29 มีนาคม 2567 19:04:15
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
.:::
ติดยึดเลยไม่เกิดปัญญา
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ติดยึดเลยไม่เกิดปัญญา (อ่าน 1868 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
ติดยึดเลยไม่เกิดปัญญา
«
เมื่อ:
04 มิถุนายน 2553 00:04:43 »
Tweet
ติดยึด
เลย
ไม่เกิด
ปัญญา
"ธรรมญาณ" ของมนุษย์มีพลานุภาพยิ่งใหญ่นัก แต่ที่ด้อยศักยภาพเพราะ
กิเลสทั้งปวงที่พัวพัน
และทำให้ด้อยค่าลงไปจึงกลายเป็น
ปุถุชน
ที่มีความ "
ติดยึด
" ทุกสิ่งไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในสภาพเช่นไร ด้วยเหตุนี้ปัญญาจึงไม่มี
อิสระ
ความคิดที่เกิดขึ้น จึงปนเปไปตาม
สภาพ
ของ
สิ่งที่ "ติดยึด" ทั้งสิ้น ภาวะ "ธรรมญาณ" จึงไม่อาจปรากฎได้ ความทุกข์จึงเกาะกุม "ธรรมญาณ" เอาไว้อย่างเหนียวแน่นจนแม้แต่ตัวเองก็ไม่อาจรู้ว่านั่นเป็น "ความทุกข์"
เพราะไม่อาจใช้
ปัญญาดั้งเดิม
รู้
ปัญหา
ได้เลย
พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงได้บอกเอาไว้ว่า "เมื่อเราใช้ปัญญาดั้งเดิมเพ่งพิจารณาภายในได้ ย่อมเกิดความสว่างไสวแจ่มแจ้งทั้งภายในและภายนอกและอยู่ในฐานะที่จะรู้จักใจของเราเองการรู้จักเช่นนี้จึงถือว่าเป็นกาารลุถึงวิมุติคือ
การหลุดเป็นอิสระจาก
เครื่องร้อยรัดทั้งปวง ภาวะการลุถึงวิมุติก็คือการลุถึงสมาธิฝ่ายปัญญา ซึ่งเป็น "
ความไม่ต้องคิด
"
อันหมายถึงการเห็นและรู้สิ่งทั้งปวงตามความเป็นจริงด้วยใจที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มพัวพัน"
การใช้ "ความไม่ต้องคิด" นั้นหมายความว่า
ใจมิได้กำหนด
ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว
จึงมิได้
ติดอยู่กับ
ภาวะ
ดีหรือชั่ว
เมื่อ "ธรรมญาณ" ขยับจึงเกิดเป็น "จิต" และไหลเลื่อนกลายเป็นความคิดดีหรือชั่วตาม
เหตุปัจจัย
ที่เกาะเกี่ยวเอาไว้ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากเหตุปัจจัยภายนอกทำให้ "จิต" แปรเปลี่ยนไปตามสภาพแห่งการปรุงแต่ง เพราะฉะนั้นจึงเกิด "ทุกข์" และ "สุข" เสมอ "ทุกข์" และ "สุข" ที่จิตกำหนดหมายเอาไว้ไม่ยั่งยืนไปได้เพราะความแปรเปลี่ยนของ "จิต" ไม่มีที่สิ้นสุด มี "เกิด" และ "ดับ" อยู่ตลอดเวลา ภาวะที่เป็นเช่นนี้จึงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น "ปัญญาดั้งเดิม" และถ้าใช้พิจารณาภายในของตนเองก็ไม่อาจพบพบความสว่างแจ่มแจ้งภายในได้เพราะเป็นการปรุงแต่งโดยอิทธิพลภายนอกทำให้
ไม่อาจมองย้อนส่องตนได้ตามความเป็นจริง
ติดยึดเลยไม่เกิดปัญญา
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 ตุลาคม 2555 16:13:57 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: เปลี่ยนภาพที่หายไปค่ะ
»
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
Re: ติดยึดเลยไม่เกิดปัญญา
«
ตอบ #1 เมื่อ:
04 มิถุนายน 2553 00:07:17 »
พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงกล่าวว่า "เมื่อเราใช้"
ความไม่ต้องคิด
"ธรรมญาณนั้นก็แทรกไปได้ในทุกสิ่งแต่ไม่ติดอยู่ในสิ่งใดเลย สิ่งที่เราต้องทำนั้นมีเพียงการชำระจิตให้ใสกระจ่าง
เพื่อวิญญาณทั้งหกแล่นไปตามอาตนะหก จะไม่ถูกทำให้เศร้าหมองโดยอารมณ์ทั้งหก
เมื่อใด "ธรรมญาณ" ของเราทำหน้าที่ได้โดย
อิสระ
ปราศจากอุปสรรคและ
อยู่ใน
สถานะ
ที่จะ "มา" หรือ "ไป" ได้โดย
อิสระ
เมื่อนั้นจึงได้
ชื่อว่า
เราได้บรรลุ สมาธิฝ่ายปัญญา หรืออิสรภาพ
สถานะเช่นนี้จึงมีนามว่า
การทำหน้าที่ของ "
ความ
ไม่ต้องคิด
"
การที่อายตนะหกอันได้แก่ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้รับรสจากวิญญาณทั้งหกย่อมมีความหมายว่า ได้ก่อให้เกิด รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และ ธรรมารมณ์ และ "ธรรมญาณ"
รับไปปรุงแต่ง
ภายใน
ย่อมก่อให้เกิดความ "ชอบ" และ "ชัง" เช่น รูป น่ารักและน่าชัง รส หวานหรือขม กลิ่น หอมหรือเหม็น เสียง ไพเราะหรือหยาบคาย สัมผัส อ่อนหรือแข็ง อารมณ์ ดีหรือร้าย
การ
กำหนด
หมายเอาว่า
"ชอบ" หรือ "ชัง" เป็นเรื่องที่ "จิต" ปรุงแต่งไปตามเคยชินและยึดถือเอาไว้แน่นหนา จึงนำความทุกข์ ทำให้ "
จิต
" เศร้าหมองได้
ถ้าใช้ "
ความไม่คิด
" ก็คือ การเห็น
รูป
ก็
สักแต่ว่าเห็น
มิได้ไป
กำหนด
หมาย
ว่า "น่ารัก" หรือ "น่าชัง" เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่าเราบรรลุถึง
"วิมุติปัญญา" เพราะสามารถตัดความยึดมั่นถือมั่นได้เด็ดขาด ความเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดเหล่านี้จึงเป็นจริง
แต่ปุถุชนยึดมั่นไม่อาจตัดออกไปได้ "ปัญญา" ที่ใช้ไปจึงเป็นไป
ตามสภาพแห่งความอยากได้
ถ้ารูปสวย และ
ปฏิเสธ
ถ้ารูปชัง เมื่อได้ "รูปชัง" จึงเกิดความทุกข์ ครั้นได้ "รูปสวย" จึงเกิดความสุข แต่ไม่ว่าจะ "สวย" หรือ "น่าเกลียด"
ล้วนต้อง
เสื่อมสลายไปตามสภาพความเป็นจริงแห่งสัจธรรม
ดังนั้นจึงเกิดความเศร้าหมอง
"
ธรรมญาณ
" จึงมิได้พบ
ภาวะ
อิสระ
ไม่อาจ "มา" หรือ "ไป" ได้โดยง่ายเพราะติดตรึงอยู่กับอารมณ์ทั้งหก
วิมุติปัญญา เป็นปัญญาอันทำให้เกิดภาวะหลุดพ้นไปจาก
เครื่องร้อยรัดเหล่านี้ได้
โดยมิต้อง
กำหนด
หรือบีบบังคับแต่อย่างใดเลย
เพราะฉะนั้นการภาวนาใดๆ หรือใช้แปดหมื่นสี่พันวิธีเพื่อบีบบังคับหรือกำหนดมิให้ "
ธรรมญาณ
" ติดตรึงอยู่กับอารมณ์ทั้งหกจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น เมื่อเห็น รูปสวย จิตเกิดภาวะยึดติดแล้วนั่งสมาธิหลับตา
เพื่อตัดรูปนั้น
จึงเป็นเพียงการเบี่ยงเบน อายตนะ
ภายนอก
คือ "ตา" ให้
พ้น
ไปจาก
รูป
นั้น แต่ "
จิต
" ยังติดพันอยู่
จึงตัด
ไม่ขาด
พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงจึงกล่าวว่า "
การหักห้ามความคิดถึงสิ่งต่างๆ ให้ความคิดทั้งหมดถูกกดเอาไว้ ย่อมเป็นการกดธรรมะไว้มิให้ปรากฎ
หรือ
เป็นไป
ตามที่ควรจะเป็น
และข้อนี้ย่อมเป็น
ความเห็นผิด
" "วิมุติปัญญา" หรือ "ปัญญาดั้งเดิม" ย่อมเป็นสิ่งเดียวกันอันหมายถึง "
ธรรมญาณ
" ที่แต่เดิมมาก็
ปราศจากการยึดติด
ในสิ่งใดๆอยู่แล้วนั่นเอง
Credit by
http://www.dhammajak.net/zen/14.html
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 ตุลาคม 2555 17:51:48 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: jpg+จัดหน้าค่ะ
»
บันทึกการเข้า
คำค้น:
ความไม่ต้องคิด
ปรุงแต่ง
ปัญญาดั้งเดิม
เกิด ดับ
การกำหนด
อิสระ
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...