26 เมษายน 2567 06:19:02
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
.:::
เพชรตัดทำลายมายา : ดอกกุหลาบมิใช่ ดอกกุหลาบ วิภาษวิธีแห่งปรัชญาปารมิตา
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: เพชรตัดทำลายมายา : ดอกกุหลาบมิใช่ ดอกกุหลาบ วิภาษวิธีแห่งปรัชญาปารมิตา (อ่าน 2853 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99
เพชรตัดทำลายมายา : ดอกกุหลาบมิใช่ ดอกกุหลาบ วิภาษวิธีแห่งปรัชญาปารมิตา
«
เมื่อ:
26 กรกฎาคม 2553 14:51:01 »
Tweet
[ โดย อ.มดเอ็กซ์ จากบอร์ดเก่า ]
" ไฉนจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า บุคคลเช่นนั้นไม่ยึดมั่นอยู่กับ
ความคิดเนื่องด้วยตัวตน บุคคล สัตวะ และชีวะ เขาไม่ยึดมั่น
อยู่กับความคิดเกี่ยวกับธรรมและอธรรม ไม่ยึดมั่นว่านี่คือรูป
ลักษณะ นั่นมิใช่รูปลักษณะ เช่นนั้นเพราะเหตุใด ก็เพราะว่า
ถ้าบุคคลยึดมั่นอยู่กับความคิดเกี่ยวกับธรรม จิตบุคคลนั้นก็ยัง
ผูกพันอยู่กับตัวตน บุคคล สัตวะ และชีวะ ถ้าเขายึดมั่นอยู่กับ
ความคิดว่าไม่มีธรรม จิตของเขาก็ยังผูกพันอยู่กับตัวตน บุคคล
สัตวะ และชีวะอยู่ "
รูปลักษณะในที่นี้หมายถึงมโนทัศน์ เมื่อเราเกิดมโนทัศน์เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง ภาพลักษณ์ ของสิ่งนั้นจะปรากฏอยู่ในมโนทัศน์ เช่นเมื่อเรามีมโนทัศน์เกี่ยวกับโต๊ะ เรานึกเห็นภาพลักษณ์ ของโต๊ะ แต่เราต้องจำไว้ว่ามโนทัศน์ของเราไม่ใช่สิ่งนั้น เป็นเพียงความจำได้หมายรู้ของเรา ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะแตกต่างจากโต๊ะมาก อย่างเช่นปลวกอาจมองโต๊ะว่าเป็นงานเลี้ยงสนุก นักฟิสิกส์อาจมองว่าเป็นมวลของอนุภาคซึ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ส่วนพวกเราซึ่งอยู่บน เส้นทางการปฏิบัติพุทธธรรมนั้น เคยผ่านการฝึกมองอย่างลึกซึ้ง เราอาจมีทัศนะที่ผิดน้อยกว่า และความจำได้หมายรู้ของเราอาจเกือบ ๆ สมบูรณ์ใกล้เคียงความจริงมากกว่า แต่ก็ยังเป็น ความจำได้หมายรู้อยู่นั่นเอง
โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว พุทธศาสนานิยามคำ
ธรรม
ว่าคือ ปรากกฏการณ์ใด ๆ ที่สามารถทรงลักษณะ เฉพาะตัวของมันไว้ ไม่ทำให้เข้าใจผิดไปว่าเป็นปรากฏการณ์อื่น ความโกรธ ความเศร้าหมอง ความวิตกกังวล หรือปรากฏการณ์ทางจิตทั้งหลาย เรียกว่า
จิตธรรม
โต๊ะ เก้าอี้ บ้าน ยอดเขา แม่น้ำ และปรากฏการณ์ทางกายภาพทั้งหลายเรียกว่า
รูปธรรม
ปรากฏการณ์ซึ่งไม่เป็นทั้ง ปรากฏการณ์กายภาพหรือปรากกการร์ทางจิต เช่น การได้ การเสีย ความเป็น ความไม่เป็น จัดว่าเป็น
จิตวิประยุกตสังสการธรรม
ปรากฏการณ์ซึ่งไม่ปรุงแต่งด้วยเหตุปัจจัยใดเรียกว่า อสังสกฤตธรรม ( หรือภาษาบาลีเรียกว่า
อสังขตธรรม
)
พุทธศาสนาสำนักสรวาสติวาทินกล่าวว่า อวกาศเป็น อสังขตธรรม เพราะมีธรรมชาติอันไม่เกิด ไม่ตาย ไม่มีรูปปรุงแต่ง แต่นี่เป็นเพียงวิธียกตัวอย่างของพวกเขา แท้จริงแล้วอวกาศก็ประกอบ ด้วยสิ่งต่าง ๆ เช่น กาลเวลา และวิญญาณ ดังนั้นอวกาศจึงมิใช่ธรรมไร้ปัจจัยปรุงแต่งอย่างแท้ จริง สำนักสรวาสติวาทินเรียก " ความเป็นเช่นนั้น " ว่า เป็นธรรมไม่มีปัจจัยปรุงแต่งเหมือนกัน แต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งเราก็จะเห็นว่า มโนทัศน์ของ " ความเป็นเช่นนั้น " มีเพราะเรามีมโนทัศน์ ของ " ความไม่เป็นเช่นนั้น " ถ้าเราคิดว่าความเป็นเช่นนั้นแตกต่างจากธรรมอื่น ๆ ทั้งหมด มโนทัศน์ความเป็นเช่นนั้นของเราก็เกิดจากมโนทัศน์ความไม่เป็นเช่นนั้นนั่นเอง เมื่อมีข้างบน ย่อมมีข้างล่าง เมื่อมีข้างในย่อมมีข้างนอก เมื่อมีความถาวรย่อมมีความไม่ถาวร ตามกฏแห่ง ความสัมพันแล้ว ทัศนะทั้งหลายของเราถูกนิยามด้วยสิ่งตรงข้ามเสมอ
แต่ในวิภาษวิธีแห่งปรัชญาปารมิตา เราจำเป็นต้องพูดสิ่งตรงข้าม " เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่มันเป็น มันจึงเป็นอย่างที่มันเป็น " เมื่อเรามองเข้าไปในธรรมแล้วเห็นทุกสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม นั่นคือเราเริ่ม เห็นธรรมแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องไม่ยึดมั่นผูกพันอยู่กับธรรมมโนทัศน์ ( มโนทัศน์ว่ามีธรรม ) หรือแม้กับอธรรมมโนทัศน์ ( มโนทัศน์ว่าไม่มีธรรม )
อาตมายกตัวอย่างความคิดเกี่ยวกับอธรรม ( ความเชื่อว่าไม่มีธรรม ) มาอธิบาย ก็เพื่อช่วยให้ พวกเราก้าวพ้นจากความคิดเกี่ยวกับธรรม แต่ก็อย่าไปยึดมั่นอยู่กับอธรรมมโนทัศน์ เมื่อเห็น ดอกกุหลาบ เรารู้ว่าดอกกุหลาบคือธรรม การจะเลี่ยงไม่ให้หลงยึดอยู่กับมโนทัศน์ " กุหลาบ " เราต้องจำไว้เสมอว่า กุหลาบดอกนี้ไม่อาจมีชีวิตอยู่เดี่ยว ๆ ได้ มันไม่ได้เป็นชีวิตอิสระ หากแค่มีธาตุซึ่งไม่ใช่ดอกกุหลาบมาประกอบอยู่ด้วยกัน เรารู้ว่าดอกกุหลาบไม่ใช่ธรรม ที่แยกตัวออกมาโดด ๆ แต่เมื่อเราละทิ้งมโนทัศน์ที่ว่าดอกกุหลาบสามารถอยู่ได้อย่างอิสระ แล้ว เราก็อาจไปหลงยึดความคิดว่าไม่มีดอกกุหลาบได้อีก เราจึงต้องเป็นอิสระจากอธรรม มโนทัศน์ด้วย
วิภาษวิธีแห่งปรัชญาปารมิตา มีอยู่ 3 ขั้นตอน
( 1 ) ดอกกุหลาบ
( 2 ) ไม่ใช่ดอกกุหลาบ
( 3 ) นั่นคือดอกกุหลาบ
ดอกกุหลาบ ในขั้นที่สามแตกต่างจาก ดอกกุหลาบ ในขั้นแรกอย่างมาก คำพูดว่า " ว่างจากความว่าง " ( สุญญตา ) ในคำสอนของปรัชญาปารมิตาสูตรมุ่งหมายที่จะช่วยเรา ให้พ้นจากมโนทัศนืของความว่าง ก่อนปฏิบัติจิตภาวนา เราเห็นภูเขาว่าเป็นภูเขา พอเริ่มปฏิบัติ เราเห็นภูเขาว่าไม่ใช่ภูเขาอีกแล้ว เมื่อปฏิบัติไปสักระยะหนึ่ง เราจะเห็น ภูเขากลับเป็นภูเขาอีก แต่ตอนนี้ภูเขาเป็นอิสระยิ่ง จิตเรายังอยู่กับภูเขาแต่ไม่ผูกพันธ์ กับสิ่งใด ภูเขาในขั้นที่สามไม่เหมือนกับภูเขาในขั้นแรก ในขั้นที่สามภูเขาเปิดเผยตัว อย่างอิสระ เราเรียกภาวะนี้ว่า " ความเป็นที่แท้จริง " ซึ่งพ้นไปจากความเป็นและไม่เป็น ภูเขายังอยู่ตรงนั้นเผยตัวอย่างพิเศษยิ่ง แต่ไม่ใช่ในฐานะเป็นมายา เมื่อพระพุทธเจ้า เห็นดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบที่พระองค์ทรงเห็นคือความอัศจรรย์ เป็นดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นอยู่แท้จริง แต่ดอกกุหลาบที่เธอกับอาตมาเห็นอาจเป็นตัวตนดอกกุหลาในความ นึกคิด คำว่าความว่างในวรรณกรรมปรัชญาปารมิตานั้นลึกซึ้งยิ่งนัก พ้นไปจากโลกมายา แห่งความเป็นและความไม่เป็น ใช่และไม่ใช่ เรียกว่า " ความว่างที่แท้ " ความว่างที่แท้ ไม่ใช่ความว่าง ความว่างที่แท้คือความเป็นที่แท้จริง
เมื่อเราอยู่ในโลกแห่งทวิลักษณ์ เราจึงติดอยู่ในเงื่อนไขปัจจัยปรุงแต่ง เมื่อเพื่ออาตมา กล่าวว่า " เพื่อนของผมเสียชีวิต " แล้วเราร้องไห้ เราเป็นทาสอยู่ในโลกของการมา และการไป โลกแห่งปัจจัยปรุงแต่งย่อมเต็มไปด้วยทัศนะผิด ๆ ด้วยการฝึกมองให้ ลึกซึ้งเข้าไปในธรรมชาติของสรรพสิ่งเท่านั้น เราจึงจะเป็นอิสระจากมโนทัศน์ของ ไป-มา มีอยู่-ไม่มีอยู่ เกิด-ตาย หนึ่งเดียว - มากมาย ข้างบน-ข้างล่าง เหล่านี้ล้วน หายไป เมื่อเราเป็นอิสระแล้ว โลกนี้ก็ยังมีอยู่ในตัวเราและรอบตัวเรา แต่ตอนนี้โลก นั้นได้กลายเป็นโลกของความว่างที่แท้ไปแล้ว หลักการณ์เกี่ยวกับรูปลักษณะเปรียบได้ กับยอดของต้นไม้ ส่วนโลกของความเป็นที่แท้จริงคือราก หลักการณ์เกี่ยวกับรูปลักษณะ เป็นมูลฐานของมโนทัศน์เกี่ยวกับตัวตน ดังนั้นเราจึงต้องฝ่าทั้งตาข่ายธรรมและตาข่าย อธรรม ไปให้พ้นจากความสำคัญมั่นหมายและความไม่สำคัญมั่นหมาย
" ฉะนั้นบุคคลจึงไม่พึงยึดถือผูกพันอยู่กับธรรมหรือคิดว่าหรือคิดว่าธรรม
เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ นี่คือนัยยะความหมายเมื่อตถาคตกล่าวว่า ' ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายพึงกำหนดรู้ ว่า ธรรมที่เราตรัสแสดงมีอุปมาดังพ่วงแพ '
แม้สิ่งที่ตถาคตสอนก็ต้องละเสีย จักกล่าวไปใยถึงสิ่งที่ไม่ได้กล่าวเทศนา "
ประโยคแรกหมายความว่า เราไม่ควรยึดถืออยู่กับความเป็นความไม่เป็น เพราะทั้งเป็น และไม่เป็นล้วนเป็นมายา เมื่อเราไม่ยึดมั่นอยู่กับความคิดผิด ๆ เหล่านี้ เราก็จะลุถึงฝั่ง อันอัศจรรย์ของโลกแห่งความว่างที่แท้จริง
ตรงนี้
วัชรสูตร
ได้กล่าวย้ำสิ่งที่กล่าวไว้ใน
" อลคัททูปสูตร "
( สูตรที่เปรียบการศึกษา เหมือนงูพิษ ) พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในพระสูตรหลังนี้ว่า คำสอนของพระองคืเปรียบ เหมือนลำแพที่เราต้องสละเมื่อข้ามไปถึงฝั่งแล้ว คำว่า " นัยยะความหมาย " พบเฉพาะ พระสูตรภาษาสันสกฤต ไม่พบในฉบับภาษาจีน เมื่อพระพุทธองค์ประทานพระธรรมเทศนา เป็นไปได้ว่าผู้ฟังอาจยึดมั่นอยู่กับคำสอนทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นและไม่เหมาะที่จะทำอย่างนั้น การฟังพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเหมือนกับการจับงูพิษ ถ้าเธอไม่รู้วิธี เธออาจจับ ส่วนหางก่อน งูก็จะแว้งกัดเอาได้ ถ้าเธอรู้วิธีจับงู เธอต้องใช้ไม้ง่ามตรึงตัวมันไว้ แล้วจึง จับคอมัน อย่างนี้แล้วงูก็ไม่อาจกัดเธอได้ คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ทำนองเดียวกัน ถ้าไม่ชำนาญพอเธออาจเจ็บตัว เธอต้องระวังอย่าไปยึดติดออยู่กับคำสอน ความคิดเกี่ยว กับความว่าง ความไม่เที่ยง ความไม่มีตัวตน ล้วนเกื้อกูลให้ประโยชน์ แต่ถ้าเธอนำมาใช้ อย่างไม่เข้าใจลึกซึ้งแจ่มแจ้ง เธออาจเกิดทุกข์และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนได้ด้วย
คัดบางส่วนจาก เพชรตัดทำลายมายา
ของท่าน ติช นัท ฮัน
จาก
http://board.agalico.com/forumdisplay.php?f=169
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
คำค้น:
เพชรตัดทำลายมายา
วิภาษวิธี
ปรัชญาปารมิตา
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
เพชรตัดทำลายมายา : ดอกกุหลาบมิใช่ ดอกกุหลาบ วิภาษวิธีแห่งปรัชญาปารมิตา
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก
0
2119
21 มิถุนายน 2553 20:15:09
โดย
มดเอ๊ก
ดอกกุหลาบ สีรุ้ง เคยเห็นกันหรือเปล่า
สุขใจ ตลาดสด
หมีงงในพงหญ้า
0
4889
06 สิงหาคม 2553 21:47:12
โดย
หมีงงในพงหญ้า
เพชรตัดทำลายมายา : วัชรสูตร
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน
0
1917
24 กันยายน 2553 19:19:28
โดย
เงาฝัน
กำลังโหลด...