[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
03 ธันวาคม 2567 18:06:42 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า:  [1] 2 3 ... 9   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong  (อ่าน 117634 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 เมษายน 2553 16:58:05 »

บทสวดมนต์ รวบรวมโดย sithiphong

ผมจะทยอยนำมาลงเรื่อยๆครับ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
 
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:00:37 »

หนังสืออ้างอิง

หนังสือมนต์พิธี พระครูอรุณธรรมรังษี  (เอี่ยม  สิริวณโณ) วัดอรุณราชวราราม
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก  ชินบัญชร  และพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สำนักพิมพ์เลี่ยงเซียงจงเจริญ
พิธีการทำบุญและอนุโมทนาวิธี   สำนักพิมพ์ธรรมสภา  (ปีที่จัดพิมพ์  2540)
หนังสือบารมีพระสยามเทวาธิราช   สำนักพิมพ์เลี่ยงเซียงจงเจริญ
หนังสือพระบัวเข็ม  พระอรหันต์พิชิตมารให้ลาภร่ำรวย    พ.สุวรรณ  ผู้เรียบเรียง สำนักพิมพ์บ้านมงคล  พิมพ์ครั้งที่1  (พฤษภาคม 2540)
หนังสือพระสิวลี  อรหันต์ผู้มีลาภมาก   พ.สุวรรณ  ผู้เรียบเรียง สำนักพิมพ์บ้านมงคล  พิมพ์ครั้งที่2  (กรกฎาคม 2540)
หนังสือพระสังกัจจายน์  พระอรหันต์ผู้สมบูรณ์ลาภผล   พ.สุวรรณ  ผู้เรียบเรียง   สำนักพิมพ์บ้านมงคล  พิมพ์ครั้งที่1  (ตุลาคม 2541)
อนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพพระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต  วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์  2515
หนังสือโลกลี้ลับฉบับที่  170  เดือน กุมภาพันธ์  2542
หนังสือโลกลี้ลับฉบับที่  172  เดือน เมษายน  2542
หนังสือโลกลี้ลับฉบับอื่นๆ
หนังสือย้อนรอยกรรมตำนานพระสุพรรณกัลยา  (หลวงปู่โง่น  โสรโย)
หนังสือรำลึกถึงพระสุพรรณกัลยา
หนังสือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกต้นฉบับเดิมและพระคาถาชินบัญชร   ภัตตาคารฟูหมั่นเหลา
หนังสือทำวัตร  สวดมนต์แปล  หลวงปู่ชา  วัดหนองป่าพง  อุบลราชธานี

หนังสือสวดมนต์  พระอาจารย์สมชาย  ธมมะโชโต   ศูนย์ปฎิบัติแสงส่องชีวิต  สี่แยกหินกอง  สระบุรี
หนังสือกิตติคุณหลวงพ่อเดิม  วัดหนองโพ  นครสวรรค์
หนังสือพระคาถาศักดิ์สิทธิ์สิริมงคลประเสริฐนักแล
ที่ระลึกพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  (วัดพระแก้ว)  วัดสุทธาราม  สำเหร่  ธนบุรี  กรุงเทพฯ
หนังสือสวดมนต์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด  นิวย่งฮั้ว (ไทยแลนด์) จัดพิมพ์ถวายและแจกเป็นทาน
บทสวดมนต์พระไภสัชคุรุไวฑูรยประภาตถาคต   สภาเภสัชกรรม  ก.สาธารณสุข  นนทบุรี
มนต์เสกตัว   ศาสตร์และศิลป์แห่งการสร้างกำลังใจด้วยพระพุทธมนต์
มนต์ธานี   สำนักพิมพ์  เลี่ยงเซียง 
หนังสือพิมพ์ข่าวสด         
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:01:40 »

คำอาราธนา  บูชา  ภาวนา  ถวาย
(ก่อนอาราธนา  บูชา  ภาวนา  ถวาย  ต้องภาวนาด้วย  นะโม  ๓  จบก่อนเสมอ)
คำบูชาพระรัตนตรัย
อิมินา   สักกาเรนะ  พุทธัง  ปูเชมิ
อิมินา   สักกาเรนะ  ธัมมัง  ปูเชมิ
อิมินา   สักกาเรนะ  สังฆัง  ปูเชมิ
ไตรสรณคมน์
พุทธัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ธัมมัง   สะระณัง   คัจฉามิ
สังฆัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ทุติยัมปิ   พุทธัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ทุติยัมปิ   ธัมมัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ทุติยัมปิ   สังฆัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   พุทธัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   ธัมมัง   สะระณัง   คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   สังฆัง   สะระณัง   คัจฉามิ
คำอาราธนาศีล  ๕
มะยัง  ภันเต  วิสุง  วิสุง  รักขะณัตถายะ
ติสะระเณนะ  สะหะ  ปัญจะ  สีลานิ  ยาจามะ
ทุติยัมปิ  มะยัง  ภันเต  วิสุง  วิสุง  รักขะณัตถายะ
ติสะระเณนะ  สะหะ  ปัญจะ  สีลานิ  ยาจามะ
ตะติยัมปิ  มะยัง  ภันเต  วิสุง  วิสุง  รักขะณัตถายะ
ติสะระเณนะ  สะหะ  ปัญจะ  สีลานิ  ยาจามะ
หมายเหตุ   ๑.ถ้าบุคคลหลายๆคน  ให้เปลี่ยน  มะยัง … เป็น  อะยัง…
และ   ยาจามะ…   เป็น   ยาจามิ…
๒.ถ้าศีล  ๘  เปลี่ยน  ปัจจะ…  เป็น  อัฎฐะ…
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:02:26 »

คำอาราธนาพระปริตร
วิปัตติปะฎิพาหายะ         สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ   ทุกขะ   วินาสายะ      ปะริตตัง   พรูถะ  มังคะลัง
วิปัตติปะฎิพาหายะ         สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ   ภะยะ   วินาสายะ      ปะริตตัง   พรูถะ  มังคะลัง
วิปัตติปะฎิพาหายะ         สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ   โรคะ   วินาสายะ      ปะริตตัง   พรูถะ  มังคะลัง

คำอาราธนาธรรม
พรัหมา  จะ  โลกาธิปะตี  สะหัมปะติ
กัตอัญชะลี  อันธิวะรัง  อะยาจะถะ
สันตีธะ  สัตตาปปะระชักขะชาติกา
เทเสตุ  ธัมมัง  อะนุกัมปิมัง  ปะชัง

คำถวายข้าวพระพุทธ
อิมัง  สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง  สาลีนัง  โพทะนัง  อุทะกัง  วะรัง  พุทธัสสะ  ปูเชมิ
คำลาข้าวพระพุทธ
เสสัง  มังคะลา  ยาจามิ

คำถวายสังฆทาน  (สามัญ)
อิมานิ  มะยัง  ภันเต  ภัตตานิ  สะปะริวารานิ  ภิกขุสังฆัสสะ  โอโณชะยามะ  สาธุ  โน  ภันเต  ภิกขุสังโฆ  อิมานิ  ภัตตานิ  สะปะริวารานิ  ปะฎิคคัณหาตุ  อัมหากัง  ทีฆะรัตตัง  หิตายะ  สุขายะ
คำแปล
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ  ข้าพเจ้าทั้งหลาย  ขอน้อมถวาย  ภัตตาหาร  กับทั้งบริวารเหล่านี้  แก่พระภิกษุสงฆ์  ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ  ภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้  ของข้าพเจ้าทั้งหลาย  เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย  สิ้นกาลนาน  เทอญ ฯ

คำถวายสังฆทาน ( อุทิศแก่ผู้ตาย )
อิมานิ   มะยัง   ภันเต   ภัตตานิ   สะปะริวารานิ   ภิกขุสังฆัสสะ   โอโณชะยามะ   สาธุ   โน   ภันเต   ภิกขุสังโฆ   อิมานิ   ภัตตานิ   สะปะริวารานิ   ปะฏิคคัณหาตุ   อัมหากัญเจวะ   มาตาปิตุ   อาทีนัญจะ   ญาตะกานัง   หิตายะ   สุขายะ   ฯ
คำแปล
   ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ   ข้าพเจ้าทั้งหลาย   ขอน้อมถวาย   ซึ่งภัตตาหาร   กับทั้งสิ่งของบริวารทั้งหลายเหล่านี้   แด่พระภิกษุสงฆ์   ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ   ซึ่งภัตตาหาร   กับทั้งสิ่งของบริวารทั้งหลายเหล่านี้   เพื่อประโยชน์   เพื่อความสุข   แก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย   มีบิดามารดาเป็นต้น   ที่วายชนม์ไปแล้ว   ตลอดกาลนานเทอญ   ฯ
หรือ
   อิมานิ  มะยัง  ภันเต  มะตะกะภัตตานิ  สะปะริวารานิ  ภิกขุสังฆัสสะ  โอโณชะยามะ  สาธุ  โน  ภันเต  ภิกขุสังโฆ  อิมานิ  มะตะกะภัตตานิ  สะปะริวารานิ  ปะฏิคคัณหาตุ  อัมหากัญเจวะ  มาตาปิตุอาทีนัญจะ  ญาตะกานัง  กาละกะตานัง  ทีฆะรัตตัง  หิตายะ  สุขายะ
คำแปล
   ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ  ข้าพเจ้าทั้งหลาย  ขอน้อมถวายมะตะกะภัตตาหาร  กับทั้งบริวารเหล่านี้แก่พระภิกษุสงฆ์  ขอพระภิกษุสงฆ์  จงรับมะตะกะภัตตาหาร  กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้  ของข้าพเจ้าทั้งหลาย  เพื่อประโยชน์และความสุข  แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย  แก่ญาติข้าพเจ้าทั้งหลาย  มีมารดาบิดาเป็นต้น  และ......................................(ผู้ที่จะอุทิศไปให้)..................  ผู้ทำกาละล่วงลับไปแล้วด้วย  สิ้นกาลนานเทอญ.
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:03:01 »

ชุมนุมเทวดา
(*สะรัชชัง   สะเสนัง   สะพันธุง   นะรินทัง   ปะริตตานุภาโว   สะทา   รักขะตูติ   ผะริตตะวานะ   เมตตัง   สะเมตตา   ภะทันตา   อะวิกขิตตะจิตตา   ปะริตตัง   ภะณันตุ)
   สัคเค   กาเม   จะ   รูเป   คิริสิขะระตะเฏ   จันตะลิกเข   วิมาเน   ทีเป   รัฏเฐ   จะ   คาเม   ตะรุวะนะคะหะเน   เคหะวัตถุมหิ   เขตเต   ภุมมา   จายันตุ   เทวา   ชะละถะละวิสะเม   ยักขะคันธัพพะนาคา   ติฏฐันตา   สันติเก   ยัง   มุนิวะระวะจะนัง   สาธะโว   เม   สุณันตุ   ฯ   ธัมมัสสะวะนะกาโล   อะยัมภะทันตา   ธัมมัสสะวะนะกาโล   อะยัมภะทันตา   ธัมมัสสะวะนะกาโล   อะยัมภะทันตา   ฯ

(**สะมันตา   จักกะวาเฬสุ   อัตตะราคัจฉันตุ   เทวะตา   สัทธัมมัง   มุนิราชัสสะ   สุณันตุ   สัคคะโมกขะทัง   ฯ )

หมายเหตุ   สวดเจ็ดตำนาน ใช้   *      ;   สวดสิบสองตำนานใช้   **

บทอัญเชิญเทวดากลับ
ทุกขัปปัตตา  จะ  นิททุขาภะยัปปัตตา  จะ  นิพภะยา  โสกัปปัตตา  จะ  นิสโสกา  โหนตุ  สัพเพปิ  ปาณิโน  เอตตาวะตา  จะ  อัมเหหิ  สัมภะตัง  ปุญญะสัมปะทัง  สัพเพ  เทวานุโมทันตุ  สัพพะสัมปัตติสิทธิยา  ทานัง  ทะทันตุ  สัทธายะ  สีลัง  รักขันตุ  สัพพะทา  ภาวะนาภิระตา  โหนตุ  คัจฉันตุ  เทวะตาคะตา ฯ  สัพเพ  พุทธา  พะลัปปัตตา  ปัจเจกานัญจะ  ยัง  พะลัง  อะระหันตานัญจะ  เตเชนะ  พันธามิ  สัพพะโส
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:03:37 »

ขอขมาพระรัตนตรัย
วันทามิ   พุทธัง ,  สัพพะ   เมโทสัง ,   ขะถะเม   ภันเต ,   วันทามิ   ธัมมัง  ,  สัพพะ   เมโทสัง ,   ขะถะเม   ภันเต ,   วันทามิ   สังฆัง ,  สัพพะ   เมโทสัง ,   ขะถะเม   ภันเต
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:04:11 »

ถวายพรพระ
นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ   (   ๓   จบ   )
อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ  วิชชาจะระณะสัมปันโน  สุคะโต  โลกะวิทู  อะนุตตะโร  ปุริสะทัมมะสาระถิ  สัตถาเทวะมะนุสสานัง  พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
   สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม  สันทิฎฐิโก  อะกาลิโก  เอสิปัสสิโก  โอปะนะยิโก  ปัจจัตตัง  เวทิตัพโพ  วิญญูหีติ ฯ
สุปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อุชุปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  ญายะปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สามีจิปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  ยะทิทัง  จัตตาริ  ปะริสะยุคานิ  อัฎฐะ  ปุริสะปุคคะลา  เอสะ  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อาหุเนยโย  ปาหุเนยโย  ทักขิเณยโย  อัญชะลีกะระณีโย  อะนุตตะรัง  ปุญญักเขตตัง  โลกัสสาติ  ฯ
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:08:13 »

พระพุทธชัยมงคลคาถา
  พาหุง  สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
คะรีเมขะลัง  อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  นาฬาคิริง  คะชะวะรัง  อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ  สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  กัตตะวานะ  กัฎฐะมุทะรัง  อิวะ  คัพภินียา
จิญจายะ  ทุฏฐะวะจะนัง  ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ  โสมะวิธินา  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  สัจจัง  วิหายะ  มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง  อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  นันโทปะนันทะภุชะคัง  วิพุธัง  มะหิทธิง
ปุตเตนะ  เถระภุชะเคนะ  ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา  ชิตะวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ
  ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ  สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง  วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ  วิธินา  ชิระวา  มุนินโท
ตันเตชะสา  ภะวะตุ  เต  ชะยะมังคะลานิ  ฯ

เอตาปิ  พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
โย  วาจะโน  ทินะทิเน  สะระเต  มะตันที
หิตตะวานะเนกะวิวิธานิ  จุปัททะวานิ
โมกขัง  สุขัง  อะธิคะเมยยะ  นะโร  สะปัญโญ ฯ
มะหาการุณิโก  นาโถ   หิตายะ  สัพพะปาณินัง
ปูเรตตะวา  ปาระมี  สัพพา   ปัตโต  สัมโพธิมุตตะมัง
เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ   โหตุ  เต  ชะยะมังคะลัง  ฯ
ชะยันโต  โพธิยา  มูเล   สักกะยานัง  นันทิวัฑฒะโน
เอวัง  ตะวัง  วิชะโย  โหหิ   ชะยัสสุ  ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก   สีเส  ปะฐะวิโปกขะเร
อะภิเสเก  สัพพะพุทธานัง   อัคคัปปัตโต  ปะโมทะติ  ฯ
สุนักขัตตัง  สุมังคะลัง   สุปะภาตัง  สุหุฎฐิตัง
สุขะโณ  สุมุหุตโต  จะ   สุยิฏฐัง  พรัหมะจาริสุ
ปะทักขินัง  กายะกัมมัง   วาจากัมมัง  ปะทักขินัง
ปะทักขิณัง  มะโนกัมมัง   ปะณิธี  เต ปะทักขิณา
ปะทักขิณานิ  กัตตะวานะ   ละภันตัตเถ  ปะทักขิเณ
ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง   รักขันตุ  สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ   สะทา  โสตถี  ภะวันตุ  เต ฯ
ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง   รักขันตุ  สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ   สะทา  โสตถี  ภะวันตุ  เต ฯ
ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง   รักขันตุ  สัพพะเทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ   สะทา  โสตถี  ภะวันตุ  เต ฯ
หมายเหตุ   ถ้าต้องการสวดให้กับตัวเอง  ให้เปลี่ยนจากภะวะตุ   เต   เป็น   เม
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:14:21 »

คำแปลพุทธชัยมงคลคาถา
๑.พระจอมมุนี  ได้ชนะพญามาร  ผู้นิรมิตแขนมากตั้งพัน  ถืออาวุธครบมือ  ขี่คชสารครีเมขละ  พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องก้องกึก  ด้วยธรรมวิธีทานบารมีเป็นต้น  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๒.พระจอมมุนี  ได้ชนะอาฬวกยักษ์  ผู้มีจิตกระด้าง  ปราศจากความอดทน  มีฤทธิ์พิลึกยิ่งกว่าพญามารเข้ามาต่อสู้ยิ่งนักจนตลอดรุ่ง  ด้วยวิธีทรมาณเป็นอันดี  คือ  พระขันตี (ความอดทน) ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๓.พระจอมมุนี  ได้ชนะช้างตัวประเสริฐชื่อ นาฬาคิรี  เป็นช้างเมายิ่งนัก  แสนที่จะทารุณ  ประดุจไฟป่าและจักราวุธและสายฟ้า  ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำ  คือพระเมตตา  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๔.พระจอมมุนี  มีพระหฤทัยไปในที่จะกระทำอิทธิปาฏิหาริย์   ได้ชนะโจรชื่อองคุลิมาล  (ผู้มีพวงคือนิ้วมนุษย์)  แสนร้ายกาจมีฝีมือ  ถือดาบวิ่งไล่พระองค์  ไปสิ้น  ๓  โยชน์  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๕.พระจอมมุนี  ได้ชนะความกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา  ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์  เพราะทำไม้มีสัณฐานอันกลม  ให้เป็นประดุจมีท้อง  ด้วยวิธีสมาธิอันงาม  คือความระงับพระหฤทัยในท่ามกลางหมู่ชน  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๖.พระจอมมุนี  รุ่งเรืองแล้วด้วยประทีป  คือปัญญา  ได้ชนะสัจจกนิครนถ์  ผู้มีอัชฌาสัยที่จะสละเสียซึ่งความสัตย์  มีใจในที่จะยกถ้อยคำของตน  ให้สูงดุจยกธง  เป็นผู้มืดมนยิ่งนัก  ด้วยเทศนาญาณวิธี  คือรู้อัชฌาสัยแล้ว  ตรัสเทศนา  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๗.พระจอมมุนีโปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส   นิรมิตกายเป็นนาคราชไปทรมาน   พญานาคราช   ชื่อนันโทปนันทะ   ผู้มีความรู้ผิด   มีฤทธิ์มาก   ด้วยวิธีอันให้อุปเทห์แห่งฤทธิ์  แก่พระเถระ  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
๘.พระจอมมุนี  ได้ชนะพรหมผู้มีนามว่า  ท้าวพกา  ผู้มีฤทธิ์  มีอันสำคัญตนว่า  เป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์  มีมืออันท้าวภุชงค์  คือทิฏฐิที่ตนถือผิดรัดตรึงไว้แน่นแฟ้นแล้ว  ด้วยวิธีวางยาอันพิเศษคือเทศนาญาณ  ขอชัยมงคลทั้งหลาย  จงมีแก่ท่าน  ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
นรชนใด  มีปัญญา  ไม่เกียจคร้าน  สวดก็ดี  ระลึกก็ดี  ซึ่งพระพุทธชัยมงคล  ๘  คาถา  แม้เหล่านี้ทุก ๆ วัน  นรชนนั้นจะพึงละเสียได้  ซึ่งอุปัทวันอันตรายทั้งหลาย  มีประการต่าง ๆ เป็นเอนก  ถึงซึ่งวิโมกขสิวาลัย  อันเป็นบรมสุขแล .
   มหาการุณิโก  นาโถ    ผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์ประกอบแล้วด้วย    พระมหากรุณา  หิตายะสัพพะปาณินัง  ปูเรตวา  ปาระมี  สัพพา  ยังบารมีทั้งหลายทั้งปวงให้เต็ม  เพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย  ปัตโต  สัมโพธิมุตตะมัง  ถึงแล้วซึ่งความตรัสรู้อันอุดม  เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ  ด้วยความกล่าวคำสัตย์นี้  โหตุ  เต  ชะยะมังคะลัง  ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน .
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:17:17 »

หมายเหตุ                 การภาวนาพระพุทธชัยมงคลคาถา
๑.   เมื่อเผชิญกับศัตรูหมู่มาก  ซึ่งมุ่งจะทำลายความมุ่งมั่นตั้งใจ  ในการสร้างสรรค์สิ่งดีงามของเรา  ทำให้เราท้อถอยและท้อแท้ด้วยเหตุผลต่างๆ   ให้ภาวนาบทที่  ๑  ( มั่นใจในการทำความดี  ในเจตนาดี  และหวังดีของเราเอง  แล้วมุ่งหน้ากระทำต่อไป  จึงจะชนะศัตรูและผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ )
๒.   เมื่อเผชิญกับผู้ที่มีจิตใจหยาบกระด้าง  ไม่ได้ฝึกฝนตนเองในเรื่องวินัยและมารยาท  ให้ภาวนาบทที่  ๒  ( ในการที่เราเจอกับคนที่จิตใจกระด้าง  หยาบคาย  นับว่าเป็นโอกาสให้เราฝึกขันติธรรม  และหากเราฝึกได้ดี  ก็จะสามารถชนะใจคนแข็งกระด้าง  ทำให้เขายอมรับข้อเสนอของเราและทำประโยชน์ร่วมกันได้ )
๓.   เมื่อเผชิญกับสัตว์ดุร้าย  ให้ภาวนาบทที่  ๓  ( แม้ว่าสัตว์จะดุร้าย  เราก็ควรแผ่เมตตาให้ความเอ็นดู  ไม่ควรฆ่า  หรือใช้วิธีรุนแรง  ด้วยความเมตตานี้  จะทำให้มนุษย์กับสัตว์อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ )
๔.   เมื่อเผชิญกับโจร  มุ่งทำร้ายเราหรือก่อนที่จะไปต่อสู้กับผู้ร้ายในสถานการณ์ที่ต้องสู้ไม่มีทางเลือกอื่น  ให้ภาวนาบทที่  ๔  ( วิธีที่ดี  คือ  ต้องพยายามทำให้เราเป็นฝ่ายเหนือกว่าเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้เสมอ  เมื่อเราทำให้เขายอมจำนนได้แล้ว  จึงค่อยหาโอกาสแนะนำสิ่งที่ดีแก่เขาภายหลัง  ด้วยเจตนาดีและมีเมตตา )
๕.   เมื่อต้องเจอกับคำครหา  นินทา   การใส่ความให้เสียหาย    ให้ภาวนาบทที่  ๕   ( เบื้องต้นต้องสงบจิตใจไว้ก่อน  อย่างน้อยก็ตระหนักถึงข้อที่ว่า  การนินทานั้น  เป็นหนึ่งในโลกธรรม  คือ  เป็นสิ่งประจำโลก  แม้พระพุทธองค์ยังมีคนกล่าวร้ายได้  จากนั้นจึงพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสติสัมปชัญญะ  หากจะโต้ตอบต้องตอบโต้ตามความเป็นจริง  หากเรื่องที่เกิดขึ้นไม่จริง  ผู้กล่าวหาย่อมแพ้ภัยตนเองไปในที่สุด)
๖.   เมื่อต้องตอบโต้คำถามจากผู้มีความเห็นผิดทะนงตัว  หรือต้องโต้วาทีเพื่อหาข้อยุติด้วยหลักการและเหตุผลที่ถูกต้อง  ให้ภาวนาบทที่  ๖  ( เมื่อเผชิญกับผู้ที่โอ้อวดยกเหตุผลต่างๆ  เพื่อมาหักล้างศีลธรรม  ความถูกต้องดีงาม  เราจำเป็นต้องโต้ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนกว่า  โดยแยกแยะให้เขาเห็นข้อบกพร่องในเหตุผลของเขา  ถ้าเป็นปัญหา  ที่ต้องตอบตรงๆ  ก็ยกความเป็นจริงขึ้นหักล้าง  บางอย่างอาจถามย้อนก่อนตอบ  เพื่อให้ผู้ถามเห็นข้อบกพร่องในคำถามและเหตุผลที่ตนยกขึ้นถาม  อย่างไรก็ตาม  บางคำถามที่ควรงดเว้นไม่ควรตอบให้เสียเวลา )
๗.   เมื่อต้องเผชิญกับผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยม  มากด้วยอุบาย  ให้ภาวนาบทที่  ๗  ( เหตุการณ์บางอย่าง  เราอาจพึ่งผู้อื่น  เพื่อช่วยคลีคลายสถานการณ์  โดยเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ  ช่วยจัดการให้เรียบร้อย )
๘.   เมื่อต้องเผชิญกับผู้ใหญ่ที่มีความเห็นผิด  ผู้มีทิฐิมานะมาก  ทั้งมีอำนาจในสังคม  เป็นที่รู้จัก  และนับถือของคนทั่วไป   ต้องทำใจให้เป็นสมาธิด้วย   การภาวนาบทที่  ๘  ( เมื่อเราเผชิญกับปัญหาที่สำคัญในระดับที่เป็นหลักการ  หรือนโยบาย  ซึ่งแม้ผู้ใหญ่มีอำนาจวาสนา  เป็นที่ยอมรับนับถึอของคนทั่วไป  ยังมีความเห็นผิดจากหลักการตามความเป็นจริง  เราต้องแม่นยำในหลักการพิจารณาหลักการ  หรือนโยบายนั้นอย่างรอบคอบ  แล้วชี้แจงให้เห็นถึงความบกพร่องและผลเสียที่เกิดขึ้นในระยะยาว  ทั้งนี้การชี้แจงกับผู้ใหญ่ต้องมีเหตุผลชัดเจน  ชี้แจงให้แจ่มแจ้งว่าหลักการ  วิธีการ  และเป้าหมายของกิจการนั้นๆ  มีความขัดแย้งกันอย่างไร  มีจุดบกพร่องที่สำคัญตรงไหนบ้าง  และอย่าลืมว่าหลังจากกระบวนการทางปัญญาสิ้นสุดลง  เรากับผู้ใหญ่นั้น  ยังคงมีความสัมพันธ์ร่วมงานกันได้ดังเดิม  หรืออาจจะดีกว่าเดิม  เพราะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ  )
   อานิสงส์เบื้องต้น  ในการภาวนาชัยมงคลคาถานั้น  เป็นการยับยั้งการตัดสินใจ  อย่างหุนหันพลันแล่น  ไม่รอบคอบ  ซึ่งอาจให้ผลร้ายตามมาอย่างคาดไม่ถึง  และที่สำคัญ  เป็นการ  เรียกสติกลับคืนมา  เพื่อให้จิตใจมั่นคง  เมื่อจิตใจมั่นคงแล้ว  จะทำให้เราจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ  ได้อย่างรอบคอบมากขึ้น  และได้ผลดีย้อนกลับมามากขึ้นด้วย
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 22 เมษายน 2553 17:33:24 »



ขอบพระคุณ คุณ sithiphong มากมายสำหรับการแบ่งปันค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 16:56:37 »

ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก

      เปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก  มีคำกล่าวในหนังสือนำว่า  ผู้ใดมีไว้ประจำบ้านเรือน  มีอานิสงค์ยิ่งกว่าได้สร้างพระเจดีย์ทองคำสูงเทียมเทวโลก  และป้องกันภยันตรายต่าง ๆ    ทำมาหากินเจริญฯ
      ผู้ใดสร้างไว้สวดมนต์  สักการะบูชาเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่  และจะมีความสุข     ศิริสวัสดิ์เจริญต่อไปทั้งปัจจุบัน กาลอนาคต  และภายหน้าภาคหน้า  ด้วยอำนาจของความเคารพในพระคาถานี้  สร้างครบ ๗ วัน  ครบอายุ  หมดเคราะห์โศกทุกประการฯ

ประวัติต้นฉบับเดิมกล่าวไว้ว่า
      หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนี้มีคำกล่าวไว้ในหนังสือนำว่าศักดิ์สิทธิ์     ถ้าผู้ใดได้สวนมนต์ภาวนาทุกค่ำเช้าแล้ว  ผู้นั้นจะไม่ไปตกอบายภูมิ  แม้ได้บูชาไว้กับ      บ้านเรือนก็อาจป้องกันอันตรายต่าง ๆ จะภาวนาพระคาถาอื่น ๆ สัก ๑๐๐ ปี  อานิสงค์         ก็ไม่สูงเท่าภาวนาพระคาถานี้ครั้งหนึ่ง  ถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ ที่มีอิทธิฤทธิ์         จะเนรมิตแผ่นอิฐเป็นทองคำ  ก่อเป็นพระเจดีย์  ตั้งแต่มนุษยโลกสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก  อานิสงค์ก็ยังไม่เท่าภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนี้  และมีคำอธิบายคุณความดีไว้ใน       ต้นฉบับเดิมนั้นอีกหลายประการฯ
      ต้นฉบับเดิมเปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก  เป็นอักษรขอมจารึกไว้ในใบลาน  จึงแปลเป็นภาษาไทย  หลวงธรรมาธิกรณ์ (พระภิกษุแสง) ได้มาแต่พระแท่นศิลาอาสน์ มณฑลพิษณุโลก
      ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนี้  ถ้าผู้ใดบริจาคทรัพย์สร้างถวายพระภิกษุสามเณร หรือญาติสนิทมิตรสหาย  ครบ ๗ วัน  หรือครบอายุปัจจุบันของตน  จะบังเกิดโชคลาภ      ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง  จะพ้นเคราะห์  ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย  และภัยพิบัติทั้งปวง
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 16:57:15 »

พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัง  วะตะ   โส  ภะคะวา
   แม้เพราเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้ไกลจากกิเลส
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สัมมาสัมพุทโธ  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิชชาจะระณะ  สัมปันโน  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สุคะโต  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  โลกะวิทู  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้รู้แจ้งโลก
.   อะระหันตัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   อะระหันตัง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์  ด้วยเศียรเกล้า
   สัมมาสัมพุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   สัมมาสัมพุทธัง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ  ด้วยเศียรเกล้า
   วิชชาจะระณะสัมปันนัง  สะระณัง  คัจฉามิ 
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   วิชชาจะระณะสัมปันนัง  สิริสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ  ด้วยเศียรเกล้า
   สุคะตัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   สุคะตัง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว  ด้วยเศียรเกล้า
   โลกะวิทุง   สะระณัง  คัจฉามิ 
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   โลกะวิทุง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก  ด้วยเศียรเกล้า
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะนุตตะโร  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้ยอดเยี่ยมไม่มีใครยิ่งกว่า
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปุริสะธัมมะสาระถิ  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สัตถา  เทวะมะนุสสานัง  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  พุทโธ  วะตะ  โส  ภะคะวา
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน
.   อะนุตตะรัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม  ไม่มีใครยิ่งกว่า  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   อะนุตตะรัง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม  ด้วยเศียรเกล้า
   ปุริสะทัมมะสาระถิง   สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   ปุริสะทัมมะสาระถิง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ  ด้วยเศียรเกล้า
   สัตถารัง   เทวะมะนุสสานัง  สะระณัง  คัจฉามิ 
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 16:58:09 »

   สัตถารัง  เทวะมะนุสสานัง  สิริสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์  ด้วยเศียรเกล้า
   พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง
   พุทธัง  สิระสา  นะมามิ
   ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน   ด้วยเศียรเกล้า
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  กอปรด้วยดังว่ามานี้แล
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  รูปะขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน 
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  แม้จะมีรูปขันธ์เป็นอนิจจลักษณะ  คือ ไม่เที่ยงแท้  แต่ทรงเพียบพร้อมด้วยพระบารมี
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  เวทะนาขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน 
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  แม้จะมีเวทนาขันธ์เป็นอนิจจลักษณะ   คือ ไม่เที่ยงแท้  แต่ทรงเพียบพร้อมด้วยพระบารมี
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สัญญาขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน 
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  แม้จะมีสัญญาขันธ์เป็นอนิจจลักษณะ  คือ ไม่เที่ยงแท้  แต่ทรงเพียบพร้อมด้วยพระบารมี
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สังขาระขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน 
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  แม้จะมีสังขารขันธ์เป็นอนิจจลักษณะ  คือ ไม่เที่ยงแท้  แต่ทรงเพียบพร้อมด้วยพระบารมี
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิญญาณะขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน 
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  แม้จะมีวิญญาณขันธ์เป็นอนิจจลักษณะ  คือ ไม่เที่ยงแท้  แต่ทรงเพียบพร้อมด้วยพระบารมี
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปะฐะวี  ธาตุสะมาธิญาณะ   สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในปฐวีธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อาโป  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในอาโปธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  เตโช  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในเตโชธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  วาโย  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในวาโยธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อากาสะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในอากาศธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิญญาณะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในวิญญาณธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  จักกะวาฬะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในจักรวาลธาตุ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  จาตุมมะหาราชิกา  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นที่สถิตของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ตาวะติงสา  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นที่สถิตของเทวดาชั้นดาวดึงส์
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ยามา  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นที่สถิตของเทวดาชั้นยามา
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ดุสิตา  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นที่สถิตของเทวดาชั้นดุสิต
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  นิมมานะระติ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นที่สถิตของเทวดาชั้นนิมมานรดี
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นที่สถิตของเทวดาชั้นปรินิมมิตวสวัตดี
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  กามาวะจะระ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ การหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในเทวโลกชั้นกามาวจร
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  รูปาวะจะระ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในพรหมโลกชั้นรูปาวจร
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะรูปาวะจะระ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในพรหมโลกชั้นอรูปาวจร
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  โลกุตตะระ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นโลกุตตระ  คือ อยู่เหนือโลกทั้งปวง
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปะฐะมะฌานะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในปฐมฌาน
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ทุติยะฌานะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในทุติยฌาน
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ตะติยะฌานะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในตติยฌาน
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  จะตุตถะฌานะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในจตุตถฌาน
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปัญจะมะฌานะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุที่เป็นไปในปัญจมฌาน
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อากาสานัญจายะตะนะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ  คือ อากาสานัญจายตนะ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิญญาณัญจายะตะนะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ  คือ วิญญาณัญจายตนะ
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อากิญจัญญายะตะนะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ  คือ อากิญจัญญายตนะ
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 16:59:06 »

   อิติปิ  โส  ภะคะวา  เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะ  ธาตุสะมาธิญาณะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธาตุอันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ  คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  โสตาปัตติมัคคะ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระโสดาปัตติมรรค
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สะกิทาคามิมัคคะ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระสกิทาคามิมรรค
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะนาคามิมัคคะ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระอนาคามิมรรค
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัตตะมัคคะ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระอรหัตมรรค
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  โสตา  ปัตติผะละ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระโสดาปัตติผล
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  สะกิทาคามิผะละ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระสกิทาคามิผล
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะนาคามิผะละ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระอนาคามิผล
   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัตตะผะละ  ธาตุสะมาธิญานะ  สัมปันโน
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยสมาธิและปัญญา  คือ ความหยั่งรู้ในธรรมที่เป็นธาตุ  คือ พระอรหัตผล
.   กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล
   อิติปิ  โส  ภะคะวา
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  มีพระคุณดังพรรณมานานี้แล
   อะ  อา
   (มนต์คาถา)
   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
   ชัมพูทีปัญจะอิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   พระผู้มีพระภาคเจ้า  ผู้เป็นอิสระแห่งชมภูทวีป  ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือชมพูทวีป
   นะโม  พุทธายะ
   ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
   นะโม  ธัมมายะ
   ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า
   นะโม  สังฆายะ
   ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า
   ปัญจะ  พุทธา  นะมามิหัง
   ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าห้าพระองค์
   อา  ปา  มะ  จุ  ปะ
   หัวใจพระวินัยปิฏก
   ที  มะ  สัง  อัง  ขุ
   หัวใจพระสุตตันตปิฏก
   สัง  วิ  ธา  ปุ  กะ  ยะ  ปะ
   หัวใจพระอภิธรรมปิฏก
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 17:08:36 »

   อุ  ปะ  สะ  ชะ  สุ  เห  ปา  สา  ยะ  โส
   (มนต์คาถา)
   โส  โส  สะ  สะ  อะ  อะ  อะ  อะ  นิ
   หัวใจโลกุตตรธรรม  คือ มรรคสี่ ผลสี่ นิพพานหนึ่ง
   เต  ชะ  สุ  เน  มะ  ภู  จะ  นา  วิ  เว
   หัวใจพระเจ้าสิบชาติแสดงการบำเพ็ญบารมีสิบ
   อะ  สัม  วิ  สุ  โล  ปุ  สะ  พุ  ภะ
   หัวใจพระพุทธคุณเก้า  (นวหรคุณ)
   อิ  สวา  สุ  สุ  สวา  อิ
   หัวใจคุณพระรัตนตรัย
   กุสะลา  ธัมมา  จิตติ  วิอัตถิ
   ธรรมะฝ่ายกุศล  มีนัยวิจิตรพิสดาร
.   อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัง
   แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้ไกลจากกิเลส
   อะ  อา
   (มนต์คาถา)
   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
   สา  โพธิ  ปัญจะ  อิสะโร  ธัมมา
   (มนต์คาถา)
.   กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมฝ่ายกุศล
   นันทะวิวังโก
   (มนต์คาถา)
   อิติ  สัมมาสัมพุทโธ
   พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบแล้วแล
   สุ  คะ  ลา  โน
   (มนต์คาถา)
   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
   จาตุมมะหาราชิกา  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือเทวโลกชั้นจาตุมมหาราช
   อิติ  วิชชาจะระณะสัมปันโน
   พระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ
   อุ  อุ
   (มนต์คาถา)
   ยาวะ  ชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
   ตาวะติงสา  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
   นันทะ  ปัญจะ
   (มนต์คาถา)
   สุคะโต  โลกะวิทู
   พระพุทธเจ้า  ผู้เสด็จไปดีแล้ว  ผู้รู้แจ้งโลก
   มะหาเอโอ
   (มนต์คาถา)
   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
   ยามา  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือสวรรค์ชั้นยามา
   พรัหมะสัททะ  ปัญจะ  สัตตะ  สัตตาปาระมี  อะนุตตะโร
   พระโพธิสัตว์ห้า  และบารมีของพระโพธิสัตว์  ยอดเยี่ยมกว่าเสียงจากพระพรหม (หรือประกาศิตของพรหม)
   ยะมะกะขะ
   (มนต์คาถา)
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 17:09:22 »

   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
.   ตุสิตา  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือสวรรค์ชั้นดุสิต
   ปุ  ยะ  ปะ  กะ
   (มนต์คาถา)
   ปุริสะทัมมะสาระถิ
   พระพุทธเจ้า  พระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ
   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
.   นิมมานะระตี  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
   เหตุโปวะ
   (มนต์คาถา)
   สัตถา  เทวะมะนุสสานัง
   พระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
   ตะถะ  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
.   ปะระนิมมิตตะวะสะวัตตี  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
   สังขาระขันโธ
   ขันธ์ที่เกิดจากการปรุงแต่ง
   ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา
   ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา  (มิใช่ตัวตนของเราจริง)
   รูปะขันโธ  พุทธะปะผะ
   แม้ว่ารูปขันธ์ของพระพุทธเจ้า (ก็ไม่เที่ยงแปรเปลี่ยนไปและเป็นอนัตตา)
   ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
.   พรัหมา  อิสสะโร  กุสะลา  ธัมมา
   ธรรมะฝ่ายกุศล  เป็นใหญ่เหนือกว่าพระพรหม
   นัตถิปัจจะยา  วินะปัญจะ  ภะคะวะตา
   แม้ธรรมะที่กล่าวถึงความไม่มีเป็นปัจจัย  พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสไว้  ไม่มียกเว้น
   ยาวะนิพพานัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ข้าพเจ้าขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า  ว่าเป็นที่พึ่งตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
   นะโม  พุทธัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
   นะโม  ธัมมัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า
   นะโม  สังฆัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า
   พุทธิลา  โภกะลา  กะระกะนา
   (มนต์คาถา)
   เอเตนะ  สัจเจนะ  สุวัตถิ  โหนตุ
   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด
   หุลู  หุลู  หุลู  สะวาหายะฯ
   (มนต์คาถา)
.   นะโม  พุทธัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
   นะโม  ธัมมัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า
   นะโม  สังฆัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า
   วิตติ  วิตติ  มิตติ  มิตติ  มิตติ  จิตติ  จิตติ  วัตติ  วัตติ
   (มนต์คาถา)
   มะยะสุ  สุวัตถิ  โหนตุ
   ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด
   หุลู  หุลู  หุลู  สะวาหายะ
   (มนต์คาถา)
.   อินทะสาวัง  มะหาอินทะสาวัง  พรัหมะสาวัง  มะหาพรัหมะสาวัง  จักกะวัตติสาวัง  มะหาจักกะวัตติสาวัง  เทวาสาวัง  มะหาเทวาสาวัง  อิสิสาวัง  มะหาอิสิสาวัง  มุนีสาวัง  มะหามุนีสาวัง  สัปปุริสสาวัง  มะหาสัปปุริสสาวัง  พุทธะสาวัง  ปัจเจกะพุทธะสาวัง     อะระหัตตะสาวัง  สัพพะสิทธิ  วิชชาธาระณังสาวัง  สัพพะโลกา  อิริยานังสาวัง
   (มนต์คาถาจากพระคาถามหาทิพยมนตร์)
   เอเตนะ  สัจเจนะ  สุวัตถิ  โหตุฯ
   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด
.   สาวัง  คุณัง  วะชะพะลัง  เตชัง  วิริยัง  สิทธิกัมมัง  นิพพานัง  โมกขัง  คุยหะกัง  ทานัง  สีลัง  ปัญญานิกขัง  ปุญญัง  ภาคะยัง  ตัปปัง  สุขัง  สิริรูปัง  จาตุวีสะติ  เทสะนัง
   (มนต์คาถาจากพระคาถามหาทิพยมนต์)
   เอเตนะ  สัจเจนะ  สุวัตถิ  โหนตุ
   (มนต์คาถา)  ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเดิม
   หุลู  หุลู  หุลู  สะวาหายะฯ
   (มนต์คาถา)
.   นะโม  พุทธัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
   ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา  รูปะขันโธ  เวทะนาขันโธ  สัญญาขันโธ  สังขาระขันโธ  วิญญาณะขันโธ
   รูปขันธ์  เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาณขันธ์  ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  มิใช่ตัวตนของเราจริง
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 17:09:41 »

   นะโม  อิติปิ  โส  ภะคะวา
   ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

.   นะโม  ธัมสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า
   ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา  รูปะขันโธ  เวทะนาขันโธ  สัญญาขันโธ  สังขาระขันโธ  วิญญาณะขันโธ
   รูปขันธ์  เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาณขันธ์  ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  มิใช่ตัวตนของเราจริง
   นะโม  สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม
   ขอนอบน้อมพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
.   นะโม  สังฆัสสะ
   ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า
   ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา  รูปะขันโธ  เวทะนาขันโธ  สัญญาขันโธ  สังขาระขันโธ  วิญญาณะขันโธ
   รูปขันธ์  เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาณขันธ์  ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  มิใช่ตัวตนของเราจริง
   นะโม  สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ
   ขอนอบน้อมพระสงฆ์  สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า  ผู้ปฏิบัติดีแล้ว
   วาหะปะริตตัง
   พระปริตรที่นำสิ่งดีงามมาให้
.   นะโม  พุทธายะ
ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
มะอะอุ
พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา  ยาวะ  ตัสสะ  หาโย
ตราบใดที่ความไม่เที่ยง  ความเป็นทุกข์  และความเป็นอนัตตามีอยู่จริงเช่นนี้  ทุกสิ่งก็มีความสิ้นไปและเสื่อมไปเป็นธรรมดาอยู่ตราบนั้น
โม  นะ  อุอะมะ
ขอนอบน้อมพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา
ความไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา
อุ  อะ  มะ  อะ  วันทา
ขอกราบไหว้พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
นะโม  พุทธายะ
ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
นะ  อะ  กะ  ติ  นิ  สะ  ระ  ณะ
(มนต์คาถา)
อา  ระ  ปะ  ขุท  ธัง
(มนต์คาถา)
มะ  อะ  อุ
พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
ทุกขัง  อะนิจจัง  อะนัตตา ฯ
ความไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา
วิปัสสิต
(สำเร็จและเห็นแจ้ง)
สัพพะทุกขา  สัพพะภะยา  สัพพะโรคา  วินัสสันตุ
(ด้วยอำนาจแห่งยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกที่ข้าพเจ้าได้สวดแล้วนี้)
ขอทุกข์ภัย  อันตราย  และโรคทั้งปวง  จงพินาศไปสิ้น
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 17:10:13 »

อธิบายคำย่อใน
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก

      ในยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก  มีคำย่อที่ควรทราบ  ดังนี้:-
๑.   อา  ปา  มะ  จุ  ปะ  เป็นคำย่อพระวินัยปิฎกทั้ง ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
อา   =   อาทิกัมมิกะ (การกระทำที่เป็นต้นบัญญัติ)  หมายเอาพระวินัยของพระภิกษุ  ตั้งแต่อาบัติปาราชิกลงมาจนถึงสังฆาทิเสส
ปา   =   ปาจิตตีย์  เป็นชื่อของอาบัติที่มาในปาฏิโมกข์ (คำว่า “ปาฏิโมกข์”  คือ ศีลที่เป็นใหญ่เป็นสำคัญอันพระสงฆ์จะต้องสวดทบทวนในที่ประชุมสงฆ์ทุกกึ่งเดือน)
มะ   =   มหาวัคค์  คือ วรรคใหญ่ของพระวินัย  แบ่งออกเป็นหมวด (ขันธกะ) ต่าง ๆ ๑๐ หมวด
จุ   =   จุลลวัคค์  คือ วรรคเล็กของพระวินัย  แบ่งออกเป็นหมวด (ขันธกะ) ต่าง ๆ ๑๒ หมวด
ปะ   =   ปริวาร  คือ หัวข้อเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ของพระวินัย  เป็นการสรุปเนื้อความวินิจฉัยปัญหาใน ๔ เรื่องข้างต้น
๒.   ที  มะ  สัง  อัง  ขุ  เป็นคำย่อพระสุตตันตปิฎกทั้ง ๒๑,000 พระธรรมขันธ์
ที   =   ทีฆนิกาย  แปลว่า หมวดขนาดยาว หมายถึง หมวดที่รวบรวมพระสูตรขนาดยาวไว้ส่วนหนึ่ง  ไม่ปนกับพระสูตรประเภทอื่นในหมวดนี้  มีพระสูตรรวมทั้งสิ้น ๓๔ สูตร
มะ   =   มัชฌิมนิกาย  แปลว่า ขนาดกลาง  หมายถึง หมวดที่ราบรวมพระสูตรขนาดกลางไม่สั้นเกินไป  ไม่ยาวเกินไปไว้ส่วนหนึ่ง  ในหมวดนี้มีพระสูตรรวมทั้งสิ้น ๑๕๒ สูตร
สัง   =   สังยุตตนิกาย  แปลว่า หมวดประมวล  คือ ประมวลเรื่องในพระสูตรที่เป็นประเภทเดียวกันไว้เป็นหมวดหมู่  มีจำนวนทั้งสิ้น ๗,๗๖๒ สูตร
อัง   =   อังคุตตรนิกาย  แปลว่า หมวดที่ยิ่งด้วยองค์  คือ จัดลำดับ ธรรมะในพระสูตรไว้เป็นหมวด ๆ ตามลำดับตัวเลข  เช่น หมวดธรรมะ ๒ ข้อ  เรียกว่า ทุกนิบาต  หมวดธรรมะ ๑๐ ข้อ  เรียกว่า ทสกนิบาต เป็นต้น  ในหมวดนี้ มีพระสูตรรวมทั้งสิ้น ๙,๕๕๗ สูตร
ขุ   =   ขุททกนิกาย  แปลว่า หมวดเล็กน้อย  รวบรวมข้อธรรมที่ไม่จัดเข้าใน ๔ หมวดข้างต้นมารวมไว้ในหมวดนี้ทั้งหมด  เมื่อจะแบ่งโดยหัวข้อใหญ่ก็มี ๑๕ เรื่อง  คือ
๒.๑   ขุททกปาฐะ  แปลว่า บทสวดเล็ก ๆ น้อย  โดยมากเป็นบทสวดสั้น ๆ  เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
๒.๒   ธรรมบท  แปลว่า บทแห่งธรรม  คือ ธรรมภาษิตสั้น ๆ ประมาณ ๓๐๐ หัวข้อ (ส่วนเรื่องพิสดาร  มีท้องเรื่องประกอบปรากฏในอรรถกถา)
๒.๓   อุทาน  แปลว่า  คำที่เปล่งออกมา  หมายถึง คำอุทานที่เป็นธรรมภาษิต    มีท้องเรื่องประกอบเป็นเหตุปรารภในการเปล่งอุทานของพระพุทธเจ้า
๒.๔   อิติวุตตกะ  แปลว่า “ข้อความที่ท่านกล่าวไว้อย่างนี้”  เป็นการอ้างอิงว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสข้อความไว้อย่างนี้  ไม่มีเรื่องประกอบ  มีแต่ที่ขึ้นต้นว่าข้าพเจ้า      ได้ยินมาว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสไว้อย่างนี้
๒.๕   สุตตนิบาต  แปลว่า รวมพระสูตร  คือ รวบรวมพระสูตรเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน  มีชื่อสูตรบอกกำกับไว้
๒.๖   วิมานวัตถุ  แปลว่า เรื่องของผู้ได้วิมานแสดงเหตุดีที่ให้ได้ผลดีตามคำบอกเล่าของผู้ได้ผลดีนั้น ๆ
๒.๗   เปตวัตถุ  แปลว่า เรื่องของเปรตหรือผู้ล่วงลับไป  ที่ทำกรรมชั่วไว้
๒.๘   เถรคาถา  ภาษิตต่าง ๆ ของพระเถระผู้เป็นอรหันตสาวก
๒.๙   เถรีคาถา  ภาษิตต่าง ๆ ของพระเถระผู้เป็นอรหันตสาวิกา
๒.๑๐   ชาดก  แสดงภาษิตต่าง ๆ เกี่ยวโยงกับคำสอนประเภทเล่านิทาน (ท้องเรื่องพิสดาร  มีในอรรถกถาเช่นเดียวกับธรรมบท)
๒.๑๑   นิทเทส  แบ่งออกเป็น มหานิทเทส กับ จูฬนิทเทส  คือ มหานิทเทส เป็นคำอธิบายพระพุทธภาษิตในสุตตนิบาต (หมายเลข ๕) รวม ๑๖ สูตร  ส่วนจูฬนิทเทสเป็นคำอธิบาย  พระพุทธภาษิตในสุตตนิบาท (หมายเลข ๕) ว่าด้วยปัญหาของมาณพ    ๑๖ คน  กับ ขัคควิสาณสูตร  กล่าวกันว่าเป็นภาษิตของพระสารีบุตรเถระ
๒.๑๒   ปฏิสัมภิทามัคค์  แปลว่า ทางแห่งปัญญาอันแตกฉาน  เป็นคำอธิบายหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา  ซึ่งกล่าวกันว่าพระสารีบุตรเถระได้กล่าวไว้
๒.๑๓   อปทาน  แปลว่า คำอ้างอิง  เป็นประวัติส่วนตัวที่แต่ละท่านเล่าไว้  ซึ่งอาจแบ่งได้  คือ เป็นอดีตประวัติของพระพุทธเจ้า  ของพระเถระอรหันตสาวก  ของพระเถรีอรหันตสาวิกา  ส่วนที่เป็นประวัติการทำความดีของพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น  มีคำอธิบายว่าเป็นพระพุทธภาษิตตรัสเล่าให้พระอานนท์ฟัง
๒.๑๔   พุทธวังสะ  แปลว่า วงศ์ของพระพุทธเจ้า  หลักการใหญ่เป็นการแสดงประวัติของพระพุทธเจ้าในอดีต ๒๔ องค์  รวมทั้งของพระโคตมพุทธเจ้าด้วย จึงเป็น ๒๕ องค์  นอกนั้นมีเรื่องเบ็ดเตล็ดแทรกเล็กน้อย
๒.๑๕   จริยาปิฎก  แปลว่า คัมภีร์แสดงจริยา  คือ การบำเพ็ญบารมีต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า  ซึ่งแบ่งหลักใหญ่ออกเป็น ทาน (การให้)  ศีล (การรักษากายวาจา             ให้เรียบรอย)  และเนกขัมมะ (การออกบวช)
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 23 เมษายน 2553 17:11:01 »

๓.   สัง  วิ  ธา  ปุ  กะ  ยะ  ปะ  เป็นคำย่อพระอภิธรรมปิฎกทั้ง ๔๒,000 พระธรรมขันธ์
สัง   =   สังคณี  ว่าด้วยการรวมหมู่ธรรมะ  คือ ธรรมะแม้จะมีมากเท่าไร  ก็อาจรวมหรือจัดเป็นประเภท ๆ ได้เพียงไม่เกิน ๓ ประเภท
วิ   =   วิภังค์  ว่าด้วยการแยกธรรมะออกเป็นข้อ ๆ เช่น  เป็นขันธ์ ๕ เป็นต้น  ทั้งสังคณีและวิภังค์นี้  เทียบด้วยคำว่า สังเคราะห์ (Synthesis) และวิเคราะห์ (Analysis) ในวิทยาศาสตร์  เป็นแต่เนื้อหาในทางศาสนากับทางวิทยาศาสตร์  มุ่งไปคนละทาง  คงลงกันได้ในหลักการว่า  ควรเรียนรู้ทั้งในทางรวมกลุ่มและแยกกลุ่ม  เช่น รถคันหนึ่งควรรู้ทั้งการประกอบเข้าเป็นคันรถ  และการแยกส่วนต่าง ๆ ออกฉะนั้น
ธา   =   ธาตุกถา  ว่าด้วย ธาตุ  คือ ธรรมะทุกอย่าง  อาจจัดเป็นประเภทได้โดย ธาตุ อย่างไร
ปุ   =   ปุคคลบัญญัติ  ว่าด้วย บัญญัติ ๖ ประการ  เช่น บัญญัติขันธ์  บัญญัติอายตนะ  จนถึงบัญญัติเรื่องบุคคล  พร้อมทั้งแจกแจงรายละเอียดเรื่องบัญญัติบุคคล    ต่าง ๆ ออกไป
กะ   =   กถาวัตถุ  ว่าด้วย คำถาม-คำตอบ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า เป็นคำถาม ๕๐๐ คำตอบ ๕๐๐ แต่ตัวเลข ๕๐๐ นี้  อาจหมายเพียงว่าหลายร้อย  เพราะเท่าที่นับกันดูแล้ว  ได้คำถาม-คำตอบ  อย่างละ ๒๑๙ ข้อ)
ยะ   =   ยมก  ว่าด้วยธรรมเป็นคู่ ๆ บางทีการจัดคู่ก็มีลักษณะเป็นตรรกวิทยา  ซึ่งจะได้กล่าวถึงในภาค ๓ ย่อความแห่งพระไตรปิฎก
ปะ   =   ปัฏฐาน  ว่าด้วย ปัจจัย  คือ สิ่งสนับสนุน ๒๔ ประการ
เป็นอันว่า  หัวใจย่อแห่งพระไตรปิฏก  คือ อา ปา มะ จะ ปะ, ที มะ สัง อัง ขุ,   สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ  มีปรากฏสมบูรณ์ในยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
๔.   โส  โส  สะ  สะ  อะ  อะ  อะ  อะ  นิ  ชุดนี้เป็นคำย่อของโลกุตรธรรม ๙  คือ มรรค ๔    ผล ๔  และนิพพาน ๑
โส   =   โสดาปัตติมรรค  คือ มรรคอันให้ถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน       ทีแรก  เป็นเหตุละสังโยชน์ ได้  คือ สักกายทิฏฐิ  วิจิกิจฉา  สีลัพพตปรามาส
โส   =   โสตาปัตติผล  คือ ผลแห่งการเข้าถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน  อันเป็นผลที่พระโสดาบันพึงเสวย
สะ   =   สกทาคามิมรรค  คือ มรรคอันให้ถึงความเป็นพระสกทาคามี  เป็นเหตุละสังโยชน์ได้ ๓ ข้อ ข้างต้น  และทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง
สะ   =   สกทาคามิผล  คือ ผลอันพระสกทาคามีพึงเสวย
อะ   =   อนาคามิมรรค  คือ มรรคอันให้ถึงความเป็นพระอนาคามี  เป็นเหตุละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ทั้ง ๕
อะ   =   อนาคามิผล  คือ ผลอันพระอนาคามีพึงเสวย
อะ   =   อรหัตตมรรค  คือ มรรคอันให้ถึงความเป็นพระอรหันต์  เป็นเหตุให้ละสังโยชน์ได้ทั้งหมด ๑๐ ข้อ
อะ   =   อรหัตตผล  คือ ผลความเป็นพระอรหันต์  ผลอันพระอรหันต์พึงเสวย
นิ   =   นิพพาน  คือ สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว  ภาวะที่เป็นสุขสูงสุด  เพราะไร้กิเลส  ไร้ทุกข์  เป็นอิสระสมบูรณ์
๕.   เต  ชะ  สุ  เน  มะ  ภู  จะ  นา  วิ  เว  ชุดนี้เป็นคำย่อของการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ในสิบชาติสุดท้ายก่อนที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า  ที่นิยมเรียกกันว่า      พระจ้าสิบชาติ  หรือทศชาติชาดก
เต   =   พระเตมีย์  บำเพ็ญเนกขัมมบารมี  คือ การออกบวชปลีกตัวปลีกใจออกจากกาม
ชะ   =   พระมหาชนก  บำเพ็ญวิริยบารมี  คือ ความเพียรความแกล้วกล้า  ไม่เกรงกลัวอุปสรรค  พยายามบากบั่นอุตสาหะเรื่อยไป  ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่
สุ   =   พระสุวรรณสาม  บำเพ็ญเมตตาบารมี  คือ ความรักใคร่  ความปรารถนาดี  มีไมตรีจิตคิดเกื้อกูล
เน   =   พระเนมิราช  บำเพ็ญอธิษฐานบารมี  คือ ความตั้งใจมั่น  การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว  วางจุดหมายแห่งการกระทำไว้แน่นอน
มะ   =   พระมโหสถ  บำเพ็ญปัญญาบารมี  คือ ความรอบรู้  ความหยั่งรู้เหตุผล  เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
ภู   =   พระภูริทัตต์  บำเพ็ญศีลบารมี  คือ การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย
จะ   =   พระจันทกุมาร  บำเพ็ญขันติบารมี  คือ ความอดทน  ความทนทานของจิตใจ  ไม่ลุอำนาจกิเลส  ใช้สติปัญญาควบคุมจิตใจตนได้
นา   =   พระนารทะ  บำเพ็ญอุเบกขาบารมี  คือ ความวางใจเป็นกลางไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้าย  หรือชอบชัง  รักเกลียด
วิ   =   พระวิธูร  บำเพ็ญสัจจบารมี  คือ ความจริง พูดจริง ทำจริง และจริงใจ
เว   =   พระเวสสันดร  บำเพ็ญทานบารมี  คือ การให้  การเสียสละ
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
คำค้น:
หน้า:  [1] 2 3 ... 9   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.296 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้