[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 01:07:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 22 ว่าด้วยปุพพโยคกรรมของพระไภษัชยราช  (อ่าน 4245 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 มิถุนายน 2554 09:42:47 »





พระสูตรสัทธรรมปุณฑรีกะ

วัดโพธิ์แมนคุณาราม
นายชะเอม แก้วคล้าย แปลจากต้นฉบับสันสกฤต
บทที่ 22
ไภษัชยราชปูรวโยคปริวรรต
ว่าด้วยปุพพโยคกรรมของพระไภษัชยราช


       ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ นักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เพราะเหตุไร? พระไภษัชยราชโพธิสัตว์มหาสัตว์ จึงได้ท่องเที่ยวไปในโลกธาตุนี้ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระโพธิสัตว์มหาสัตว์องค์นั้นได้ประสบความลำบากจำนวนมาก เป็นร้อยพันหมื่นโกฏิ เป็นการดียิ่ง ถ้าพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงพื้นฐานจรรยาวัตรบางอย่าง ของพระไภษัชยราชโพธิสัตว์มหาสัตว์ เมื่อ เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ อมนุษย์ พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลาย ผู้มาจากโลกธาตุอื่นจากนั้น และพระมหาสาวกทั้งหลายทั้งปวง ได้ฟังแล้ว จะเกิดปีติยินดี มีจิตฟูขึ้น

        ครั้งนั้น เมื่อพระผู้มีพระภาค ทรงทราบคำทูลอาราธนาของพระนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะโพธิสัตว์มหาสัตว์แล้ว จึงตรัสกะพระโพธิสัตว์มหาสัตว์นักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะว่า ดูก่อนกุลบุตร เรื่องเคยมีมาแล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้วหลายกัลป์ ซึ่งเท่ากับจำนวนเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา กาลสมัยนั้น ได้มีพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งนามว่า จันทรสูรยวิมลประภาศรี ได้อุบัติขึ้นในโลก เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นโลกวิทู เป็นนานสารถีฝึกบุรุษที่หาผู้เปรียบมิได้ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม

        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้น ได้มีมหาสันนิบาตพระโพธิสัตว์มหาสัตว์จำนวน 80 โกฏิ และมีสาวกสันนิบาตเท่ากับเมล็ดทรายใน 72 แม่น้ำคงคา ประพจน์(ศาสนาของพระองค์) นั้นปราศจากมาตุคาม พุทธเกษตรนั้นปราศจากสัตว์นรก ปราศจากสัตว์ในกำเนิดเดรัจฉาน ปราศจากเปรตและอสูรกาย เป็นพุทธเกษตรที่น่ารื่นรมย์เสมอ ได้เกิดแล้วบนฝ่ามือส่วนที่เป็นพื้นดินสำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์ที่เป็นทิพย์ ประดับด้วยต้นรัตนจันทนพฤกษ์ มีหน้าต่างประดับด้วยรัตนะ ห้อยด้วยแผ่นผ้าที่ต่อเนื่องกัน จุดธูปครู่หนึ่ง ชั่วกลิ่นแห่งรัตนะ ที่โคนต้นรัตนพฤกษ์ทั้งปวง ประมาณช่วงแห่งการยิงลูกธนู จะมีโพยม (ปราสาท) รัตนะตั้งอยู่ บนยอดรัตนปราสาททั้งปวง มีเทพบุตรจำนวนร้อยโกฏิ ร่วมกันขับร้องประโคมดนตรี

เพื่อบูชาพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี พระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคนั้น ได้แสดงธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ โดยพิสดาร แก่พระมหาสาวกทั้งหลายเหล่านั้น และแก่พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ได้กระทำให้ พระสรรวสัตวปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ตั้งมั่นแล้ว พระชนมายุของพระนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ และพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้นมีประมาณ 42 พันกัลป์ เช่นเดียวกับพระชนมายุของพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ และพระสาวกเหล่านั้น ก็ พระสรรวสัตวปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ถึงพร้อมด้วยความประพฤติ ที่ทำได้ยากยิ่ง ตามประพจน์ของพระผู้มีพระภาค พระองค์ได้ขึ้นสู่การเดินจงกรม เป็นเวลา 12,000 ปี เป็นผู้ประกอบโยคะ ด้วยการใช้ความเพียรเป็นอย่างมาก ล่วงเลยไปถึง 12,000 ปี พระองค์จึงได้บรรลุ สรรวรูปสันทรรศนสมาธิ (สมาธิที่สามารถมองเห็นรูปทั้งปวง)

พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์พระองค์นั้น เมื่อได้สมาธินั้นแล้ว ก็เกิดความยินดีปรีดิ์เปรมปลื้มปีติโสมนัสสูงสุด ในขณะนั้น คิดว่า เพราะอาศัยธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีตสูตรนี้ เราจึงได้สรรวรูปทรรศน์สมาธินี้ ในเวลานั้นพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้คิดอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ เราควรทำการบูชาต่อพระผู้มีพระภาคตถาคต จันทรสูรยวิมลประภาศรีและธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนั้น ในขณะที่พระองค์ทรงบรรลุสมาธินั้น สายธารดอกมณฑารพน้อยใหญ่จำนวนมาก ได้โปรยลงจากฟากฟ้า แก่พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ผู้บรรลุสมาธินั้นตามลำดับ ละอองไม้จันทน์จับกลุ่มดำทะมึนปรากฏขึ้น สายฝนไม้จันทน์ก็ได้โปรยลงมา ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ คันธชาติเช่นนั้น แม้เพียงหนึ่งกรษะก็มีค่ากว่าสหาโลกธาตุนี้

        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้นได้มีความทรงจำและมีความรู้สึก เมื่อออกจากสมาธินั้น ครั้นออกแล้ว ได้คิดอย่างนี้ว่า การบูชา พระผู้มีพระภาค ด้วยการแสดงฤทธิ์ปาฏิหาริย์เพียงเท่านี้ จะไม่มากไปกว่าการเสียสละชีวิตของตนได้เลย ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในเวลานั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้บริโภครสธูปไม้กฤษณาและกำยาน ทั้งได้ดื่มน้ำมันดอกจำปาแล้ว ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ โดยปริยายนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้บริโภคของหอมและดื่มน้ำมันจำปาผสมกันเรื่อยมา จนล่วงไปได้ 12 ปี ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น โดยกาลล่วงไป 12 ปีนั้น ได้ห่อหุ้มอัตภาพของตนด้วยผ้าทิพย์ กระทำการอธิษฐานเฉพาะตน แล้วกระโจนลงในน้ำมันหอม

ครั้นทำการอธิษฐานเฉพาะตนแล้ว ได้เผากายตนเอง เพื่อกรรมคือการบูชาพระตถาคต และเพื่อบูชาธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ โลกธาตุทั้งหลายจำนวนเท่าเมล็ดทรายใน 80 แม่น้ำคงคา สว่างขึ้น ด้วยเปลวแสงประทีปจากกายของพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์พระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งปวงเหล่านั้น มีจำนวนเท่าเมล็ดทรายใน 80 คงคานที ในโลกธาตุเหล่านั้น ได้ให้สาธุการว่า "ดีละ ดีละ กุลบุตร ดีละ ดีละ กุลบุตร ท่านจงทำต่อไป นี้คือการปรารภความเพียร อันเที่ยงแท้ของพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลาย นี้คือตถาคตบูชาและธรรมบูชาอย่างแท้จริง ไม่เหมือนการบูชาด้วยดอกไม้ ธูป ของหอม มาลัย แป้งเครื่องลูบไล้ จีวร ธงปฏาก ไม่ใช่การบูชาด้วยอามิสไม่เหมือการบูชาด้วยไม้จันทน์อุรคสาร

ดูก่อนกุลบุตร นี้คือทานอันเลิศ ไม่เหมือนกับทานคือการสละราชสมบัติ ไม่เหมือนกับทานคือการสละบุตรและภรรยาอันเป็นที่รัก ดูก่อนกุลบุตร การบูชาธรรมที่ทำแล้วอย่างนี้ เป็นสิ่งประเสริฐ ดี เลิศ เลิศที่สุด กว่าการสละอาตมภาวะของตน ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ครั้นตรัสพระวาจาอย่างนี้แล้ว ก็ดำรงอยู่ด้วยอาการสงบ


        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ เมื่ออาตมภาวะ (ร่างกาย) ของพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์ ถูกไฟเผาไหม้อยู่นายถึง 1200 ปี เปลวไฟก็ยังไม่สงบ หลังจากล่วงไปอีก 1200 ปี แล้ว ไฟนั้นจึงสงบ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ขณะนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น ครั้นได้ทำตถาคตบูชา และธรรมบูชาอย่างนั้นแล้ว ก็จุติจากที่นั้น ไปบังเกิดทันทีในพระราชวังของ พระเจ้าวิมลทัตตะ ในสมัยของพระผู้มีพระภาค ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี บัลลังก์ก็ปรากฏขึ้นในบริษัท ในทันทีที่เกิดขึ้นนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้กล่าวคาถากับมารดาบิดาของตนในขณะนั้นว่า

        1     ข้าแต่ราชเศรษฐะ ข้าพเจ้าได้สมาธินี้ เพราะผลแห่งการเดินจงกรมของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้สละอาตมภาวะอันเป็นที่รักยิ่ง บำเพ็ญมหาพรตอย่างแรงกล้าและมั่นคงยิ่ง

       ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ครั้นได้กล่าวคาถานี้แล้ว ได้ทูลมารดาบิดของตนว่า ข้าแต่พระมารดาบิดา ข้าพเจ้าได้รับมนตร์ในการรับรู้เสียงทั้งปวง เพราะได้ทำการบูชาพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี ซึ่งยังดำรงพระชนม์อยู่ จะดำรงอยู่ต่อไปในโลกนี้ จักได้แสดงธรรมในวันนี้ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ มี 80 รั้อยพันหมื่นโกฏิคาถา ด้วย สังกระ(ระคนกัน) วิวระ(มีช่องทาง) อัโษภยะ(100วิวระ) ทั้งหมด ข้าพเจ้าได้ฟังจากสำนักของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ข้าแต่พระมารดา พระบิดา ดีละ ข้าพเจ้าจักไปสู่สำนักของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น  ครั้นไปที่นั้นแล้ว จักทำการบูชาพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในขณะนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้เหาะขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงประมาณ 7 ชั่วต้นตาล นั่งขัดสมาธิบนสัปตรัตนกูฏาคาร แล้วเคลื่อนเข้าไปสู่ที่ประทับของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ครั้นเข้าไปใกล้แล้ว ได้อภิวาทพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า กระทำสักการะ ประทักษินพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นประคองอัญชลีไปในทิศที่พระผู้มีพระภาคประทับ ครั้นนมัสการพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้สดุดี ด้วยคาถานี้ว่า

       1    ข้าแต่พระนริทระ พระองค์ผู้เป็นปราชญ์ มีพระพักตร์ผ่องใส รัศมีของพระองค์แผ่สว่างไปใน10 ทิศ ข้าแต่พระสุคต ผู้เป็นที่พึ่ง เพราะข้าพระองค์ ได้ทำการบูชาอันเลิศแด่พระองค์ จึงได้มาเฝ้าพระองค์อีก

       ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในขณะนั้น เมื่อพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ กล่าวคาถานี้แล้ว จึงได้ทูลเนื้อความนี้ กับพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ยังพอทรงพระชนม์อยู่แม้ในวันนี้หรือ? ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้น ได้ตรัสเนื้อความนี้กับพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ว่า ดูก่อนกุลบุตร กาลสมัยแห่งนิพพานของเรา ได้มาถึงแล้ว ดูก่อนกุลบุตรกาลอันเป็นที่สิ้นสุดของเราได้มาถึงแล้ว ดูก่อนกุลบุตร ท่านจงไปสู่ที่นั้น เพื่อเตรียมเตียงแก่เรา เราจักปรินิพพาน

        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระผู้มีพระภาคตถาคตจันทรสูรยวิมลประภาศรี  ได้ตรัสข้อความกันพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้นว่า "ดูก่อนกุลบุตร เราจักมอบศาสนา (คำสอน) นี้แก่ท่าน เราจักมอบพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ พระมหาสาวกทั้งหลาย พระพุทธโพธิญาณ โลกธาตุ รัตนวโยมกะ เทวบุตรและอุปัฏฐาก ทั้งหลายของเราแก่ท่าน ดูก่อนกุลบุตร เมื่อเรานิพพานแล้ว เราจักมอบพระธาตุเหล่านั้นแก่ท่าน ดูก่อนกุลบุตรขอให้ท่านพึงทำการบูชาพระธาตุของเราอย่างใหญ่หลวงด้วยตนเอง ท่านพึงกระทำพระธาตุเหล่านั้น ให้แผ่กว้างออกไป ท่านพึงสร้างสถูปจำนวนหลายพันองค์ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี  นั้น ครั้นได้สอน (แนะนำ) พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์อย่างนั้นแล้ว ในปัจฉิมยามราตรีนั้นเอง ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์พระองค์นั้นเห็นว่า พระผู้มีพระภาคตถาคต จันทรสูรยวิมลประภาศรี ปรินิพพานแล้ว จึงจักทำกองไม้จันทน์อุรคสาร ถวายพระเพลิงอาตมภาวะ(สรีระ)ของพระตถาคตนั้น เมื่อเห็นว่า อาตมภาวะของพระตถาคตที่ถูกเผาไหม้สงบลงแล้ว ต่อมาจึงเก็บพระธาตุ ร้องไห้ คร่ำครวญ เศร้าโศกแล้ว ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  เมื่อพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ร้องไห้คร่ำครวญ เศร้าโศกนั้น ได้ให้สร้างสัปตรัตนกุมภะ 84,000 ใบ บรรจุพระธาตุของพระตถาคต ลงในสัปตรัตนกุมภะเหล่านั้น ทั้งให้สร้างสัปตรัตนสถูป 84,000 องค์ สูงจรดพรหมโลก ประดับด้วยฉัตรเป็นแถว ห้อยด้วยผ้าแพรและกระดิ่ง เมื่อสร้างสถูปเหล่านั้นเสร็จแล้ว คิดว่าเราได้ทำการบูชาพระธาตุของพระตถาคตให้เลิศมากยิ่งขึ้น

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้กล่าวกับคณะของพระโพธิสัตว์ มหาสาวก เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงเหล่านั้นว่า ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ท่านทั้งปวง จงมารวมกัน เราจักทำการบูชาพระธาตุ ของพระตถาคตพระองค์นั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  ในขณะนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้เผาแขนของตนที่วิจิตรด้วยบุณยลักษณะ 100 ประการ เบื้องหน้าสถูปพระธาตุของพระตถาคต 84,000 องค์ ครั้นเผาแล้ว ได้ทำการบูชาสถูปพระธาตุพระตถาคตเหล่านั้นเป็นเวลา 72,000 ปี ครั้นทำการบูชาแล้ว ได้ทำการสอนพระสาวก จำนวน พันร้อยหมื่นโกฏิจนนับไม่ได้จากบริษัทนั้น พระโพธิสัตว์เหล่านั้น ได้บรรลุสรรวรูปสันทรรศน์สมาธิทุกองค์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2554 09:55:38 »




 ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ คณะของพระโพธิสัตว์ทั้งปวงนั้น และมหาสาวกทั้งหลาย ครั้นได้เห็นพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น เสียอวัยวะ (แขน มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้ คร่ำครวญ เศร้าโศก ได้กล่าวต่อๆกันว่า พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นี้ เป็นอาจารย์สั่งสอนเรา ขณะนี้ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น ยังดำรงอยู่ทั้งที่เสียอวัยวะ เสียแขน ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้กล่าวกะพระโพธิสัตว์ มหาสาวก และเทวบุตรเหล่านั้นว่า

ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย เมื่อเห็นเราเสียอวัยวะ จงอย่าร้องไห้ อย่าคร่ำครวญ อย่าเศร้าโศกไปเลย ที่ทรงพระชนม์อยู่ และทรงพระชนม์อยู่ต่อไปในโลกธาตุ อันไม่มีที่สิ้นสุดในทิศทั้ง 10 ขอให้พระพุทธเจ้าทั้งปวงเหล่านั้น เป็นพยานต่อพระผู้มีพระภาค ที่ได้สละแขนข้างหนึ่งของข้าพเจ้า ด้วยสัตยวาจาที่กล่าวนั้น ขอให้กายของข้าพเจ้าเป็นสีทอง ด้วยสัตยวาจานั้น ขอให้แขนของข้าพเจ้าจงเป็นเหมือนเดิม ขอให้มหาปฤถิวีนี้ จงหวั่นไหวเป็น 6 วิการ (6จังหวะ) ขอให้เทพบุตรทั้งหลายที่อยู่บนท้องฟ้า จงโปรยฝนดอกไม้จำนวนมากลงมา ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในทันทีที่พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น กระทำสัตยาธิษฐานนี้

สามพันโลกธาตุน้อยใหญ่นี้ ก็หวั่นไหวเป็น 6 จังหวะ ฝนดอกไม้จำนวนมากถูกโปรยลงมาจากเบื้องบนฟากฟ้า แขนของพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ก็ได้ปรากฏเหมือนเดิม เพราะความตั้งมั่นด้วยพลังแห่งญาณ และพลังแห่งบุญของพระโพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  ท่านอาจจะมีความสงสัย เข้าใจผิด หรือไม่แน่ใจว่า ก็โดยกาลสมัยนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น เป็นผู้อื่น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  ท่านไม่ควรมีความคิดเห็นอย่างนั้น เพราะอะไร? ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  เพราะว่า พระไภษัชยราชโพธิสัตว์มหาสัตว์ ในกาลสมัยนั้น คือพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ (ในสมัยนี้)

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ  พระไภษัชยราชโพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้ประสบความทุกข์ยากถึงพันร้อยหมื่นโกฏิชนิด ที่ปรารถนาอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณนี้ พึงเผานิ้วหัวแม่เท้าที่เจดีย์ของพระตถาคต พึงเผานิ้วมือ หรือนิ้วเท้าข้างหนึ่ง หรืออวัยวะแขนข้างหนึ่ง กุลบุตร หรือกุลธิดานั้น ผู้ดำรงอยู่ในโพธิสัตวยาน ก็ชื่อว่า ได้ทำสักการะ ด้วยบุญที่มากกว่า ไม่น้อยไปกว่าการบริจาคราชสมบัติ ไม่น้อยไปกว่าการบริจาคบุตรธิดาและภรรยาอันเป็นที่รัก ไม่น้อยไปกว่าการบริจาคโลกธาตุทั้งสามพันน้อยใหญ่รวมทั้งป่า มหาสมุทร ภูเขา น้ำพุ สระน้ำ ลำธาร บ่อ และอาราม

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ กุลบุตรหรือกุลธิดา ผู้ดำรงอยู่ในโพธิสัตวยาน พึงกระทำโลกธาตุทั้งสามพันน้อยใหญ่ในเต็มด้วยสัปตรัตนะ แล้วพึงถวายทานแด่พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระสาวก และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งปวง ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ กุลบุตรหรือกุลธิดานั้น สามารถทำได้พึงเพียงนั้น กุลบุตรหรือกุลธิดานั้นพึงรักษาธรรมบรรยายปุณฑรีกสูตร โดยที่สุดแม้เพียงคาถาหนึ่ง ซึ่งมี 8 บาท เราย่อมกล่าวว่า การสักการะอย่างนี้ ของกุลบุตรกุลธิดานั้นย่อมมีผลมากกว่า เราไม่กล่าวว่า ผู้ที่ทำโลกธาตุทั้งสามพันน้อยใหญ่นี้ ให้เต็มด้วยสัปตรัตนะ แล้วถวายทานแด่พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระสาวก และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งปวงว่าย่อมมีผลบุญมากกว่า

        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ มหาสมุทรถึงความเป็นยอดของน้ำพุ สระ หนอง ทั้งปวงฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ก็ถึงความเป็นยอดแห่งพระสูตรทั้งปวง ที่พระตถาคตตรัสแล้ว ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสุเมรุที่เป็นราชาแห่งภูเขา ย่อมถึงความเป็นยอดแห่งภูเขาตามกาลแห่งจักรวาลและมหาจักรวาลทั้งปวง ฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ชื่อว่า ราชา ถึงความเป็นยอดแห่งพระสูตรทั้งปวง ที่พระตถาคตตรัสแล้ว ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระจันทร์ที่ให้แสงสว่าง ถึงความเป็นยอดของดวงดาว ทั้งปวง ฉันใด

         

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายปุณฑรีกสูตรนี้ ที่ให้แสงสว่างยิ่งกว่าพระจันทร์พันร้อยหมื่นโกฏิดวง ย่อมถึงความเป็นยอดกว่าพระสูตรทั้งปวง ที่พระตถาคตตรัสแล้ว ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ มณฑลของพระอาทิตย์ย่อมขจัดความมืดมนอนธการทั้งปวง ฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ย่อมกำจัดความมืดมนอนธการแห่งอกุศลทั้งปวง ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ บรรดาเทพทั้งปวงในตรัยตรึงศ์ ท้าวสักกะ เป็นใหญ่กว่าเทพทั้งปวง ฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ย่อมเป็นใหญ่กว่าพระสูตรทั้งปวงที่พระตถาคตตรัสแล้ว ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ท้าสสหัมบดีพรหม ผู้เป็นราชาแห่งเทพ พรหมกายิกาทั้งปวง ทำหน้าที่บิดาแห่งพรหมโลก ฉันใด

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตร นี้ ย่อมทำหน้าที่บิดาของสัตว์ทั้งปวง พระสาวกทั้งปวง ทั้งที่เป็นพระเสขะและพระอเสขะ พระปัจเจกพุทธเจ้า และผู้ที่ตั้งอยู่ในโพธิสัตวยานทั้งปวง ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ และพระปัจเจกพุทธเจ้า ย่อมเป็นผู้ก้าวล่วงชน ไม่เว้นแม้คนพาลทั้งปวง ฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ย่อมก้าวล่วงพระสูตรทั้งปวง ที่พระตถาคตตรัสแล้ว พึงทราบเถิดว่า เป็นพระสูตรที่ถึงความเป็นเลิศ และถึงความเป็นยอด ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ สัตว์เหล่าใด รักษาราชา(ความยิ่งใหญ่)แห่งพระสูตรนี้ พึงทราบว่า สัตว์เหล่านั้นทั้งหมด ย่อมเป็นผู้ถึงความเป็นยอด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2554 10:02:55 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2554 10:00:16 »



ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระโพธิสัตว์ เรากล่าว่า เป็นเลิศกว่าพระสาวก และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งปวง ฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ เราก็กล่าวว่า เป็นเลิศกว่าพระสูตรทั้งปวง ที่พระตถาคตตรัสแล้ว ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระตถาคต ผู้เป็นธรรมราชาเจ้านคร ของพระสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ทั้งปวง ฉันใด ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ชื่อว่า เป็นตถาคต ของผู้ตั้งอยู่ในโพธิสัตว์ยานทั้งหลาย ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ย่อมปกป้องสัตว์ทั้งปวงจากภัยทั้งปวง

ย่อมปลดเปลื้องสัตว์ทั้งปวง จากความทุกข์ทั้งปวง เหมือนกับบ่อน้ำของผู้กระหายน้ำ เหมือนกับไฟของผู้มีความหนาวเย็น เหมือนเสื้อผ้าของคนเปลือยกาย เหมือนผู้นำการค้าของพ่อค้า เหมือนมารดาของบุตร เหมือนเรือของผู้ข้ามฝั่ง เหมือนนายแพทย์สำหรับ ผู้ป่วยไข้ เหมือนประทีปสำหรับผู้อยู่ในความมืด เหมือนรัตนะของผู้ปรารถนาทรัพย์ เหมือนพระเจ้าจักรพรรดิของป้อมรบทั้งปวง เหมือนมหาสมุทรของแม่น้ำ เหมือนเปลวไฟของผู้กำจัดความมืดมนอนธการ

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ย่อมปลดเปลื้องจากความทุกข์ทั้งปวง ย่อมขจัดพยาธิทั้งปวง ย่อมปลดเปลื้องจากหนทางที่สัมพันธ์กับภัยในสงสารทั้งปวง ฉันนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ผู้ใดได้ฟัง ได้ถ่ายทอด หรือคัดลอก ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ใครๆก็ไม่สามารถจะนับปุญญาภิสังขาร ของผู้นั้น ให้สิ้นสุดได้ด้วยพุทธญาณ กุลบุตรหรือกุลธิดาชื่อว่า ได้สร้างปุญญาภิสังสารนั้น กุลบุตรหรือกุลธิดาใด ได้รักษา ท่อง สวด สดับ คัดลอกซึ่งธรรมบรรยายนี้ หรือทำเป็นเล่มหนังสือ แล้วพึงสักการะ เคารพ นบนอบ บูชาด้วยดอกไม้ ธูป มาลัย ของหอม ผงเครื่องลูบไล้ จีวร ฉัตร ธงปฏาก ธงไพชยันต์ หรือด้วยดนตรี ผ้า

และกรรมคือการประคองอัญชลี หรือด้วยประทีปน้ำมันเนย ประทีปน้ำมันหอม ประทีปน้ำมันดอกจำปา ประทีปน้ำมันดอกสุมนา ประทีปน้ำมันปาฎะ ประทีปน้ำมันจารษิกะ หรือประทีปนั้นดอกมะลิซ้อน พึงกระทำการสักการะ เคารพ นบน้อม และบูชา ด้วยการบูชาชนิดต่างๆ จำนวนมาก ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ กุลบุตรหรือกุลธิดา ผู้ดำรงอยู่ในโพธิสัตวยาน ผู้รักษา ท่องจำ และฟัง โยคปริวรรตเก่าๆ ของพระไภษัชยราช ชื่อว่าได้สะสมบุญไว้จำนวนมาก ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ถ้ามาตุคามใด ได้ฟังธรรมบรรยายนี้ แล้วยึดถือปฏิบัติ รักษาไว้ สตรีภาวะจักมีแก่เขาเป็นครั้งสุดท้าย


        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ มาตุคามบางคน ได้ฟังประวัติปูรวโยคะของพระไภษัชยราชนี้ แล้วปฏิบัติตามใน 50 ชาติสุดท้าย เขาเมื่อจุติจากโลกนี้แล้ว จะไปเกิดในโลกธาตุสุขาวดี ที่พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า อมิตายุส ซึ่งแวดล้อมด้วยคระของพระโพธิสัตว์ ประทับอยู่ ดำรงอยู่ และจะดำรงอยู่ต่อไป เขาได้อุบัติขึ้นนั่งบนสิงหาสน์ปัทมครรภ์นั้น ความรัก ความเกลียดชัง ความลุ่มหลง ความเย่อหยิ่ง ความริษยา ความโกรธ และความพยาบาท จะไม่เบียดเบียนเขาอีกต่อไป พร้อมกับการอุบัติขึ้น เขาย่อมได้รับอภิญญา 5 ประการ ได้ความเพียรในธรรมที่ยังไม่อุบัติขึ้น

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ เขาเป็นพระโพธิสัตว์ ที่มีความเพียรในธรรม ขณะที่ยังไม่อุบัติขึ้น ได้เห็นพระตถาคตทั้งหลายมีจำนวนเท่ากับเมล็ดทรายใน 72 คงคานที เขาสามารถมองเห็นพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย ด้วยจักขุนทรีย์ที่บริสุทธิ์ยิ่งของเขา
        พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น ได้ประทานให้สาธุการแก่เขาว่า ดีละ ดีละ กุลบุตร ท่านได้ฟังธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตร ที่ยกขึ้นแสดงในประพจน์ของพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี แล้วศึกษา เจริญภาวนา ใคร่ควรญ กระทำไว้ในใจ และประกาศแก่สัตว์เหล่าอื่น ดูก่อนกุลบุตร การสะสมบุญนี้ของท่าน แม้พระพุทธเจ้าพันองค์ก็ไม่อาจจะชี้แจงได้

ดูก่อนกุลบุตร ท่านได้เป็นศัตรูของมารร้าย ได้ข้ามพ้นสงครามอันน่ากลัวแล้ว ได้บดขยี้ศัตรูผู้ขัดขวางได้แล้วท่านได้เป็นผู้ตั้งมั่นแล้ว ในพระพุทธเจ้าพันร้อยองค์ ดูก่อนกุลบุตร ในโลกรวมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก บรรดาประชาชนทั้งหลาย รวมทั้งสมณะและพราหมณ์ บุคคลผู้เป็นเช่นท่านนั้น ย่อมไม่มี ยกเว้นพระตถาคตเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น บุคคลอื่น จะเป็นพระสาวกก็ตาม พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ตาม พระโพธิสัตว์ก็ตาม ไม่สามารถจะชนะ (ครอบงำ) ท่านได้ด้วยบุญ ปัญญา หรือสมาธิ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะโพธิสัตว์นั้น ชื่อว่า เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งพลังแห่งปัญญา

        ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ผู้ใดได้ฟังประวัติโยคะในกาลก่อนของพระไภษัชยราชนี้ ที่กำลังเล่าอยู่ แล้วให้สาธุการ กลิ่นหอมแห่งดอกอุบลจักออกจากปากของผู้นั้น กลิ่นจันทน์หอม จักมีจากอวัยวะของเขา บุคคลใด ให้สาธุการในธรรมบรรยายนี้ คุณานิสงส์ทั้งหลายที่เราแสดงแล้วในที่นี้ ซึ่งประกอบด้วยธรรมที่ประจักษ์เหล่านี้ จักมีแก่บุคคลนั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ เพราะเหตุนั้น เราจึงมอบพระสูตรนี้ ที่เป็นบุพโยคประวัติของพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ (ให้แก่ท่าน) เพราะในกาลสมัยสุดท้าย ธรรมบรรยายนี้พึงดำเนินไปในชมพูทวี่ปนี้ ใน 50 ปีสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ยังไม่ถึงกับอันตรธาน มารผู้มีบาปไม่พึงได้โอกาส (การอวตาร) แม้กระทั่งเทพ ผู้เป็นกลุ่มของมาร นาค ยักษ์ คนธรรพ์ และกุมภัณฑ์ก็ไม่พึงได้การอวตาร

ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ เพราะเหตุนั้น เราจึงอธิษฐานถึงธรรมบรรยายนี้ ในชมพูทวีปนี้ ธรรมบรรยายนี้ จักเป็นเภสัชของสัตว์ทั้งหลาย ผู้ป่วย และถูกพยาธิเบียดเบียน เพราะได้ฟังธรรมบรรยายนี้ พยาธิย่อมไม่เข้าสู่ร่างกาย ความชราและความตายก่อนอายุขัย จะไม่มาถึง ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ถ้าบุคคลผู้ดำรงอยู่ในโพธิสัตวยานพึงเห็นภิกษุ ผู้รักษาพระสูตรนี้ แล้วพึงสักกาะท่าน แม้ด้วยผงจันทน์และดอกอุบล ครั้นโปรยดอกไม้แล้ว พึงเกิดความคิดขึ้นว่า กุลบุตรจักไปสู่มณฑลของต้นโพธิ์ จักรับหญ้า จักกำหนดรู้ที่นอนคือหญ้าที่ต้นโพธิ์ เขาจักกระทำให้มารและยักษ์พ่ายแพ้ เขาจักยังสังข์แห่งธรรมให้สมบูรณ์ เขาจักตีกลองแห่งธรรม เขาจักข้ามสาครคือภพ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ กุลบุตรหรือกุลธิดา ผู้ดำรงอยู่ในโพธิสัตวยานนั้น ครั้นได้เห็นภิกษุ ผู้รักษาพระสูตรนี้ พึงเกิดความคิดว่า คุณานิสงส์ที่พระตถาคตแสดงแล้ว ย่อมมีมากมายถึงเพียงนี้

        เมื่อพระตถาคตกำลังแสดงบุพโยคประวัติของพระไภษัชยราชอยู่นั้นพระโพธิสัตว์จำนวน 84,000 องค์ ก็ได้รับมนต์ที่นำไปสู่ความเป็นผู้ฉลาดในเสียงทั้งปวง พระผู้มีพระภาคประภูตรัตนตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประทานสาธูการว่า ดีละ ดีละ นักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ท่านได้คิดอย่างนี้ แล้วถามพระตถาคต ผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมที่ไม่สามารถคิดคำนวณได้ ซึ่งพระตถาคตก็ได้แสดงไว้แล้ว

บทที่ 22 ไภษัชยราชปูรวโยคปริวรรค ว่าด้วย
ปุพพโยคกรรมของไภษัชยราช
ในธรรมบรรยาย ศรีสัทธรรมปุณฑรีกสูตร
มีเพียงเท่านี้



http://www.mahayana.in.th/tmayana/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81/สัทธรรมปุณทรีกะบท20-21-22-23.htm

บันทึกการเข้า
คำค้น: พระสูตร ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ตรวจสอบ นายชะเอม แก้วคล้าย แปล  
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 14 ว่าด้วยพระโพธิสัตว์ผุดขึ้นจากรอยแยกของแผ่นดิน
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 4 5274 กระทู้ล่าสุด 20 มิถุนายน 2554 22:39:00
โดย เงาฝัน
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 15 ว่าด้วยประมาณอายุกาลของพระตถาคต
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 0 2890 กระทู้ล่าสุด 21 มิถุนายน 2554 09:53:27
โดย เงาฝัน
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 17 ว่าด้วยการแสดงบุญจากการอนุโมทนา
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 0 2651 กระทู้ล่าสุด 22 มิถุนายน 2554 21:13:11
โดย เงาฝัน
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 18 ว่าด้วยอานิสงส์ของผู้กล่าวธรรม
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 1 3074 กระทู้ล่าสุด 23 มิถุนายน 2554 12:11:33
โดย เงาฝัน
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 20 ว่าด้วยอิทธิภิสังขารของพระตถาคต
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 0 2437 กระทู้ล่าสุด 25 มิถุนายน 2554 14:03:52
โดย เงาฝัน
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.721 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 02 มีนาคม 2567 13:29:08