[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 02:50:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ศีล - วาจา และกำลังใจ  (อ่าน 5012 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 กันยายน 2553 19:56:52 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/08.%20TracK%208.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/08.%20TracK%208.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/08.%20TracK%208.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>



ขอน้อบน้อมแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุก ๆ ท่าน


ถาม..................ได้ยินคำกล่าวว่า............................

ผู้มีศีล --->ทราบได้โดยการคลุกคลี

ผู้มีกำลังใจ --->ทราบได้ขณะที่มีอันตราย

ผู้มีปัญญา --->ทราบได้โดยการสนทนา

แต่ผู้ที่มีวาจาดี--->ทราบได้อย่างไร ?

และคำกล่าวนี้มีอยู่ในพระสูตรหรืออรรถกถาใดหรือไม่.........?


ตอบ.........................ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน

ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ

กำลังใจพึงรู้ได้ในอันตราย

ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนา


{๑๙๒}ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฐานะ ๔ ประการนี้ พึงรู้ด้วย

ฐานะ ๔ ฐานะ ๔ เป็นไฉน ?

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกันและศีลนั้น

พึงรู้ได้ด้วยกาลนาน ไม่ใช่เล็กน้อย{มนสิการ}อยู่จึงจะรู้ไม่มนสิการ

อยู่หารู้ไม่คนมีปัญญาจึงจะรู้คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่

ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำและความสะอาดนั้นพึงรู้ได้

โดยกาลนาน ไม่ใช่เล็กน้อย{มนสิการ}อยู่จึงจะรู้ไม่มนสิการหารู้ไม่

คนมีปัญญาจึงจะรู้คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่

กำลังใจพึงรู้ได้ในอันตรายและกำลังใจนั้นแลพึงรู้ได้โดย

กาลนานไม้ใช่เล็กน้อย{มนสิการ}จึงจะรู้ไม่มนสิการหารู้ไม่คนมี

ปัญญาจึงจะรู้คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่  

ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนาและปัญญานั้นแลพึงรู้ได้

โดยกาลนาน ไม่ใช่เล็กน้อย{มนสิการ}จึงจะรู้ ไม่มนสิการหารู้ไม่คน

มีปัญญาจึงจะรู้ คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็คำที่เรากล่าวว่า{ศีล}พึงรู้ได้ด้วยการ

อยู่ร่วมกันคนมีปัญญาทรามหารู้ไม่ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะ

อาศัยอะไร ? บุคคลในโลกนี้เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลย่อมรู้อย่างนี้ว่า

ท่านผู้นี้มักทำศีลให้ขาดมักทำให้ทะลุมักทำให้ด่างมักทำให้พร้อย

ตลอดกาลนานแลไม่กระทำติดต่อไปไม่ประพฤติติดต่อใน{ศีล}ทั้ง

หลายท่านผู้นี้เป็นคนทุศีลหาใช่เป็นคนมีศีลไม่ อนึ่ง......บุคคลใน

โลกนี้เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลย่อมรู้อย่างนี้ว่า ท่านผู้นี้มีปกติไม่ทำศีลให้

ขาดไม่ทำให้ทะลุไม่ทำให้ด่างไม่ทำให้พร้อยตลอดกาลนานมี

ปกติทำติดต่อไปประพฤติต่อในศีลทั้งหลายท่านผู้นี้เป็นผู้มีศีลหา

ใช่เป็นผู้ทุศีลไม่ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำที่เรากล่าวว่า ศีลพึงรู้ได้ด้วย

การอยู่ร่วมกัน..........คนปัญญาทรามหารู้ไม่ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 กันยายน 2553 08:45:10 โดย {sometime} » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 กันยายน 2553 20:08:17 »



ดูก่อนภิกษุทั้งหลายก็คำที่เรากล่าวว่าความสะอาดพึงรู้ได้

ด้วยถ้อยคำ..................คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะ

อาศัยอะไร ? บุคคลในโลกนี้ สนทนาอยู่กับบุคคลย่อมรู้อย่างนี้ว่าท่าน

ผู้นี้พูดกันตัวต่อตัวเป็นอย่างหนึ่ง พูดกันสองต่อสองเป็นอย่างหนึ่ง - พูด

กันสามคนเป็นอย่างหนึ่ง พูดกันมากคนเป็นอย่างหนึ่งท่านผู้นี้พูดคำ

หลังผิดแผกไปจากคำก่อน ท่านผู้นี้มีถ้อยคำไม่บริสุทธิ์ ท่านผู้นี้หามี

ถ้อยคำบริสุทธิ์ไม่อนึ่ง บุคคลในโลกนี้ เมื่อสนทนาอยู่กับบุคคลย่อม

รู้อย่างนี้ว่าท่านผู้นี้พูดกันตัวต่อตัวเป็นอย่างไรพูดกันสองคนสาม

คนมากคนก็อย่างนั้นท่านผู้นี้พูดคำหลังไม่ผิดแผกจากคำก่อนมี

ถ้อยคำบริสุทธิ์ ท่านผู้นี้หามีถ้อยคำไม่บริสุทธิ์ไม่ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

คำที่เรากล่าวว่า ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ..........คนมีปัญญาทราม

หารู้ไม่ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ก็คำที่เรากล่าวว่ากำลังใจพึงรู้ได้ใน

อันตรายคนมีปัญญาทรามหารู้ไม่ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะ

อาศัยอะไร ? บุคคลบางคนในโลกนี้กระทบความเสื่อมญาติกระทบ

ความเสื่อมโภคทรัพย์หรือกระทบความเสื่อมเพราะโรคย่อมไม่

พิจารณาอย่างนี้ว่าโลกสันนิวาสนี้เป็นอย่างนั้นเองการได้อัตภาพ

เป็นอย่างนั้นในโลกสันนิวาสตามที่เป็นแล้วในการได้อัตภาพตามที่

เป็นแล้วโลกธรรม ๘ คือ

ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑

ยศ ความเสื่อมยศ ๑

นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑

ทุกข์ ๑ ย่อมหมุนเวียน

ไปตามโลกและโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ดังนี้บุคคลนั้น

กระทบความเสื่อมญาติกระทมความเสื่อมโภคทรัพย์หรือกระทบ

ความเสื่อมเพราะโรคย่อมเศร้าโศกลำบากใจร่ำไรทุนบอกคร่ำ

ครวญ ถึงความหลงใหล ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้กระทบความ

เสื่อมญาติ กระทบความเสื่อมโภคทรัพย์ หรือกระทบความเสื่อมเพราะ

โรคย่อมพิจารณาอย่างนี้ว่าโลกสันนิวาสนี้เป็นอย่างนั้นเองการได้

อัตภาพเป็นอย่างนั้น ในโลกสันนิวาสตามที่เป็นแล้วในการได้อัตภาพ

ตามที่เป็นแล้ว โลกธรรม ๘ คือ.......................................

ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑

ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑ นินทา ๑

สรรเสริญ ๑ สุข ๑ ทุกข์ ๑ หมุน

เวียนไปตามโลกและโลกย่อมหมุนเวียนตามโลกธรรม ๘ ดังนี้.......................................

บุคคลนั้นกระทบความเสื่อมญาติกระทบความเสื่อมโภคทรัพย์หรือ

กระทบความเสื่อมเพราะโรคย่อมไม่เศร้าโศกไม่ลำบากใจไม่ร่ำไร

ไม่ทุบบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหล ดูก่อนภิกษุทั้งหลายคำที่

เรากล่าวว่ากำลังใจพึงรู้ได้ในอันตรายคนมีปัญญาทรามหารู้ไม่

ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 กันยายน 2553 20:48:06 โดย {sometime} » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 28 กันยายน 2553 20:18:35 »




ดูก่อนภิกษุทั้งหลายก็คำทำเรากล่าวว่าปัญญาพึงรู้ได้ด้วย

การสนทนา..........คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่ดังนี้นี้เรากล่าวแล้วเพราะ

อาศัยอะไรบุคคลบางคนในโลกนี้สนทนากับบุคคลย่อมรู้อย่างนี้

ว่า ความลึกซึ้งของท่านผู้นี้เพียงไรอภินิหารของท่านผู้นี้เพียงไร

และการถามปัญหาของท่านผู้นี้เพียงไร ท่านผู้นี้ปัญญาทราม ท่านผู้นี้

ไม่มีปัญญา ข้อนั้นเพราะเหตุไรเพราะท่านผู้นี้ไม่อ้างบทความอันลึก

ซึ้ง อันสงบ ประณีตที่สามัญชนคาดไม่ถึงละเอียดอันบัณฑิตพึง

รู้ได้อนึ่ง ท่านผู้นี้กล่าวธรรมอันใด ท่านผู้นี้ไม่สามารถจะบอกแสดง

บัญญัติ แต่งตั้งเปิดเผยจำแนกกระทำให้ตื้นซึ่งเนื้อความแห่ง

ธรรมเป็นได้โดยย่อหรือโดยพิสดารท่านผู้นี้มีปัญญาทรามท่าน

ผู้นี้ไม่มีปัญญาดูก่อนภิกษุทั้งหลายบุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่ที่ฝั่งห้วงน้ำ

พึงเห็นปลาเล็ก ๆ ผุดอยู่ เขาพึงทราบได้ว่ากิริยาผุดของปลาตัวนี้

เป็นอย่างไรทำให้เกิดคลื่นเพียงไหนและมีความเร็วเพียงไรปลา

ตัวนี้เล็กไม่ใช่ปลาตัวใหญ่ ดังนี้ ฉันใด บุคคลเมื่อสนทนากับบุคคล

ก็ฉันนั้นเหมือนกันย่อมรู้อย่างนี้ว่าความลึกซึ้งของท่านผู้นี้เพียงไร

ฯลฯ ท่านผู้นี้มีปัญญาทรามท่านผู้นี้ไม่มีปัญญาดังนี้ส่วนบุคคล

ในโลกนี้สนทนาอยู่กับบุคคลย่อมรู้อย่างนี้ว่าความลึกซึ้งของท่าน

ผู้นี้เพียงไรอภินิหารของท่านผู้นี้เพียงไรการถามปัญหาของท่าน

ผู้นี้เพียงไรท่านผู้นี้มีปัญญาท่านผู้นี้ไม่ใช่ทรามปัญญาข้อนั้น

เพราะเหตุอะไรเพราะท่านผู้นี้ย่อมอ้างบทความลึกซึ้ง สงบ ประณีต

สามัญชนคาดไม่ถึง ละเอียด อันบัณฑิตพึงรู้ได้และท่านผู้นี้ย่อม

กล่าวธรรมใด ท่านผู้นี้เป็นผู้สามารถเพื่อจะบอกเพื่อแสดงบัญญัติ

แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนกกระทำให้ตื้น ซึ่งเนื้อความแห่งธรรมนั้นทั้ง

โดยย่อหรือพิสดารได้ท่านผู้นี้เป็นผู้มีปัญญาท่านผู้นี้หาใช่เป็นผู้มี

ปัญญาทรามไม่ดังนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่ที่ฝั่ง

ห้วงน้ำ พึงเห็นปลาตัวใหญ่กำลังผุด เขาพึงรู้อย่างนี้ว่ากิริยาผุดของ

ปลาตัวนี้เป็นอย่างไรทำให้เกิดคลื่นได้เพียงไหนมีความเร็วเพียงไร

ปลาตัวนี้ใหญ่ หาใช่ปลาตัวเล็กไม่ดังนี้ ฉันใดบุคคลสนทนาอยู่

กับบุคคลก็ฉันนั้นเหมือนกันย่อมรู้อย่างนี้ว่า ความลึกซึ่งของท่านผู้นี้

เพียงไร ฯลฯ ท่านผู้นี้มีปัญญา หาใช่เป็นผู้มีปัญญาทรามไม่ดังนี้ดู

ก่อนภิกษุทั้งหลายคำที่เรากล่าวว่า ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนา...

คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่ ดังนี้ - นี้เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายฐานะ ๔ ประการนี้แลอันบุคคลพึง

รู้ได้ด้วยฐานะ ๔ นี้



..........................จบฐานสูตรที่ ๒...........................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 กันยายน 2553 20:49:15 โดย {sometime} » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 28 กันยายน 2553 20:30:58 »




.........................อรรถกถาฐานสูตร....................



พึงทราบวินิจฉัยในฐานสูตรที่ ๒ ดังต่อไปนี้............................................

บทว่า ฐานานิ  คือเหตุทั้งหลาย บทว่า ฐาเนหิ คือ ด้วย

เหตุทั้งหลาย ความสะอาดชื่อ โสเจยฺยํ บทว่า สํวสมาโน แปล

ว่า เมื่ออยู่ร่วมกัน บทว่า น สตตการี น สตตวุตฺตี สีเลสุ ความ

ว่า ท่านผู้นี้จะมีชีวิตเป็นอยู่ด้วยศีลอยู่เนืองนิตย์ทุกเวลาก็หามิได้

บทว่า สํโวหรมาโน คือ เมื่อพูด บทว่า เอเกน เอโก โวหรติ ความ

ว่า ท่านผู้นี้พูดกันตัวต่อตัว บทว่า โวกฺกมติ คือพูด บทว่า{ปุริม}

โวหารา ปจฺฉิมโวหารํ คือ ท่านผู้นี้พูดคำหลังผิดแผกไปจากคำก่อน

อธิบายว่า คำหลังกับคำก่อนและคำก่อนกับคำหลังไม่สมกันในบท

เป็นต้นว่า{ญาติพฺยสเนน} คือเ สื่อมญาติ อธิบายว่า.....เสียญาติแม้

ในบทที่สองก็นัยนี้แล ส่วนในการเกิดโรค โรคนั้นแล ชื่อว่าเสียเพราะ

ทำความไม่มีโรคให้เสียไป
    
บทว่า{อนุปริวตฺตนฺติ} คือ ติดตาม ในบทว่า{ลาโภ จ}เป็น

อาทิพึงนำนัยไปอย่างนี้ว่า ลาภย่อมหมุนไปตามอัตภาพหนึ่งความ

เสื่อมลาภย่อมหมุนไปตามอัตภาพหนึ่งบทว่า{สากจฺฉายมาโน}

ความว่า......เมื่อทำการสนทนาด้วยอำนาจการถามและการตอปัญหา

บทว่า{ยถา}แปลว่า โดยอาการใด อุโมงค์แห่งปัญญา ชื่อ

อุมมังคะ อภินิหารแห่งจิตด้วยอำนาจการแต่งปัญหา ชื่อ อภินิหาร

การถามปัญหา ชื่อ สมุทาหารบทว่า สนฺตํ ความว่าไม่กล่าวให้

สงบ เพราะข้าศึกสงบ บทว่า{ปณีตํ}ได้แก่ ถึงความล้ำเลิศ บทว่า

{อตกฺกาวจรํ} ความว่า ท่านผู้นี้ไม่กล่าวโดยประการที่อาจถือเอาได้ด้วย

การเดาด้วยการคาดคะเน.

บทว่า นิปุณํ แปลว่า ละเอียด บทว่า{ปณฺฑิตเวทนียํ}

แปลว่าอันพวกบัณฑิตพึงรู้ได้บทที่เหลือในที่ทุกแห่งพึงทราบ

ดยทำนองที่กล่าวแล้วนั้นแล...............................




....................จบอรรถกถาฐานสูตรที่ ๒.......................



หมายเหตุ......................บทว่า ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารํ คือ..............................

ท่านผู้นี้พูดคำหลับ หลัง ผิดแผกไปจากคำก่อน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 กันยายน 2553 20:54:28 โดย {sometime} » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 28 กันยายน 2553 20:40:59 »



.................................ข้อความโดยสรุป.........................


ฐานสูตรว่าด้วยฐานะ ๔ ที่พึงรู้ด้วยฐานะ ๔ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงฐานะ ๔ ประการที่พึงรู้ได้ด้วยฐานะ ๔ ประการ


ดังนี้คือ...........................................

๑.ศีล  พึงรู้ได้ ด้วยการอยู่ร่วมกัน{เมื่ออยู่ร่วมกันนาน ๆ ย่อมจะรู้ได้ว่าใครเป็นผู้มีศีล หรือ ไม่มีศีล}

๒.ความสะอาด พึงรู้ได้ ด้วยถ้อยคำ{บุคคลผู้ที่พูดไม่ว่าจะกับคนกี่คนก็ตามไม่เป็น

อย่างเดียวกัน เป็นอย่างอื่น ถ้อยคำของผู้นี้ย่อมไม่สะอาดไม่บริสุทธิ์ส่วนผู้ที่มีถ้อยคำ

สะอาดบริสุทธิ์ถึงแม้ว่าจะพูดกับคนกี่คนก็ตามย่อมเป็นอย่างเดียวกัน ไม่เป็นอย่างอื่น}

๓.กำลังใจ พึงรู้ได้ใน{คราวมีอันตราย}บุคคลผู้ที่ไม่มีกำลังใจที่เข้มแข็งเมื่อประสบ

กับโลกธรรมฝ่ายเสื่อมไม่ว่าจะเป็นเสื่อมลาภ เสื่อมยศเสื่อมเพราะโรคเป็นต้นย่อม

เศร้าโศกเสียใจส่วนผู้มีกำลังใจที่เข้มแข็งเมื่อประสบกับโลกธรรมฝ่ายเสื่อมเป็นผู้

พิจารณาเข้าใจความจริงของโลกธรรม ย่อมไม่เศร้าโศก ไม่เสียใจ

๔.ปัญญา พึงรู้ได้ ด้วยการสนทนา บุคคลผู้ที่มีปัญญา ย่อมสามารถรู้ถึงความลึก

ซึ้งของปัญญาของผู้ที่ตนสนทนาด้วยได้โดยพิจารณาจากการถามปัญหา การอ้างบท

ธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งสามารถอธิบายจำแนกเปิดเผย ทั้งโดยย่อและโดยละเอียดได้

ฐานะทั้ง ๔ ประการนี้ต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานไม่ใช่เวลาอันเล็กน้อย  

ต้องใส่ใจและผู้มีปัญญาเท่านั้น ถึงจะรู้ได้


มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78

ดาวคะนอง ธนบุรี



ขอน้อมอาจาริยบูชาท่าน อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทุก ๆ ท่าน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 กันยายน 2553 08:33:02 โดย {sometime} » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 28 กันยายน 2553 22:56:54 »





 ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 29 กันยายน 2553 08:40:07 »




สลึมสลือ สลึมสลือ สลึมสลือ


อรุณสวัสดิ์ พี่ แป๋ม


บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: ความดี ข้อคิด เตือนใจ สติ ธรรม วัน love บางครั้ง คำสอน dhamma กุศล อกุศล รัก 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
พุทธศาสนสุภาษิต : วาจา
พุทธศาสนสุภาษิต
หมีงงในพงหญ้า 0 2886 กระทู้ล่าสุด 16 ธันวาคม 2552 12:45:42
โดย หมีงงในพงหญ้า
ศีล 5 มีไว้เพื่ออบรมใจ ไม่ใช่อบรมกาย วาจา
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
phonsak 8 4993 กระทู้ล่าสุด 22 เมษายน 2554 21:37:53
โดย phonsak
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.304 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 13 กุมภาพันธ์ 2567 00:43:26