[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 18:03:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “วัดเสียวสวาท” ปมดราม่า ทำชาวต่างถิ่นกังขาไม่กล้าทำบุญ  (อ่าน 1130 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 25 กันยายน 2559 17:28:14 »



“วัดเสียวสวาท”
ปมดราม่า ทำชาวต่างถิ่นกังขาไม่กล้าทำบุญ


ปมดราม่าชื่อ “วัดเสียวสวาท” ทำชาวต่างถิ่นกังขาไม่กล้าทำบุญ สังคมวิจารณ์หนักประเด็นศีลธรรม

เรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อใหม่!!!

ร้อนถึงเจ้าอาวาส ต้องออกมาแจงว่า ชื่อวัดแห่งนี้มีมานานกว่า ๑๐๐ ปี บรรพบุรุษคนภูไทในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นผู้ตั้งให้

“ชื่อวัดเป็นคำศัพท์โบราณภายท้องถิ่น คำว่า ‘เสียว’ มากจากต้นเสียวตามภาษาชาวบ้านท้องถิ่นเรียกกัน ซึ่งมักจะขึ้นอยู่ริมน้ำ มีรากที่แตกแขนงแผ่ไพศาล ทนต่อทุกสภาพอากาศ ทั้งร้อน แล้ง หนาว หรือแม้กระทั่งน้ำท่วมขัง ส่วนคำว่า ‘สวาท’ มาจากคำว่า สะว่ะสะเหว่ย เป็นภาษาภูไทดั้งเดิม หมายถึง ความสุข ความเจริญ” เป็นคำอธิบายของ พระวีระพงษ์ อินทโชโต เจ้าอาวาสรุ่นที่ ๗ ของวัดเสียวสวาท

ทั้งนี้ มติชนสืบค้นที่มาของต้นเสียวตามที่เจ้าอาวาสกล่าวถึงนั้น เป็นพืชที่ชาวอีสานรู้จักดี โดยมีการเรียกชื่อทั้งเสียวใหญ่ เสียวน้อย เสียวเล็ก เสียวป่า เป็นต้น



ต้นเสียวใหญ่
ภาพจากฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุบลราชธานี


ข้อมูลจากฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุบลราชธานี ระบุว่า เป็นไม้พุ่มรอเลื้อยขนาดเล็ก สูงประมาณ ๒ เมตร เปลือกลำต้นเรียบ สีน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นสันเหลี่ยมสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยว ปลายใบมนและเป็นติ่ง โคนใบมนเบี้ยว หลังใบเรียบเป็นมัน ท้องใบเรียบสีอ่อนกว่า แผ่นใบแผ่บาง ใบอ่อนสีแดง ผลแห้งแตกแบบแคปซูล ออกเป็นกระจุกหรือเดี่ยว ทรงค่อนข้างกลม พบที่ระดับสูงจากระดับน้ำทะเล ๕๐๐-๘๐๐ เมตร ออกดอกราวเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ติดผลราวเดือนกันยายนถึงธันวาคม

สรรพคุณตามตำรายาพื้นบ้านอีสาน ราก ต้มน้ำดื่ม แก้มดลูกอักเสบ

ทั้งยังมีข้อมูลว่าชาวบ้านยังตัดลำต้นมาทำฟืน และเผาถ่านด้วย

นอกจากคำว่า เสียว จะเป็นชื่อต้นไม้ตามที่เจ้าอาวาสวัดเสียวสวาทระบุแล้ว เสียวสวาท ยังเป็นชื่อวรรณกรรมสำคัญเรื่องหนึ่งของชาวบ้านลุ่มฝั่งโขง ทั้งทางภาคอีสานของไทยและในฝั่งลาวอีกด้วย โดยสะกดเป็น “เสียวสะหวาด” ซึ่งในภาษาถิ่นอีสานและภาษาลาวหมายถึง “เฉลียวฉลาด”



นิทานเสียวสะหวาด ของลาว
ภาพจากเวปไซต์นิตยสารทางอีศาน

ข้อมูลจาก ชมรมศึกษาศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า “เสียวสวาด” เป็นนิทานสุภาษิตที่คนลาวให้ความสำคัญหลายกะคือ วรรณคดีเรื่อง “ท้าวเสียวสวาด” หรือ “ศรีเสลียว เสียวสวาด” หรือแยกย่อยออกมาเป็น “ปัญหาเสียวสวาด” “ผญาเสียวสวาด” ซึ่งหากฟังชื่อเผินๆ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นนิทานตลกโปกฮา สองแง่สองง่าม แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของท้าวเสียวสวาดซึ่งเป็นผู้มีปัญหาหลักแหลม ฉลาดในการแก้ปัญหาต่างๆ เป็นที่ปรึกษาของพระราชา จนเป็นที่ยอมรับของคนทั้งหลาย ปัจจุบันยังมีการนำผญา หรือสุภาษิต คำพังเพย ที่ปรากฏในเรื่องเสียวสวาดใช้สืบทอดต่อมา เช่น “นกอีเอี้ยงกินหมากโพธิ์ไทร แซวแซว เสียง บ่มีโตฮ้อง แซวแซวฮ้อง โตเดียวเหมิดหมู่..”


คัมภีร์ใบลาน เรื่อง เสียวสวาด เขียนด้วยอักษรไทเขิน
ภาพจากสำนักหอสมุด ม.เชียงใหม่

นอกจากนี้ คัมภีร์ใบลานในภาคอีสาน ก็พบการจดจารวรรณกรรมเรื่องเสียวสวาด บรรจุอยู่ในหอไตรของวัดเป็นจำนวนมาก ส่วนทางภาคเหนือ ก็มีเรื่อง “เสียวสวาด” จารด้วยอักษรไทเขิน ด้านฝั่งลาว ก็ยังมีการตีพิมพ์วรรณกรรมเรื่อง เสียวสวาด เผยแพร่มาจนถึงปัจจุบัน

นายสุจิตต์ วงษ์เทศ กล่าวว่า เสียวสวาดเป็นชื่อท้องถิ่นทางลุ่มน้ำโขง คนอื่นต้องทำความเข้าใจท้องถิ่น ไม่ใช่ไปบอกให้คนท้องถิ่นเปลี่ยน แต่ต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยการศึกษาภาษาถิ่นอีสาน อย่าเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง ปัญหาประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยนทุกวันนี้ก็มาจากการนำภาคกลางหรือลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นตัวตั้ง จึงเกิดทรรศนะดูถูกผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว คิดว่าตนถูกที่สุด ในอดีตมีการเปลี่ยนชื่อในท้องถิ่นโดยกระทรวงหาดไทย ไม่ใช่เฉพาะภาคอีสาน แต่ยังมีภาคใต้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เลอะเทอะอย่างมาก

“ชื่อบ้านนามเมืองเขาใช้คำท้องถิ่น ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจภาษาท้องถิ่นต่างหาก ไม่ใช่สั่งให้เขาเปลี่ยน เราต้องเปลี่ยนตัวเอง ไปศึกษาให้เข้าใจ ประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยน คลาดเคลื่อน ก็เพราะไปดูถูกท้องถิ่น มองไม่เห็นท้องถิ่น เอาแต่ภาคกลาง ยึดแต่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นตัวตั้ง เอาเมืองหลวงเหนือท้องถิ่น เสียวสวาทเป็นชื่อในวัฒนธรรมประเพณีลุ่มน้ำโขง อย่าเอาคำว่า สวาท ที่แปลว่า เงี่ยน ตามพจนานุกรมมาเทียบ เพราะเป็นแค่เสียงพ้อง นี่คือความอับเฉาของการศึกษาไทย ชื่อบ้านนามเมืองผิดเพี้ยนมาทั่วประเทศเพราะกระทรวงมหาดไทยไปเปลี่ยนตามใจชอบจนเละเทะ เลอะไปหมด ไม่ใช่เฉพาะอีสาน ภาคใต้ก็ด้วย นี่คือการเอาส่วนกลางเป็นหลัก ทั้งที่ความเป็นไทย คือ เจ๊ก ปนลาว ปนเขมร แต่กลับดูถูกคนอื่นหมด จึงมีทรรศนะชุ่ยๆ คิดว่าที่ตัวเองรู้ ถูกที่สุด เหมือนท่าเต้นทศกัณฐ์ มาจากท่ากบ เซิ้งบั้งไฟ แบบนี้อินเดียไม่มี” นายสุจิตต์กล่าว


ที่มา : มติชนออนไลน์ - ๒๕ ก.ย.๕๙

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.361 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 08 มีนาคม 2567 11:48:33