดสองข้างทาง
แคะหอยจริง ๆ ครับ ที่นี่เค้านิยมการกินหอยมาก ไกด์ของเราเองยังยืนยันข้อมูลเรื่องนี้ด้วยว่าคนที่นี่เค้าชอบกินหอย
มีร้านหอยเรียงรายมากมาย นอกจากหอยแล้วยังมีกลิ่นหอมเตะจมูกมาก ๆ มันคือกลิ่นของเนย ของเนื้อย่างที่ผมคุ้นเคย
ผมหันไปมองตามกลิ่น มันเป็นบาร์บีคิวไสตล์เวียดนาม อารมณ์คล้าย ๆ หมูกระทะของบ้านเราครับ
แต่เนื่องจากเราเพิ่งกินมื้อใหญ่กันมา เราเลยตัดสินใจว่าเราจะมาลองกินกันใหม่พรุ่งนี้

เราเดินผ่านตรอกซอกซอยมากไม่นานก็มาถึงเป้าหมายถัดไป เป็นของหวานปิดท้ายของค่ำคืนนี้



iCream Lab เป็นร้านเล็ก ๆ ขนาดหนึ่งห้องแถว มีโต๊ะให้เรานั่งไม่กี่โต๊ะ สีสันสดใสต่างจากบรรยากาศร้านในโซนนี้
แค่ชื่อร้านก็ชอบแล้ว เดินเข้าไปยิ่งชอบ ร้านตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้เหมือนตามห้องทดลอง
ไม่ว่าจะเป็นหลอดแก้ว บีกเกอร์ หลอดทดลอง ถ้วยถังต่าง ๆ ล้วนเข้ากัน





เราเดินเข้าไปในร้าน พนักงานเอาเมนูมาให้ แต่ละเมนูดูน่ากินมาก เราสั่งกันไปคนละอย่างแล้วนั่งรอ



ระหว่างรอพนักงานก็เอาน้ำมาเสริฟ ผมชอบมาก น้ำถูกเสริฟใส่แก้วบีกเกอร์ มันดูสมกับบรรยากาศห้องทดลองของที่นี่



นี่คือเค้าท์เตอร์ไอติมครับ ตกแต่งสวยงามมีกระจกกั้น ซึ่งเดี๋ยวจะเข้าใจครับว่าเค้ากันเอาไว้ทำไม



หลังจากสั่งเสร็จน้องผู้หญิงที่รับออเดอร์เราก็เดินไปหลังเค้าเตอร์ หยิบน้ำออกมาจากตู้แช่ แล้วเค้าก็เทใส่เครื่องปั่นครับ
ผมนั่งมองแล้วนึกในใจ นี่มึงจะทำไอศกรีมโชว์รึไงวะ



ระหว่างที่กำลังปั่นน้ำอะไรสักอย่างในโถปั่น น้องผู้ชายก็เดินไปที่ถังด้านหลัง เอาเหยือกไปจอปลายท่อแล้วเปิดวาล์วที่ถัง
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ออกมาครับ ผมอ่านไปที่ป้าย เฮ้ย นี่มันไนโตรเจนเหลว เคยเห็นแต่ตามรายการทีวีที่เค้าเอาไปแช่แข็ง
โดยเค้าเอามาทดลองเอากุหลาบเอาอะไรมาแช่ มันจะแข็ง พอหล่นพื้นนี่กุหลาบแตกกระจายเหมือนกระจกเลยครับ



จากนั้นเค้าก็เอาเหยือกที่ว่ามาเทใส่โถปั่นที่ก้านแกว่งกำลังหมุนปั่นอยู่ ไนโตรเจนเหลวอุณหภูมิติดลบ 196 องศาเซลเซียส
มาเจอกับครีมในโถ ไอฟุ้งไปทั่ว ถึงตอนนี้พอจะทราบแล้วใช่ไหมครับว่าทำไมเค้าต้องมีกระจกกั้นตรงเค้าท์เตอร์



เค้าเติมไปทีละเครื่องครับ ซึ่งในแต่ละโถปั่นก็จะมีครีมรสชาติต่าง ๆ กันไป ทั้งครีมช็อคโกแลต ครีมวานิลลา ฯลฯ



เมื่อใส่ไนโตรเจนเหลวแล้วปั่นต่อเพียงครู่เดียวก็ได้มาเป็นไอศกรีมเนื้อเนียน ๆ หน้าตาแบบในรูปครับ



พอได้เนื้อไอศกรีม ก็ได้เวลาตักไอศกรีมออกจากโถมาเป็นลูก ๆ ใส่ถ้วยที่เตรียมไว้







และในที่สุดหลังจากผ่านขั้นตอนการทำอันเว่อร์วังอลังการ ไอศกรีมหน้าตาหน้ากิน ดูหรูหราซาลาแมนเดอร์
ก็มาเสริฟให้เราถึงโต๊ะ ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจ น่าประทับใจ แถมยังอร่อยถูกปาก ร้านนี้ให้คะแนนเต็มไปเลยครับ



อีกช็อทที่เราอดฮากันไม่ได้คือเราขอน้ำแข็งครับ อยากกินน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ น้องเค้าเดินไปเอาไนโตรเจนเหลว
แล้วมาเทใส่แก้วน้ำครับ ผมนี่ขำลั่นร้านเลยทีเดียว เย็นสมใจเลย ติดลบเกือบสองร้อยองศา 555



ทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะเราถูกเติมเต็มด้วยไนโตรเจนเหลวครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งน้ำปั่น



แล้วก็ได้เวลากินอย่างจริงจังเสียที ผมไม่รู้ว่าความอร่อยส่วนหนึ่งมันมาจากความประทับใจในขั้นตอนการทำหรือเปล่า
แต่ที่แน่ ๆ ผมว่ารสชาติไอศกรีมเค้าก็อร่อยจริง ๆ ถ้าอยากได้ที่ถ่ายรูปสวย ๆ มาชมขั้นตอนที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่นี่เหมาะมาก ๆ ครับ










บรรยากาศภายในร้านครับ ผมชอบที่เค้าเขียนที่กำแพงว่า

  I Scream
  U Scream
  We all Scream, 4 iCream

เป็นคำจำกัดความที่อ่านแล้วอมยิ้มเลยครับ
แล้วก็ที่เห็นตามกำแพงเค้าไม่ได้วาดกันเล่น ๆ นะครับ สังเกตดี ๆ มันเป็นเมนูของที่นี่พร้อมราคาด้วย

ที่นี่นับเป็นอีกสถานที่เล็ก ๆ ที่สร้างความประทับใจให้ผมได้ไม่น้อยทีเดียว
ถ้ามีโอกาสได้ไปฮานอยอีก ผมคงไม่พลาดที่จะไปซ้ำที่ร้านนี้แน่นอน


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 51.0.2704.103 Chrome 51.0.2704.103


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2559 18:59:27 »



จองรถทัวร์ไปมุยเน่

หลังจากไปชมความเว่อร์วังอลังการของไอศกรีมแล็บ เราเดินเล่นกันพักนึงลัดเลาะไปตามตลาดกลางคืน ผู้คนเดินกันขวักไขว่
ขากลับก็เหมือนเช่นเคย เราเดินผ่านร้านบาร์บีคิวแบบเวียดนาม แล้วก็ร้านชาบูแบบนั่งริมทางอยู่หลายร้าน อดบ่นปอดแปดไม่ได้
ว่าเสียดายไม่น่ารีบกินข้าวกันเลย อิ่มซะแล้วยัดไม่ลงแล้ว ได้แต่สูดกลิ่นหอมยั่วตัวเอง พร้อมตั้งสัจจะวาจาไว้ว่าในวันพรุ่งนี้
เราจะต้องมากินกันให้ได้



บรรยากาศถนนคนเดินของที่นี่มีผู้คนพลุกพล่านในทุกตรอกซอกซอย ไม่ถึงกับแออัด แต่ก็ละลานตามากเลยทีเดียว



มีศาลเจ้าที่เปิดยามค่ำคืนเอาไว้สำหรับมาไหว้เจ้าก่อนไปกินเหล้ากับเพื่อนฝูงด้วยนะเออ







ที่นี่ไม่ต่างจากบ้านเรานักมีทั้งการแสดงเปิดหมวก เล่นดนตรี และมีเวทีแสดงประจำถนนคนเดิน
ซึ่งก็มีคนหยุดชมมากมายเหมือนกัน



ของขายข้างทางที่เป็นแผงลอยเน้นอะไรง่าย ๆ โดยมากมักจะเป็นอาหารแดกด่วน จากซ้ายคือข้าวโพดปิ้ง
ตามมาด้วยหมูย่างแบบเสียบไม้ แล้วก็ Bami Bread (แบ๋งหมี่) เป็นขนมปังแบบขนมปังฟรั่งเศษ
ทรงลูกรักบี้ไม่ได้ยาวเป็นไม้เบสบอลเหมือนขนมปังฟรั่งเศษต้นตำรับ (บาแก็ต) ส่วนการทำจะคล้าย ๆ กับ
ข้าวจี่ปาเตของทางลาว ก็คือจะผ่าขนมปัง แล้วเอาไส้ต่าง ๆ ยัดเข้าไป เช่นหมูยอ กุนเชียง ตับสุกบด
ผักกาดหอม มะเขือเทศ แครอทซอย แล้วราดด้วย มายองเนสหรือเนย กับซอสปรุงรส แล้วนำไปปิ้งให้พออุ่น ๆ



อันนี้ขายเหมือนขนมหวานแบบใส่น้ำแข็ง คิดว่าน่าจะใช่เพราะไม่ได้ซื้อกิน



หน้าที่พักเรามีของที่ระลึกเป็นโมเดลกระดาษขายราคา 1$ ร้านนี้สามารถเรียกเงินในกระเป๋าของสาว ๆ ไปได้ด้วยแหละ
อย่างว่า สาว ๆ เค้าชอบอะไรน่ารักมุ้งมิ้ง ผิดกับผมที่ไปเวียดนามก็ได้ของฝากเป็นตุ๊กตาหุ่นกระบอกน้ำสภาพหลอน ๆ
กลับจากพม่าก็หิ้วหุ่นกระบอกพม่าที่เป็นพระอุ้มบาตรหน้าตาดูเหมือนตุ๊กตาผีดูหลอน ๆ ไม่ต่างกัน
เอามาใส่รวมกันในตู้โชว์เดินผ่านแล้วมองเข้าไปทีไรรู้สึกช่วยให้อาการป่วยทางจิตกำเริบได้เป็นอย่างดี



หลังจากเดินลัดเลาะอยู่พักใหญ่เราก็กลับมาถึงโรงแรมอีกครั้ง สองสาว (จอย เอิ๊ก) เลือกจะรออยู่ที่โรงแรม
แต่ผมกับน้องเมเราจำเป็นต้องเดินย้อนกลับไปใกล้ ๆ ที่เดิมอีกครั้งเพื่อจองรถทัวร์ให้เสร็จสิ้นในค่ำคืนนี้
เพราะหลังจากนี้อีกสองวันคณะเดินทางของเราจะแยกย้ายกันที่ฮานอย ผมกับน้องเมเราจะไปมุยเน่ดินแดนแห่งทะเลทราย
ส่วนจอยกับเอิ๊กจะไปกันที่ซาปาดินแดนแห่งนาขั้นบันได





ว่าแล้วหลังจากส่งสองสาวเสร็จเราก็ย้อนกลับไปที่ถนนคนเดินอีกครั้ง โชคยังดีที่บริษัททัวร์อยู่ไม่ไกลจากเรามาก
เราเปิดแผนที่ดูปรากฏว่าไม่มีบอกจ้า... บอกแค่ว่าอยู่ซอยไหน แล้วไอ้ซอยที่ว่าก็โครตลึกและพลุกพล่านเลย

โดยบริษัทเลื่องชื่อลือชาที่ว่าชื่อว่า เดอะซิญ ทัวริสท์ เชื่อไหมว่าในซอย ๆ เดียว มีบริษัททัวร์เลียนแบบอยู่ถึง 6 แห่ง
แถมเปิดติด ๆ กันจนเราสับสน แต่แล้วเราก็เข้ามาจนสุดซอยและเจอบริษัททัวร์ตัวจริงเข้าจนได้



ต้นตำรับป้ายจะหน้าตาแบบนี้นะจ๊ะ ให้ดูที่ป้ายแล้วอ่านให้ละเอียด โดยเฉพาะตรงอีเมลแอดเดรส เพราะที่อื่น ๆ
จะทำให้คล้ายที่นี่แต่ตรงโลโก้จะไม่เหมือนกัน ร้านจะอยู่ลึกสุดฝั่งขวามือ หรือหากเข้ามาจากอีกฟากจะอยู่ซ้ายมือ
ร้านแรกตรงหัวมุม หรือให้ดูที่เลขที่บ้าน คือเลขที่ 52 ก็ได้เช่นกัน



เราเข้าไปจองรถนอนด้านในราคาเป็นมิตรไม่ต้องโดนหักหัวคิว ตัวสถานที่เป็นออฟฟิศขนาดเล็ก ๆ ประมาณ 1 คูหาครึ่ง
มีเก้าอี้ให้นั่งรอเรียงอยู่ มีป้ายที่ท่องเที่ยวเก่า ๆ ดูมีมนต์ขลังนัก จากรูปจะเห็นแสงไฟสลัว ๆ คาดว่าต้องการประหยัดไฟ
และที่สำคัญมีพนักงานหน้าตาง่วง ๆ พูดด้วยสำเนียงฟังยากนั่งรอบริการเราอยู่

เราจองตั๋วกันเสร็จก็เดินกลับโรงแรม ระหว่างทางผมอดไม่ได้ที่จะควักกล้องมาให้ดูว่าไอ้เดอะซิญทัวริสท์เนี่ย
เค้าเอาชื่อนี้ไปใช้กันเยอะขนาดไหน แถมตั้งชื่อกันให้งงกันเป็นไก่ตาแตกซะงั้น











ผ่าง !! เหลือเชื่อเลยใช่ไม๊ครับ นี่แค่ในซอย ๆ เดียว แถมเปิดร้านติดกันชนิดที่ว่าถ้าเป็นเมืองไทยคงยิงกันตายไปแล้ว
ของแท้คือ เดอะซิญทัวริสท์ ของก๊อปนี่มาเป็นทิวเลยไม่ว่าจะเป็น เดอะซิญคาเฟ่ทัวริสท์ ซิญคาเฟ่ทัวริสท์ ซิญทัวริสท์ ฯลฯ
เห็นแล้วพาให้ปวดขมับชะมัด แต่ช่างเถอะเราเสร็จสิ้นภารกิจของวันแล้ว ระหว่างเดินกลับที่พัก ผมอดไม่ได้อีกแล้ว
ที่จะส่องลูกหลานลุงโฮก่อนกลับไปนอนหลับฝันดี ฮา...













หลานลุงโฮนั้นโก้จริง ๆ !

เอาละครับพอหอมปากหอมคอ (อันที่จริงมีอีกเพียบ)
ผมต้องพักผ่อนเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไกลในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเราจะออกเดินทางกันแต่เช้า
โดยเป้าหมายของเราอยู่ที่ "แหล่งภูมิทัศน์จ่างอาน"

จะสวยงามสมคำร่ำลือหรือไม่ กดเลื่อนลงไปอ่านต่อกันนะจ๊ะ...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มิถุนายน 2559 19:04:29 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 51.0.2704.103 Chrome 51.0.2704.103


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2559 20:15:22 »



แหล่งภูมิทัศน์จ่างอาน 1

เราตื่นกันหกโมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวลงมานั่งกินขนมปังทาเนยกับชาขม ๆ ที่ด้านล่าง ไม่ถึงแปดโมงดีรถที่จะพาเราไปทัวร์ก็มาจอด
ที่หน้าโรงแรม เรากระวีกระวาดขึ้นรถ เพราะแถวนี้จอดได้ไม่นานนัก รถมินิแวนขนาดกลาง ๆ พาเราหกคน อันประกอบด้วย
คนขับรถ ไกด์ และกลุ่มพวกเราทั้งสี่คน ไปยังจุดหมายปลายทางที่ไกลพอจะให้เราหลับได้อีกงีบหนึ่ง "แหล่งภูมิทัศน์จ่างอาน"



ระยะทางประมาณ 100 กม.จากที่พักของเรา แต่เนื่องจากที่นี่ไม่ขับรถเกินกว่าอัตรากฏหมายกำหนด เราเลยใช้เวลาถึงสองชั่วโมง
กว่าจะมาถึงทั้งที่ระยะทางแค่ร้อยกม. ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพบ้านคนเบื้องหน้า รถขับเข้าไปในหมู่บ้านเล็ก ๆ ได้พักหนึ่ง
"ทางตัน" ! ฟังไม่ผิดครับ เค้าทำถนนกันอยู่ เราเลยต้องอ้อมมาอีกทางหนึ่ง







ระหว่างอ้อมมีช็อตเด็ดกีฬามันที่ผมบันทึกภาพไม่ทัน คือมันเป็นเนินครับ เนินสูงพอสมควร เป็นเนินที่ถนนหมู่บ้านจะไปตัดขึ้นถนนใหญ่
ระหว่างที่เราใกล้ถึงเนินมันมีมอเตอร์ไซค์คันนึงขี่อยู่ด้านหน้าเราห่างประมาณห้าสิบเมตรครับกำลังจะขี่ขึ้นเนินเลย
ประเด็นคือไอ้มอเตอร์ไซค์ที่ว่านี่มันแบกถังแก๊สมาด้วยสามถังครับ เป็นถังแก๊สบ้านขนาดกำลังน่ารัก 15 กก. ดูเก่า ๆ
สภาพของถังเหมือนมันพร้อมที่จะรั่วและระเบิดได้ตลอด คนขับรถของเราเหมือนจะรู้ครับ เค้าชะลอรถก่อนขึ้นเนิน

คนหกคนในรถมองไปที่จุดเดียวกันพร้อมบอกว่าเดี๋ยวมึงร่วงแน่เลย แปลกแต่จริงเหมือนพลังจิตจะส่งไปถึงครับ ไอ้ถังเจ้ากรรม
ร่วงจากมอเตอร์ไซค์กลิ้งมาทางรถเรา ผมใจหายดังแว๊บ มันกลิ้งกลุกกลัก ๆ ลงมาและหยุดนิ่งก่อนถึงรถเราไม่มากนัก
ไอ้ลุงที่ขี่มอเตอร์ไซค์จอดรถตั้งขาตั้งเดินลงมาเก็บแล้วหิ้วกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางพวกเราที่ยังอึ้งกับภาพเบื้องหน้า
ระหว่างที่สาว ๆ ส่งเสียงเอะอะกัน ผมนั่งเงียบกริบเหมือนจะมีสติที่สุด หารู้ไม่ "กูหัวใจจะวาย"

ผ่านไปเพียงไม่นานบนถนนขนาดสองเลนวิ่งสวนกัน แล้วเราก็มาถึงจนได้
แหล่งภูมิทัศน์จ่างอาน (Tràng An Scenic Landscape Complex) คือเขตภูมิทัศน์แห่งหนึ่งใกล้เมืองนิญบิ่ญ จังหวัดนิญบิ่ญ
บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ประเทศเวียดนาม เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวล่องเรือในถ้ำ
แหล่งภูมิทัศน์จ่างอานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแบบผสมทั้งทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ

การชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามในจ่างอานนั้น ทำได้โดยการล่องเรือเล็กประมาณ นั่งได้ 4-5 คน คนแจวเรือจะพาเราไปเยี่ยมชมวัด
หลังจากนั้นก็จะพาเราไปลอดถ้ำ มีทั้งหมด 49 ถ้ำ (แต่ไม่ต้องตกใจเราไม่ได้ลอดมันทุกถ้ำหรอก) ซึ่งถ้ำจะมีชื่อแตกต่างกันไป
ใช้เวลาล่องเรือไปกลับประมาณสองชั่วโมง

และรู้ไหมครับ เค้ายกย่องที่นี่กันในชื่อ "ฮาลองบก" เลยทีเดียว



อันนี้ไกด์ประจำวันนี้ของพวกเราครับ ชื่อเพชร เพชรบอกว่าจริง ๆ แล้วชื่อเค้าในภาษาเวียดนามแปลว่าพลอย เพชรมาเรียนในไทย
ถ้าจำไม่ผิดเพชรมาเรียนที่ ม.สารคาม ครับหลังจากจบแล้วก็กลับบ้านเกิด เพชรบอกว่าสาเหตุที่ชื่อเพชรคือคำว่าพลอยในภาษาไทย
เค้าใช้กับชื่อของผู้หญิง เลยเปลี่ยนมาเป็นเพชรในชื่อไทย เรื่องภาษากับสำเนียงในภาษาไทยนี่ถือว่าดีมากครับ
ใครไปเวียดนามแถว ๆ ฮานอยอยากได้ไกด์เป็นกันเอง พูดรู้เรื่อง ข้อมูลแน่น หลังไมค์มาถามข้อมูลได้ครับ

หลังจากเรามาถึงที่ เพชรเข้าไปซื้อตั๋วให้เราครับ





ได้ตั๋วกันมาเรียบร้อยสาว ๆ ก็พากันไปเข้าห้องน้ำห้องท่าก่อนลงเรือง เพราะเพชรบอกใช้เวลานาน
ผมเห็นด้วยเพราะหากไปขี้แตกบนเรือคงได้เด่นได้ดังกันแน่ !



เข้าห้องน้ำห้องท่ากันเสร็จก็มาลงเรือครับ



กล้องพร้อม !



ออกเรือได้ !



บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
น้าแม๊คพาเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
สุขใจ ไปเที่ยว
หมีงงในพงหญ้า 5 7538 กระทู้ล่าสุด 05 กุมภาพันธ์ 2553 12:24:20
โดย เงาฝัน
น้าแม๊คพาเที่ยว พุทธอุทยานนครสวรรค์
สุขใจ ไปเที่ยว
หมีงงในพงหญ้า 11 10853 กระทู้ล่าสุด 28 มิถุนายน 2553 15:58:49
โดย หมีงงในพงหญ้า
น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๓ วัดอุโมงค์ « 1 2 »
สุขใจ ไปเที่ยว
หมีงงในพงหญ้า 20 19044 กระทู้ล่าสุด 18 พฤษภาคม 2554 07:04:53
โดย beam
น้าแม๊คพาเที่ยว - วัดอุโปสถาราม (วัดโบสถ์ / วัดโบสถ์มโนรมย์) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
สุขใจ ไปเที่ยว
หมีงงในพงหญ้า 1 11973 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2557 07:09:31
โดย Kimleng
น้าแม๊คพาเที่ยว - วัดขุนอินทประมูล นายอากรผู้ยักยอกเงินพระมหากษัตริย์มาสร้างวัด
สุขใจ ไปเที่ยว
หมีงงในพงหญ้า 3 31480 กระทู้ล่าสุด 24 สิงหาคม 2557 22:05:09
โดย หมีงงในพงหญ้า
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.167 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 06 เมษายน 2567 04:44:58