[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
30 เมษายน 2567 18:05:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ต้นกำเนิดของซูชิ  (อ่าน 281 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 104.0.0.0 Chrome 104.0.0.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 27 สิงหาคม 2565 18:38:28 »



ต้นกำเนิดของซูชิ

          ต้นกำเนิดของซูชิ หลายๆคนคงอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าซูชินั้นมีที่มาจากประเทศแถวภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้อย่างประเทศไทยและลาว แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ต้นกำเนิดของซูชิ นั้นมีความเป็นมาอย่างไร และในวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักเกี่ยวกับซูชิอาหารประจำชาติของชาวญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกต่างรู้จักกันว่ามันมีที่มาและที่ไปอย่างไรบ้าง

           จุดเริ่มต้น และ ต้นกำเนิดของซูชิ
          สมัยก่อนข้าวและปลาถือเป็นอาหารจานหลักโดยทั่วไปของคนญี่ปุ่นในยุคโบราณ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมปลูกข้าวและการจับปลาตามแม่น้ำและในนาข้าวมาทำเป็นอาหาร ซึ่งในสมัยก่อนนั้นเราคงทราบกันดีว่าการจะเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารเอาไว้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะในสมัยก่อนนั้นไม่มีทั้งตู้เย็นหรือเครื่องทำความเย็นเพื่อรักษาความสดใหม่ของปลาให้อยู่ได้นานๆเหมือนอย่างในสมัยนี้ อีกทั้งปัญหาทางด้านภูมิศาสตร์เกี่ยวกับฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงบ่อย อาจทำให้เกิดสภาวะแห้งแล้งและฝนตกหนัก ทำให้ไม่สามารถหาอาหารประเภทโปรตีนจำพวกเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลามารับประทานกันได้ตลอดทั้งปี และเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ ซูชิ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 700 โดยประมาณ โดยได้รับอิทธิพลมากจากอาหารหมักอย่าง “ปลาร้า” หรือ “ปลาส้ม” ที่ทำกันในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้ ทางฝั่งแม่น้ำโขงอย่างลาวและไทย รวมถึงทางตอนใต้ของประเทศจีน

           โดยการทำ ซูชิ นั้นก็คือกระบวนการหมักชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการนำข้าวที่มีมาหมักกับปลาและเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งในกระบวนการทำซูชินั้นจะทำให้สารที่มีชื่อว่า แลกติก หรือแอซิดแบคทีเรียตามธรรมชาติในข้าวเจริญเติบโตและทำปฏิกิริยากับแป้งข้าวเปลี่ยนให้เป็นกรดแลกติก ซึ่งเจ้าแบททีเรียตัวนี้จะช่วยป้องกันการเน่าเปื่อยของเนื้อปลาและเนื้อสัตว์ได้ (คล้ายๆกับการทำนมเปรี้ยว) ซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวญี่ปุ่นในยุคโบราณอย่างแท้จริง และจุดประสงค์หลักๆในการทำซูชิขึ้นมานั้นก็เพื่อ เก็บรักษาและถนอมอาหาร ทำให้อาหารเป็นขนาดพอดีคำและสามารถพกพาไปเพื่อใช้เป็นเสบียงในการเดินทางได้อีกด้วย

           ประเภทของซูชิ
          ถึงคนส่วนใหญ่จะนิยมเรียกกันว่าซูชิแต่จริงๆแล้วซูชิไม่ได้มีแค่เเบบเดียวเท่านั้นแต่สามารถแบ่งออกได้ถึง 5 ประเภทดังนี้

1. นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi) หรือซูชิที่พบได้บ่อยในโรงแรมหรือภัตตาคารมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปทรงวงรี แล้ววางด้วยเนื้อปลาดิบ เนื้อวัว เนื้อหมึก หรือของคาวอื่น ๆ ไว้ข้างบน อาจจะเสริมรสหรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลหรือวาซาบิ ซึ่งถือได้ว่าเป็นซูชิที่คนส่วนใหญ่นิยมรัปประทานกันมากที่สุด


2. มากิซูชิ (Maki Sushi) ซูชิแบบนี้ถือได้ว่าเป็นที่นิยมในตลาดระดับล่างหรือพูดง่ายๆก็คือซูชิทั่วๆไปที่มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต และ ตลาดนัด เนื่องจากตัววัตถุดิบที่นำมาทำมีราคาไม่สูงมาก และมีหลากหลายรูปแบบคนส่วนใหญ่จึงรู้จักกันดี โดยมีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน

      แบบม้วนข้าวไว้ข้างในและสาหร่ายห่ออยู่ข้างนอก
      แบบม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายจะอยู่ข้างในแทนส่วนข้าวอยู่ด้านนอกห่อเป็นรูปกรวย



3. ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดเรียงในรูปแบบที่คล้ายๆกับข้าวกล่อง โดยการนำเอา ปลาดิบ กุ้ง ปลาหมึก และผักชนิดต่างๆมาวางเรียงอยู่ด้านบนของข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง


4. โอชิซูชิ (Oshi Sushi) จากเมืองโอซาก้าหรือเรียกว่ารูปแบบคันไซนั่นเอง โดยจะมีรูปแบบการทำโดยการเอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวโดยวางเนื้อปลาเอาไว้ด้านบน และนำมาหั่นให้เป็นขนาดพอดีคำ


5. อินะริ ซูชิ (Inari Sushi) เป็นซูชิประเภทหนึ่ง ที่ตัวข้าวและเนื้อสัตว์จะถูกห่ออยู่ในเต้าหู้มีลักษณะคล้ายกับไข่ยัดไส้ คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักกันดีเท่าไหร่นัก เพราะไม่ค่อยมีคนนิยมทำมาขาย

ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยหากจะบอกว่าซูชิเป็นอาหารที่คนทั่วโลกนิยมรับประทาน เพราะไม่ได้มีแค่หน้าตาและความอร่อยเท่านั้นแต่มันยังถูกหล่อหลอมมาด้วยประวัติศาสตร์และความเป็นมาที่ยาวนานด้วยการวิวัฒนาการวิธีการทำซูชิตามแบบฉบับวิธีชนพื้นบ้านที่แปลเปลี่ยนไปตามกาลเวลานั่นเอง


ขอบขอบคุณข้อมูลดีๆจาก fhsredraiderfootball



จะว่าไปแล้วเจ้าของกระทู้ก็พึ่งรู้เหมือนกันว่ามันมีหลายประเภท  และก็หิวขึ้นมาทันที แฮร่!! หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.339 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 25 มีนาคม 2567 21:49:46