28 มีนาคม 2567 18:33:55
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
เกร็ดศาสนา
.:::
บันทึกของอ็องรี มูโอต์ เกี่ยวกับพระสงฆ์ในสังคมของประเทศไทย
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: บันทึกของอ็องรี มูโอต์ เกี่ยวกับพระสงฆ์ในสังคมของประเทศไทย (อ่าน 341 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2303
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 101.0.4951.41
บันทึกของอ็องรี มูโอต์ เกี่ยวกับพระสงฆ์ในสังคมของประเทศไทย
«
เมื่อ:
09 พฤษภาคม 2565 13:20:44 »
Tweet
ท่าน้ำของวัดแห่งหนึ่งในอยุธยา ภาพวาดลายเส้นจากรูปถ่ายโดยเธรงค์
บันทึกของอ็องรี มูโอต์ เกี่ยวกับพระสงฆ์ในสังคมของประเทศไทย
ผู้เขียน - เสมียนนารี
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2565
อ็องรี มูโอต์ (ค.ศ.1826-1861) นักโบราณคดี นักสำรวจ นักธรรมชาติชาวฝรั่งเศส ที่ออกเดินทางสำรวจราชอาณาจักรสยาม, กัมพูชา และลาว ถึง 4 ครั้ง ระหว่างตุลาคม ค.ศ.1858-ตุลาคม ค.ศ.1861 ข้อมูลในการเดินทางครั้งนั้นมูโอต์ยังรวบรวมเขียนเป็นหนังสือชื่อ “บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ในสยาม กัมพูชา ลาว และอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่นๆ” (สนพ. มติชน, 2558) ตอนหนึ่งใน “บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ฯ” กล่าวถึง พระสงฆ์ ในสังคมไทยไว้ดังนี้ (จัดย่อหน้าใหม่และสั่งเน้นคำโดยกองบรรณาธิการ)
ชาวยุโรปเรียกพระสงฆ์ในพุทธศาสนาที่เมืองสยามว่า ตาลาปวง (
talapoins
) ซึ่งคงแผลงมาจากคำว่า ตาลปัตร (
talapat
) พัดใบตาลที่พระสงฆ์มักถือติดมือ ส่วนชาวสยามตลอดทั่วสองฟากฝั่งแม่น้ำเรียกสงฆ์ว่า พระ ซึ่งยังคงความหมายเดิมที่ใช้กันตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำไนล์ในอดีต คือหมายถึงผู้ยิ่งใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ และสว่างไสว
หากเอาแนวคิดทางเราไปอธิบายสถานะของพระที่เป็นคณะสงฆ์ในสังคม คงจะให้นิยามได้ยากนัก ด้วยว่านี่ไม่ใช่ชนชั้นทางสังคมเพราะใครๆ ก็บวชเป็นพระได้ แม้แต่พวกทาสที่ได้รับอนุญาตจากเจ้านายแล้ว จนอาจกล่าวได้ว่าพระสงฆ์เป็นชนกลุ่มเดียวที่ยังคงเจริญรอยตามแนวคิดดั้งเดิมของศาสดาผู้ก่อตั้ง
…………..
พวกเขาให้การยอมรับนับถือ [พระสงฆ์] อย่างสูงสุด อีกทั้งมอบสถานภาพอภิสิทธิ์หรูเลิศและชั้นยศสูงสุดให้ แม้เมื่ออยู่กลางถนน ชาวบ้านสามัญพากันหมอบกราบเมื่อเจอพระสงฆ์อยู่ต่อหน้าโดยยกมือขึ้นจรดหน้าผากแสดงความเคารพ แม้เหล่าขุนนางและบรรดาเชื้อพระวงศ์ก็ประนมสองมือไหว้ ส่วนพระมหากษัตริย์แม้จะทำความเคารพเพียงครั้งเดียว แต่ก็โปรดให้นั่งใกล้ๆ กับที่ประทับ ในแต่ละวันพระองค์ถวายทานแก่พระสงฆ์นับร้อยๆ รูปเป็นแบบอย่างให้พระราชินีและพระสนมชั้นเอกในพระราชวังกระทำตามด้วยศรัทธา
ทั้งนี้ แม้ว่าวินัยเข้มงวดพิสดาร 227 ประการของพระสงฆ์ จะมีข้อบัญญัติ อาทิ
“ห้ามมองสตรี”
“ห้ามคิดถึงสตรีทั้งในยามหลับและยามตื่น”
“ห้ามสนทนาวิสาสะกับสตรีสองต่อสอง”
“ห้ามรับของถวายมือต่อมือจากสตรี”
“ห้ามแตะต้องชายผ้าสตรี หรือแม้แต่เด็กหญิงตัวน้อยที่ยังนอนเปล”
“ห้ามนั่งเสื่อผืนเดียวกับสตรี”
“ห้ามขึ้นเรือที่อาจมีสตรีโดยสารด้วย” ฯลฯ
หากข้อเท็จจริงกลับกลายเป็นว่า สตรีเพศอันเป็นกึ่งหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์นี่เองที่เป็นฐานค้ำจุนสนับสนุนสถาบันสงฆ์อย่างแน่นแฟ้นมั่นคงที่สุด
ทุกๆ เช้าในครอบครัวจนๆ ภรรยาหรือบุตรสาวคนที่นั่งคุกเข่านอบน้อมอยู่หน้าประตูบ้านเพื่อรอถวายทาน (ใส่บาตร) แก่พระผู้เดินบิณฑบาตมาจากวัดใกล้บ้าน อาหารที่ดีที่สุดเท่าที่สามารถจัดหามาได้จากรายการอาหารของคนยากจนถูกบรรจงหย่อนอย่างนิ่มนวลลงในบาตรที่เปิดฝาอยู่เสมอ ไม่เพียงเท่านี้ พวกนางยังนำดอกไม้ไปบูชาพระพุทธรูปที่วัดดังกล่าวเดือนละ 3-4 ครั้ง และนำข้าวของไปถวายแทบเท้าพระสงฆ์เป็นประจำพลางนั่งร้องสาธุ! สาธุ สาธุ! (บราโว! บราโว!) ไปด้วยระหว่างพระสงฆ์ผู้มีหน้าที่เทศน์ประจำวันพร่ำบ่นอะไรต่างๆ ที่ฟังไม่รู้เรื่องหรือน่าเบื่อชวนง่วงเป็นที่สุดนานเป็นชั่วโมงๆ
ส่วนในครอบครัวรวยๆ นายหญิงเจ้าบ้านถือว่าการนิมนต์พระมาเทศน์ให้บรรดาญาติมิตรฟังเป็นกิจกรรมเชิดหน้าชูตา เหมือนๆ กับที่พวกนายหญิงทางบ้านเราจัดงานบอลรูมหรืองานคอนเสิร์ตเพื่ออวดรวยหรืออวดยศศักดิ์ ในวาระโอกาสนี้นายหญิงชาวสยามพิถีพิถันเลือกเฟ้นของที่จะถวายพระนักเทศน์และประจงจัดวางไว้ในห้องรับรอง มีตั้งแต่ รองเท้า ผอบราคาแพงใบหนึ่งใส่เหรียญทอง ใบหนึ่งใส่เหรียญเงิน สิริรวมมูลค่ามากกว่าเงินรายรับประจำปีของขุนนาง อีกทั้งจีวรสีเหลืองทำจากผ้าไหมและผ้าฝ้าย แล้วก็หมากพลูหรือยาเส้น ห่อชา ท็อฟฟี่ เทียน ข้าว ผลไม้ และของกินนานาชนิด เอาเป็นว่าของสารพัดสารพัน…
…………..
จึงไม่ต้องประหลาดใจเลยที่ชาวสยามใช้ชีวิตด้วยการเคารพนับถือผ้าเหลืองโดยเชื่อว่าถ้าได้ถวายจีวรให้พระห่มก็จะได้บุญใหญ่ ไม่เฉพาะแต่กับตัวเอง หากบุญนั้นยังส่งผลต่อวิญญาณของบรรพบุรุษด้วย อนึ่ง พวกคนมีฐานะทั้งหลายมักขอให้ลูกชายเข้าพิธีบวชอย่างน้อยก็สักช่วงเวลาหนึ่ง ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรจะง่ายเท่านี้อีกแล้ว
ชุมชนสงฆ์เปิดกว้างสำหรับบุคคลใดก็ตามที่ปวารณาตัวขอบวชต่อคณะพระอุปัชฌาย์ของแต่ละวัด โดยนุ่งขาวห่มขาว ตามด้วยขบวนแห่ของพ่อแม่ญาติพี่น้อง มิตรสหายและนักดนตรี พร้อมเครื่องปัจจัยไทยทาน ผ้าขาว (นาค) พร้อมเครื่อง สบง จีวร ผ้าคาด ผ้าสังฆาฏิ ผ้าไตรสีเหลือง และบาตรตีด้วยเหล็ก เพียงขานนาคต่อพระอุปัชฌาย์ว่า ตนไม่เคยเป็นโรคเรื้อน ไม่เคยเป็นบ้า ไม่เคยต้องคุณไสย ไม่มีหนี้สิน และได้รับฉันทานุมัติจากพ่อแม่ โดยที่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
เมื่อเอ่ยข้อความดังกล่าวให้ได้ยินกันถ้วนทั่ว คณะสงฆ์จึงให้ผู้ขอบวชรับฟังกฎระเบียบของคณะสงฆ์ และแล้วสมาชิกผู้ทรงเกียรติก็ได้รับการยกสถานะจากฆราวาสผู้ต่ำต้อยเป็นพระสงฆ์โดยสมบูรณ์ด้วยประการฉะนี้ และต้องครองผ้าเหลืองเป็นอย่างน้อย 3 เดือน พอครบกำหนดก็สามารถสึกจากความเป็นพระกลับไปนุ่งห่มอย่างคนธรรมดาและแต่งงานได้ เท่านี้ก็เป็นอันได้ทดแทนคุณผู้ให้กำเนิดเรียบร้อยแล้ว
หลังจำพรรษา 3 เดือนช่วงหน้าฝนผ่านพ้นไป พระสงฆ์น้อยรายเท่านั้นที่ต้องประจำอยู่ที่วัดเดิมแม้แต่ในหมู่พระสงฆ์ที่ครองเพศบรรพชิตตลอดชีวิต หลังจากนั้นเขาอาจจาริกไปทั่วราชอาณาจักรจากเหนือจรดใต้…
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
อ็องรี มูโอต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสบันทึกประสบการณ์กิน “ทุเรียน” เมืองจันท์
สุขใจ ไปรษณีย์
ใบบุญ
0
185
17 เมษายน 2566 12:48:51
โดย
ใบบุญ
กำลังโหลด...