[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 02:21:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระบี่ ที่อ่าวพระนาง ภูผาในฝันของนักปีนเขา และสัมผัสปรากฏการณ์ "ทะเลแหวก"  (อ่าน 3574 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2557 18:51:28 »

.



ทะเลสวย น้ำใส เที่ยวประทับใจ
...ไป...

กระบี่

จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดขนาดเล็กที่มากด้วยทรัพยากรท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติทางทะเลที่สวยงามมาก และมีมรดกวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ที่ผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อทางวัฒนธรรมประเพณีที่ต่างกัน  ประชากรของจังหวัดกระบี่ นับถือศาสนาพุทธประมาณร้อยละ ๕๙ ศาสนาอิสลามประมาณร้อยละ ๔๐ ศาสนาคริสต์ประมาณร้อยละ ๐.๒๒ และศาสนาอื่นๆ ร้อยละ ๐.๔๓  โดยมีศาสนสถานที่เป็นวัดและที่พักสงฆ์ ๑๒๐ แห่ง มัสยิด ๑๘๙ แห่ง และโบสถ์คริสตจักร ๘ แห่ง

จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ทางฝั่งชายทะเลด้านตะวันตกของภาคใต้ ติดกับทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนต์ประมาณ ๙๔๕ กิโลเมตร  ลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนจำนวน ๒๕๗ ภูเขา ยาวทอดตัวไปในแนวเหนือสลับใต้ ส่วนมากจะเป็นเขาหินปูน มีโพรงถ้ำ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม บริเวณด้านตะวันตกเป็นที่ราบชายฝั่งติดกับทะเลอันดามัน ยาวประมาณ ๑๖๐ กิโลเมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ จำนวน ๑๕๔ เกาะ แต่เป็นเกาะที่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง ๑๓ เกาะ เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตา เป็นที่ตั้งของอำเภอเกาะลันตา เกาะห้อง เกาะศรีบอยา เกาะรอก และหมู่เกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับโลก

จังหวัดกระบี่ได้รับการประกาศให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญถึง ๕๒ แห่ง  ประกอบด้วย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์/โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม/หัตถกรรม แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และแหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน ในแต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนจำนวนมาก ส่งผลสำคัญทำให้ภาคบริการของจังหวัดขยายตัวอย่างรวดเร็วนำรายได้มาสู่จังหวัดในปีหนึ่งๆ เป็นจำนวนสูงมาก


คณะสามัคคีรวมหัวเที่ยวของเราเดินทางมุ่งหน้าสู่อ่าวพระนางโดยเหมาเรือสปีดโบ้ต speedboat จำนวน ๒ ลำ (ค่าเรือลำละประมาณ ๑๙,๐๐๐ บาท...ราคาแล้วแต่ขนาดของเรือ)  ออกจากหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติลำดับที่ ๔๗ ของประเทศ ..ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๐ นาที  ถึงอ่าวพระนาง..หนึ่งในสถานท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวพันกับตำนานโบราณ ที่เล่าขานสืบต่อกันมาเนิ่นนานว่า...

...ตายมดึงกับภรรยามีความปราถนาอยากได้ลูก จึงไปอ้อนวอนขอลูกกับนาค พญานาคตอบตกลงแต่มีข้อแม้ว่าหากตายมดึงได้ลูกเป็นหญิง ต้องให้แต่งงานกับลูกชายของตน  ตายมดึงตอบตกลง ต่อมาไม่นานภรรยาตายมดึงตั้งครรภ์ เมื่อครบกำหนดได้คลอดลูกออกมาเป็นหญิง  จึงตั้งชื่อบุตรว่า “นาง”  นางเจริญวัยเข้าสู่วัยสาวและเกิดความรักกับ “บุญ” ลูกชายของตาวาปราบ แม้จะไม่เต็มใจเท่าใดนัก แต่ด้วยความรักของผู้เป็นบิดามารดาที่มีต่อบุตร ในที่สุดตายมดึงและตาวาปราบจำต้องจัดงานแต่งให้กับนางและบุญ

เมื่อพญานาคได้รับข่าวก็โกรธแค้นที่ครอบครัวตายมดึงไม่รักษาสัจจะสัญญาที่ว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของตน ในวันงานแต่งงานพญานาคจึงจำแลงกายเป็นมนุษย์เข้าอาละวาดแย่งชิงตัวนาง  ฤๅษีซึ่งบำเพ็ญตบะอยู่ได้ออกมาห้ามปรามแต่ก็ไม่เป็นผล ในที่สุดฤๅษีจึงสาปทุกอย่างให้กลายเป็นหิน  เรือนหอกลายเป็น “ถ้ำพระนาง” ข้าวเหนียวกวนกลายเป็น “สุสานหอย”  ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ กลายเป็น “เกาะหม้อ”  “เกาะทัพ” และเกาะอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ส่วนพญานาคได้กลายเป็น “เขาหางนาค” ในปัจจุบัน









ถ้ำพระนาง เป็นถ้ำขนาดเล็กของภูเขาหินปูน มีหินงอกหินย้อยสวยงามสลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ
หน้าปากถ้ำเป็นที่ตั้ง ศาลพระนาง อันศักดิ์สิทธิ์ ที่ผู้คนนำดอกไม้ พวงมาลัยมากราบขอพร
หรือบนบานต่างๆ นานา แต่โดยมากมักขอให้มีบุตร และเมื่อสมความปราถนาก็นำศิวลึงค์มาถวาย


ศิวลึงค์ ที่นำมาวางแก้บน มีขนาดแตกต่างกันไป
ทั้งนี้ คงเป็นไปตามฐานะทางการเงินของผู้นำมาถวายนั่นเอง


ชายฝั่งทะเล ริมโตรกผาหน้าถ้ำพระนาง ทรายสีขาว ชายหาดยาวไกล น้ำใสสะอาด...
แต่ชายหาดทรายมีเศษเปลือกหอย และเศษปะการังมาก ต้องคอยระวังเกรงว่าจะตำฝ่าเท้า


กีฬาปีนหน้าผา
หน้าผาอ่าวพระนาง มีชื่อเสียงติดอันดับโลก
หน้าผาสูงชันของภูเขาอ่าวพระนาง เป็นที่ที่นักกีฬาแนวผจญภัยต่างใฝ่ฝันมาฝึกทักษะ
การใช้กำลัง ความคล่องตัว ความรอบคอบ ปีนป่ายให้ผ่านชะง่อนหินที่สูงชัน
ด้วยสมาธิที่มั่นคงให้ถึงที่หมายตามที่ตั้งใจไว้ เพราะหากตัดสินใจผิดพลาด
อาจเกิดการบาดเจ็บและเป็นอันตรายถึงชีวิต



"สตรี" นักปีนเขาชาวตะวันตก ค่อยๆ ปีนและติดตั้งจุดป้องกันอันตรายต่างๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ
ตามเส้นทางที่ปีน การปีนแบบนี้ ต้องใช้สมาธิ ความเชี่ยวชาญสูง






มนุษย์แมงมุม... ไต่เขาสูงชันด้วยมือเปล่าได้อย่างชำนาญ
และรวดเร็วมาก ยืนดูอยู่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง กลัวเขาตกลงมาตาย
(ชายผู้นี้ถอดเสื้อ ใส่กางเกงสีเทา..อยู่ติดกับยอดกิ่งไม้ ทางซ้ายเกือบล่างสุดของภาพ)





.
ไปดำน้ำดูปลา?...ปลาดูเรา?!!..











จากถ้ำพระนาง เรือเร็วพาคณะเราไปยังจุดหมายแห่งที่สอง
เรือทอดสมอชายหาดเกาะกลางทะเลอันดามัน ให้พวกเราได้สนุกสนาน
กับการดำน้ำดูปลาสวยงามในน้ำใสแจ๋วลึกราว ๕-๖ เมตร มองเห็นฝูงปลาเสือตัวสีดำกลมป้อม
ลายริ้วสีเหลืองสด น้ำทะเลสวยใสราวกระจกมองเห็นพื้นท้องทะเลได้อย่างชัดเจน
ไกด์ของเราสอนวิธีการใส่เครื่องดำน้ำ ตรวจสอบเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำ
จึงปล่อยให้พวกดำน้ำตามอัธยาศัย

สัมผัสปรากฏการณ์ทะเลแหวก
หนึ่งในห้าสิบสองแห่ง ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจังหวัดกระบี่

หลังจากการดำน้ำดูปลาแล้ว (มีบางคนทุรนทุรายให้ปลาดู) เรือพาคณะเรามาส่งที่เกาะๆ หนึ่ง (ขออภัยลืมชื่อเกาะ) เพื่อรับประทานอาหารกลางวันแบบบุบเฟต์ที่ได้จ้างจัดเตรียมหุงหาไว้รอท่าแล้ว มีกับข้าวสามอย่าง มีแกงเหลืองปลาทะเลตัวโตกับยอดมะพร้าวอ่อนรสชาติจัดจ้าน ผัดผักรวม และไก่ทอด กับข้าวสวยร้อนๆ และน้ำอัดลมกระป๋องแช่เย็นเฉียบ (Pepsi) เรารับประทานข้าวไปดูนักท่องเที่ยวเดินไปเดินมาบนสันดอนทรายที่เชื่อมระหว่างเกาะสองเกาะ เพราะเป็นเวลาที่น้ำลดระดับพอให้คนเดินข้ามไปมาได้

เมื่อรับประทานข้าวเรียบร้อยพวกเราจะต้องเดินในทะเลแหวกไปยังเกาะที่อยู่ตรงข้ามเพื่อขึ้นเรือ ซึ่งเรือได้ล่วงหน้าไปรอที่เกาะแห่งนั้น หลังจากได้ส่งพวกเราทิ้งไว้ที่เกาะแห่งนี้.

 
ทะเลแหวก คือสันดอนทราย ที่เกิดขึ้นทอดยาวกลางทะเล จากเกาะสามเกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทัพ ในทะเลอันดามัน ในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาที่น้ำลดระดับลง ดุจทะเลแหวกออกจนกลายเป็นช่องหาดทรายแนวยาวขาวสะอาด เชื่อมเกาะสองเกาะให้นักท่องเที่ยวได้เดินอยู่กลางทะเลไปเที่ยวชมเกาะอีกเกาะหนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์   

ทะเลแหวก สามารถเดินเที่ยวชมได้ดีที่สุดในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะวันก่อนและหลังวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ราว ๕ วัน ระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี



เกาะแห่งแรก ที่เรือแวะส่งพวกเราให้รับประทานอาหาร และรอน้ำลด (ทะเลแหวก)




สันดอนทรายปรากฏชัดเจน เดินได้อย่างสบาย
แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้แต่ต้น ทรายที่กระบี่มากด้วยเศษเปลือกหอยและเศษปะการัง
จึงต้องระมัดระวังในการเดิน


พอใกล้ถึงอีกเกาะหนึ่ง น้ำจะลึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในระดับตามภาพ
แต่ก็เดินไม่ยากมากนัก เพราะน้ำใสแจ๋ว สามารถมองเห็นกรวดและทรายใต้ผืนน้ำ









Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 เมษายน 2559 15:43:36 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 24 เมษายน 2559 16:04:02 »


ทะเลแหวก จ.กระบี่
๑๕ เมษายน ๒๕๕๙





ทะเลแหวกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้สันทรายของเกาะทั้ง ๓ คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ จังหวัดกระบี่ ปรากฏขึ้นเมื่อน้ำลด จนสามารถเดินไป-มาระหว่างเกาะได้ โดยบริเวณนี้น้ำทะเลใสมองเห็นฝูงปลาสวยงาม จึงเป็นอีกจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเพื่อชมปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน เหมือนทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะ โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ราว ๕ วัน

ทั้ง ๓ เกาะดังกล่าวรวมอยู่ในหมู่เกาะปอดะ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน มีสัณฐานติดกัน เมื่อคลื่นพัดทรายมาพบกันที่จุดนี้จึงทำให้เกิดเป็นแนวสันทรายเชื่อมเกาะทั้งสามเกาะให้ถึงกัน สันทรายจะจมหายไปเมื่อน้ำขึ้นสูง แต่เมื่อน้ำลดแนวสันทรายก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเหมือนกับว่าแบ่งทะเลให้แยกออกจากกันเป็นสามส่วน สันทรายจะโผล่ในช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำสุด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสันทรายจะไม่โผล่ก็เดินเล่นได้เพราะหาดทรายของทะเลแหวกขาวสะอาด การท่องเที่ยวทะเลแหวกนิยมท่องเที่ยวทั้งหมด คือ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะ ปอดะ และเที่ยวได้ใน ๑ วัน ต่างจากในอดีตที่นักท่องเที่ยว มักเช่าเรือมาตกปลา กางเต็นท์นอนนับดาวในคืนเดือนแรม หรือชมแสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ โดยค้างคืนบนเกาะได้ แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้ค้างแรมบนเกาะแล้ว

เกาะทับเป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ ยามน้ำลด หาดทรายทางด้านใต้จะเชื่อมต่อกับแนวสันทรายของเกาะปอดะนอก กลายเป็นสะพานธรรมชาติยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร แม้จะเป็นหาดทรายเล็กๆ แต่เม็ดทรายละเอียดและขาวมาก น้ำทะเลใส ขณะที่เกาะหม้อเป็นโขดหิน ไม่มีชายหาดให้ขึ้นไปบนเกาะ น้ำทะเลใสสะอาด อยู่ห่างจากเกาะทับเพียง ๗๐ เมตร หากน้ำลดจะมีสันทรายเชื่อมต่อกัน เดินจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้

ส่วนเกาะปอดะนอก หรือเกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ทำให้ผู้พบเห็น เกิดจินตนาการต่างๆ กันไป บ้างก็เห็นคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ ฝรั่งนักท่องเที่ยวมองเห็นเป็นป๊อปอาย ตัวการ์ตูนดัง หรือบางทีคนเห็นเป็นคนนอนคาบไปป์ ผู้ชมชอบการดำน้ำ ดำผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้นหรือปะการังแข็งได้ที่เกาะไก่นี้ แต่ความสมบูรณ์ของปะการังไม่อาจเทียบเท่ากับท้องทะเลที่ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ แต่ก็มีหาดทรายขาวทอดยาว น้ำทะเลสวยใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ให้ชม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้รายละเอียดถึงการเดินทางไปยังทะเลแหวกซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ห่างจากศาลากลางจังหวัดกระบี่ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ว่า ฤดูกาลท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี เดินทางโดยจากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๔ แล้วเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข ๔๒๐๒ ไปอ่าวพระนาง หรืออ่าวนาง เช่าเรือได้ที่นี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒๕ นาที

ทั้งนี้ วิกิพีเดียอรรถาธิบายว่า สันดอนเชื่อมเกาะ (อังกฤษ : Tombolo) เป็นคำบัญญัติของราชบัณฑิตยสถาน หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ทะเลแหวก เป็นลักษณะทางธรณีสัณฐานวิทยาชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นสันทรายเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะ โดยจะปรากฏขึ้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลง และจะชัดเจนมากในช่วงก่อนและหลังวันขึ้น ๑๕ ค่ำประมาณ ๕ วัน
...ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ภาพถ่ายทางอากาศ ทะเลแหวก
ภาพจาก: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




ป้ายคำเตือน อันตราย! น้ำขึ้น ห้ามเดินข้าม
เมื่อสองปีที่ผ่านมา ผู้โพสท์ได้มีโอกาสลุยข้ามน้ำระหว่างเกาะ ๓ เกาะได้
แต่บ่ายของวันนี้ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๙ เดินข้ามได้เพียง ๒ เกาะเท่านั้น



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 เมษายน 2559 16:05:46 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.392 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 26 เมษายน 2567 08:19:42