พระพุทธศานสนามหายานกับจีน
ดูก่อนสารีบุตรไฉนโลกธาตุนี้จึงได้ชื่อว่า สุขาวดีเล่า ?ก็เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายในที่นั้นหมายถึงดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตรมณฑล - Sukavadee Buddha Land ไม่มีทุกข์กายหรือทุกข์ใจ มีแต่ความสุขทุกอย่างเหลือประมาณเหตุนั้นจึงชื่อว่า สุขาวดี
ดูก่อนสารีบุตร เธอเคยนึกหรือไม่ว่า เหตุไฉนพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น จึงทรงพระนามว่าอมิตาภะ ดูก่อนสารีบุตรอันว่ารัศมีแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ย่อมส่องไปไม่มีที่สุดทั่วทิศานุทิศ เหตุนั้นจึงทรงพระนามว่า อมิตาภะ
อนึ่ง สารีบุตร ชนมายุแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นกับทั้งบริวารของพระองค์นั้นไม่มีกําหนดขีดคั่นชั่วกัลปาวสานเหตุนั้นจึงทรงพระนามว่า อมิตาภะ
คําว่าอมิตา อมิตะ อมิตาภะหรืออมิตายุร หรืออมตะ แปลว่าหาที่สุดมิได้ไม่มีต้นไม่มีท่ามกลางและไม่มีที่สิ้นสุด เป็นอนันตกาล มีอายุยืนยาวหาที่สุดมิได้มีพระรัศมีแผ่ไปไม่รู้จบสิ้นพระรูปของพระพุทธเจ้าองค์นี้จึงมีเครื่องหมายสวัสติกะอยู่ตรงกลางพระอุระเสมอซึ่งตรงกับอักษรจีนอ่านว่า ว่าน
แปลว่าหมื่น หมายถึงมีอายุนับเป็นหมื่น ๆ ปีนั่นเอง
ความในพระสูตรนี้มีอีกมากยกมาเฉพาะส่วนที่เป็นสาระของเรื่องที่จะดําเนินไปเท่านั้นนอกจากพระบรมศาสดาเจ้าได้แสดงธรรมถึงองค์พระอมิตาภะพุทธเจ้าแล้วยังได้สาธยายถึงดินแดนแห่งสุขาวดีหรือพุทธเกษตรมณฑลในแง่ภูมิศาสตร์ รัฐศาสตร์ปรัชญาสังคมและความงดงามร่มรื่นเป็นความมหัศจรรย์อีกมากมายสุดพรรณนารวมความถึงได้ทรงจําแนกพระพุทธเจ้าอีกจํานวนมากซึ่งปรากฏอยู่ในโลกธาตุในทิศต่าง ๆ
พระพุทธศาสนาหินยานฝ่ายเถรวาท มีคติเรื่องโลกธาตุเอาไว้เพียง 31 โลกธาตุเท่านั้น
นั่นคือการจําแนกสวรรค์เรียงลําดับชั้นจากโลกมนุษย์ขึ้นไปเช่น สวรรค์ที่ต่อแดนกับมนุษย์โลกคือ สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิก มนุษย์โลก - เทวโลก - พรหมโลก ถือว่าติดกับโลกมนุษย์มากที่สุด แล้วก็เรียงลําดับโลกธาตุขึ้นไปเป็นสเต็ปและไกลออกไปจนสุดขอบเขตชนิดที่ไม่มีกลางวันกลางคืนพ้นรัศมีจากระบบสุริยจักรวาล แสงดวงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึงสุดเขตแดนสุญญากาศนั่นคือสวรรค์ชั้น เนวสัญญานาสัญญยตน เป็นที่สถิตของ อรูปพรหม ในทางเต๋าเชื่อกันว่าองค์เต่าหมู่เทียนจุน ก็ประทับอยู่ที่สวรรค์ชั้นนี้
แต่ฝ่ายมหายานนั้นมีโลกธาตุหรือโลกอื่นๆนอกจากโลกมนุษย์อีกมากซึ่งลําดับในชั้นต้นนั้นจากคัมภีร์หลายฝ่ายก็สอดคล้องกัน
จะแตกต่างกันไปบ้างก็ในช่วงปลายซึ่งพระศากยมุนีพุทธเจ้าก็ทรงลําดับเอาไว้ในพระสูตร ฝ่ายมหายาน ที่ว่านี้เช่นกัน
นอกจากความเชื่อซึ่งเป็นคติของพุทธศาสนามหายานในเรื่องโลกธาตุแห่งหนึ่งคือ แดนสุขาวดีพุทธเกษตรมณฑลแล้ว ลัทธิตรีกายที่มีคติว่าพระพุทธเจ้ามี 3 กาย ก็มีบทบาทอย่างมากในนิกายนี้เช่นกัน
แต่มีประเด็นหนึ่งซึ่งเป็นประเด็นที่โดดเด่นมาก ๆ สำหรับพุทธนิกายมหายานซึ่งทำให้นิกายนี้ต่างไปจากหินยานเถรวาทอยู่ไม่น้อยนอกจากสองสามประเด็นที่ว่ามาแล้วประเด็นที่ว่านี้ก็คือ เรื่องราวของ พระโพธิสัตว์
ในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทไม่ค่อยจะได้พบคำนี้บ่อยนักแต่ถ้าเป็นคัมภีร์หรือพระสูตรต่าง ๆ ของมหายานที่มีมากมายนั้นพระโพธิสัตว์กลาย
เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งและมหายานให้ความสำคัญมากทีเดียว
บทความโดย..........................ธนกฤต เสรีรักษ์