สังฆาฏิสูตร

สังฆาฏิสูตร

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ถ้าแม้นว่าภิกษุจับชายสังฆาฏิตามหลังย่างเท้าตามทุกก้าว
แต่เธอมีความละโมภ มีความติดใจแรงกล้าในกามทั้งหลาย
มีจิตพยาบาท มีความดำริแห่งใจอันเป็นโทษ
ลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น มีจิตหมุนไปผิด

ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ภิกษุนั้นก็ยังอยู่ไกลเราโดยแท้
และเราก็อยู่ไกลภิกษุนั้น
ข้อนั้นเพราะเหตุใด

เพราะภิกษุนั้นไม่เห็นธรรม
ผู้ไม่เห็นธรรม ย่อมไม่เห็นเรา...

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ถ้าแม้ว่าภิกษุนั้นอยู่ไกลตั้งร้อยโยชน์
แต่เธอไม่มีความละโมภ ไม่มีความติดใจแรงกล้าในกามทั้งหลาย
มีจิตไม่พยาบาท มีความดำริแห่งใจอันไม่เป็นโทษ

มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น
จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว สำรวมอินทรีย์

ภิกษุนั้นย่อมชื่อว่าอยู่ใกล้เราโดยแท้
และเราก็อยู่ใกล้ภิกษุนั้น

ข้อนั้นเพราะเหตุใด
เพราะภิกษุนั้นเห็นธรรม ผู้เห็นธรรมย่อมเห็นเรา... (เข้าใจธรรมชาติ และ ตถาคต)

...อิติวุตตก ๒๕/๓๐๐...

(เห็น)

//-จักษุมีสองอย่าง คือมังสจักษุ (ตาเนื้อ) ๑
ปัญญาจักษุ (ตาปัญญา) ๑.

ในจักษุสองอย่างนั้น ปัญญาจักษุมี ๕ อย่างคือ

พุทธจักษุ ๑.......................เข้าใจด้วยสัมมาสติโพธิปัญญา และทัศนวิสัยแห่งพุทธะ
สมันตจักษุ ๑.....................เข้าใจเพราะมีญานและฌาน ที่ฝึกดีแล้ว
ญาณจักษุ ๑......................เข้าใจเพราะมี วิชา และวิชชา
ทิพยจักษุ ๑......................เข้าใจสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้ง เกินกว่ามนุษย์ทั่วไป เช่นปฏิสมุทปบาท
ธรรมจักษุ ๑.....................เข้าใจธรรมชาติ ทั้งที่แปรปรวน เป็นกฎเหตุปัจจัย วิธีพัฒนาสติปัญญา

http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=206

เลือกธรรม เว้นในสิ่งควรเว้น เสพในสิ่งควรเสพ
อดทนในสิ่งควรอดทน ฝึกละวางในสิ่งควรละ พัฒนาในสิ่งควรพัฒนา

//-ดังนั้นการเห็นในที่นี้คือ"เข้าใจธรรมชาติตามความเป็นจริง"
เพราะพระองค์คือ"ตถาคต ผู้ชี้ให้เห็นความเป็นธรรมดา ของธรรมชาติ"
ไม่ใช่เห็นร่างกายที่เป็นมนุษย์ของพระพุทธเจ้า

โดย : puling