การเกิดแห่งอุปทานขันธ์ 0.1
ฉะนั้น เขาจึงพูดคำประหลาด ๆ ที่พวกเธอเข้าใจไม่ได้ว่าตาเกิดตาดับอยู่ตลอดวัน หูเกิดหูดับอยู่ตลอดวัน จมูก
เกิดจมูกดับ อยู่ตลอดวัน ลิ้นก็เกิดลิ้นดับอยู่ตลอดวัน กายก็เกิดดับอยู่ตลอดวัน จิตใจก็เกิดดับอยู่ตลอดวัน พอตาเห็นรูปเรียกว่าตาเกิด พอตาหยุดหน้าที่เห็นรูป ก็เรียกว่าตาดับ นี้ภาษาอย่างนี้เป็นอย่างนี้ บ้าหรือดีก็ลองไปใคร่ครวญดูซิถ้าดีก็ต้องดับทุกข์ได้ ถ้าบ้าก็ดับทุกข์ไม่ได้ภาษาพูดนี้มันเป็นอย่างนี้ฉะนั้น
ตาเกิดตาดับ หูเกิดหูดับ จมูกเกิดจมูกดับ ลิ้นเกิดลิ้นดับ กายเกิดกายดับ ใจเกิดใจดับ สลับกันอยู่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนร่างกาย คือ รูป ร่างกายนี้ก็เหมือนกันแหละเมื่อมันทำหน้าที่เรียกว่า เรามีกาย หรือกายเกิด พอกายไม่ทำหน้าที่เรียกว่ากายดับ หรือเราไม่มีกาย จิตไม่รู้สึกว่ามีกาย
ฉะนั้นเป็นอันรู้ได้ด้วยความรู้สึกนะ ไม่ใช่โดยคำนวณนะไม่ใช่ให้รู้โดยคำนวณ ให้รู้ว่าเดี๋ยวเรามีตาที่เห็นรูปเดี๋ยวก็ไม่มีตาที่เห็นรูป เรียกว่าตาดับ ไม่มีตา. หูก็เหมือนกัน ให้รู้โดยประจักษ์อย่างนี้ ไม่ต้องคำนวณนะ อย่าใช้การคำนวณกับเรื่องนี้ฉะนั้นเธอต้องสนใจ ต้องมีสติ ต้องคอยกำหนดจดจำ
ให้ดี จนเห็นว่าเดี๋ยวมีตาเดี๋ยวไม่มีตา เดี๋ยวมีหูเดี๋ยวไม่มีหูอย่างนี้เรื่อยไป จนกระทั่งว่า เดี๋ยวเรามีรูป เดี๋ยวก็รูปดับเดี๋ยวก็มีเวทนา แล้วก็เวทนาดับเดี๋ยวก็มีสัญญา แล้วก็สัญญาดับเดี๋ยวก็มีสังขาร แล้วสังขารดับ เดี๋ยวมีวิญญาณแล้ววิญญาณดับตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้นมันก็สำคัญเหมือนกัน
แหละ แต่มันสำคัญตรงที่มันให้เกิดรูป เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ. ฉะนั้น ความสำคัญมันจึงมาอยู่ที่ รูปเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณยกตัวอย่างอีกสักเรื่องก็ได้ เราเดินไปเหยียบไฟ ก้นบุหรี่อะไรก็ได้ เหยียบไฟ ร้อนสะดุ้งโหยง มันเกิดอะไรบ้างทดสอบนักเรียนที่มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละดูบ้าง ว่าเมื่อ
เหยียบไฟบุหรี่ แล้วสะดุ้งโหยง นี่มันเกิดอะไรบ้าง ลองคิดดูก็ตอบให้ถูกซิ เมื่อเท้ามันเหยียบลงไปบนบุหรี่ บุหรี่ที่มีไฟร่างกายนี้ เท้านี้ไปเหยียบเอาไฟเข้าเท้ามันก็คือร่างกาย หรือคือผิวกาย แล้วมันมีความรู้สึกได้ที่ผิวกาย เพราะมันมีประสาทอยู่ที่ผิวกาย นี้พอไปเหยียบลงบนไฟบุหรี่แล้วมันก็ร้อน มันก็เกิดวิญญาณทางกาย รู้แจ้งการเหยียบไฟว่าร้อน รู้ว่าร้อนนี้มันเป็นวิญญาณทีนี้พอรู้ว่าเจ็บนี้ หลังจากร้อนมันรู้สึกเจ็บ นี้มันเป็นเวทนา โดยไม่ต้องก้มดูก็ยังรู้ได้ว่าไฟ นี่มันเป็นสัญญา มันจำได้ว่าไฟ หรือมันอาจจะรู้ได้เลยว่า ก้นบุหรี่ นี้มันเป็นสัญญา มีสัญญาว่าไฟหรือก้นบุหรี่ รู้สึกได้ด้วยความจำหรือความรู้สึกประเภทที่จำได้มั่นหมายได้ ว่าเราเหยียบก้นบุหรี่นี่มันมีสัญญา เวทนามันเจ็บแล้ว, แล้วก็มีสัญญาว่าเหยียบบุหรี่ แล้วก็เกิดความคิดต่อไป เป็นสังขาร นึกด่าคนที่มันทิ้งก้นบุหรี่เอาไว้ที่ตรงนี้ก็ได้ นี่ความคิดอันนี้มันก็เกิด แล้วแต่มันจะเกิดอะไรความคิดอันนี้มันเป็นสังขาร................................................................จบการเกิดแห่งอุปทานขันธ์ 0.1..................................