เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« เมื่อ: 18 ตุลาคม 2553 20:39:52 » |
|
มิลินทปัญหามิลินทปัญหา วรรคที่ ๑
ปัญหาที่ ๑ ถามชื่อ ครั้งนั้น พระเจ้ามิลินท์ได้เสร็จไปหาพระนาคเสนแล้ว ทรงปราศรัยพอให้เกิดความร่าเริงยินดีแล้วก็ประทับนั่ง ฝ่ายพระนาคเสนก็แสดงความชื่นชมยินดี ทำให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้ามิลินท์ ลำดับนั้น พระองค์จึงตรัสถามปัญหาข้อแรกต่อพระนาคเสนขึ้นว่า
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โยมประสงค์จะสนทนาด้วย " พระนาคเสนถวายพระพรตอบว่า " เชิญสนทนาเถิด มหาบพิตร อาตมภาพใคร่จะฟัง " " โยมสนทนาแล้ว ขอผู้เป็นเจ้าจงฟังเถิด " " อาตมภาพฟังอยู่แล้ว มหาบพิตรเชิญเจรจาเถิด "
" พระผู้เป็นเจ้าได้ฟังว่าอย่างไร ? " " ก็มหาบพิตรเจรจาว่าอย่างไร ? " " โยมจะถามพระผู้เป็นเจ้า " " จงถามเถิด มหาบพิตร " " โยมถามแล้ว " " อาตมภาพก็แก้แล้ว "
" พระผู้เป็นเจ้าแก้ว่าอย่างไร ? " " ก็มหาบพิตรถามว่าอย่างไร ? "
เมื่อพระเถระตอบอย่างนี้แล้ว พวกโยนกเสนาทั้ง ๕๐๐ ก็เปล่งเสียง สาธุการ ถวายพระนาคเสน แล้วกราบทูลพระเจ้ามิลินท์ว่า " ข้าแต่มหาราชเจ้า คราวนี้ขอพระองค์จงตรัสถามปัญหาต่อไปเถิดพระเจ้าข้า "  : http://agaligohome.fx.gs/index.php?topic=205.0
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กรกฎาคม 2555 19:24:04 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: จัดหน้าค่ะ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #101 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553 13:05:56 » |
|
มิลินทปัญหา วรรคที่ ๕
ปัญหาที่ ๑ ถามเรื่องความมีและความไม่มีแห่งพระพุทธเจ้า พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า " ข้าแต่พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นพระพุทธเจ้าหรือ ? " พระเถระตอบว่า " ไม่ได้เห็น ขอถวายพระพร " " ถ้าอย่างนั้น อาจารย์ของพระผู้เป็นเจ้าได้เห็นหรือ ? " " ขอถวายพระพร อาจารย์ก็ไม่ได้เห็น " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าก็ไม่มี " " ขอถวายพระพร มหาบพิตรได้เห็นโอหานที คือสะดือทะเลหรือไม่ ? " " ไม่ได้เห็น พระผู้เป็นเจ้า " " ถ้าอย่างนั้น พระราชบิดาของพระองค์ได้เห็นหรือไม่ ? " " ไม่ได้เห็น พระผู้เป็นเจ้า " " ถ้าอย่างนั้นสะดือทะเลก็ไม่มี " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถึงโยมและพระราชบิดาของโยม ไม่ได้เห็นสะดือทะเล ก็จริงแหล่ แต่ทว่าสะดือทะเลมีอยู่เป็นแน่ " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ถึงอาตมาและอาจารย์ของอาตมา ไม่ได้เห็น พระพุทธเจ้าก็จริง แต่พระพุทธเจ้ามีอยู่แน่ ขอถวายพระพร " " พระผู้เป็นเจ้าแก้ถูกต้องดีแล้ว "
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พฤศจิกายน 2553 18:51:32 โดย เงาฝัน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 United Kingdom
กระทู้: 7886
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 Chrome 2.0.157.2
|
 |
« ตอบ #103 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553 17:31:41 » |
|
ขอบคุณครับ อ.ป้าแป๋ม / อ.ขม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
B l a c k B e a r : T h e D i a r y
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #104 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 20:53:17 » |
|
ปัญหาที่ ๒ ถามเรื่องความยิ่งใหญ่แห่งพระพุทธเจ้า " ข้าแต่พระนาคเสน พระพุทธเจ้าไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่าหรือ ? " " ขอถวายพระพร จริง " " พระผู้เป็นเจ้ารู้ได้อย่างไรว่า พระพุทธเจ้าไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เพราะพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เห็น ?" " ขอถวายพระพร มหาบพิตรจะเข้าพระทัยความข้อนี้อย่างไร...คือพวกที่ไม่ได้เห็นมหาสมุทร รู้หรือไม่ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่ มีน้ำลึกประมาณไม่ได้ หยั่งถึงพื้นได้ยาก เป็นที่ไหลไปรวมอยู่แห่งแม่น้ำใหญ่ทั้ง ๕ คือ คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหิ ความพร่องหรือความเต็มแห่งมหาสมุทรนั้นไม่ปรากฏ แม่น้ำใหญ่ทั้ง ๕ ก็ไหลไปสู่มหาสมุทรเนือง ๆ ? " " รู้ พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คืออาตมภาพได้เห็นพระสาวกทั้งหลายผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้สำเร็จนิพพานมีอยู่ จึงรู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้เยี่ยมไม่มีใครเทียมถึง " " พระผู้เป็นเจ้าแก้ถูกต้องดีแล้ว "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #105 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 20:55:48 » |
|
ปัญหาที่ ๓ ถามเรื่องการรู้ความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า " ข้าแต่พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าอาจรู้หรือไม่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้เยี่ยมไม่มีใครยิ่งกว่า ? " " อาจรู้ ขอถวายพระพร " " อาจรู้ได้อย่างไร ? " " ขอถวายพระพร เมื่อก่อนมีอาจารย์เลของค์หนึ่ง ชื่อว่า พระติสสเถระ มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่หลายปี แต่ถึงมรณภาพไปแล้วอาจารย์เลของค์นั้น ทำไมชื่อจึงยังปรากฏอยู่ ? " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อาจารย์เลของค์นั้นยังปรากฏอยู่ เป็นด้วยเลขที่ท่านบอกไว้ " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นก็ได้เห็นพระพุทธเจ้าเพราะธรรมเป็นของที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ " " สมควรแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #106 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:00:08 » |
|
ปัญหาที่ ๔ ถามเรื่องการเห็นธรรม " ข้าแต่พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธรรมะแล้วหรือ ? " " ขอถวายพระพร ธรรมะอันพระพุทธเจ้าทรงแนะนำสั่งสอนสาวก อันพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้แล้ว พระสาวกควรปฏิบัติตามจนตลอดชีวิต " " แก้ถูกต้องดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #107 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:03:34 » |
|
ปัญหาที่ ๕ ถามถึงความไม่ก้าวย่างไปแห่งผู้จะเกิด " ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประเสริฐ ผู้ที่จะไปเกิดใหม่นั้น ไม่ได้ก้าวย่างไปด้วย แต่ถือกำเนิดได้ด้วยอย่างนั้นหรือ ? " " อย่างนั้น มหาบพิตร" " ถ้าอย่างนั้นขอนิมนต์อุปมา " " ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนว่าบุรุษผู้หนึ่งเอาประทีปมาต่อประทีป ประทีปจะก้าวไปจากประทีปเก่าหรือไม่ ? " " ไม่ก้าวไป พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร " " ขอนิมนต์อุปมาอีก " " ขอถวายพระพร มหาบพิตรคงจำได้ว่าในเวลาที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ มีพระชันษาได้ ๑๐ ได้รับวิชาเลขและวิชกการต่าง ๆ ในสำนักอาจารย์หรือ ? " " ได้รับ พระผู้เป็นเจ้า " " ขอถวายพระพร วิชาเลขและศิลปะต่าง ๆ นั้น ก้าวย่างไปจากอาจารย์หรือไม่ ? " " ไม่ พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ผู้ที่จะไปเกิดใหม่นั้น ไม่ได้ก้าวย่างไปเลย แต่ถือกำเนิดได้ " " ถูกต้องดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #108 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:06:26 » |
|
ปัญหาที่ ๖ ถามถึงผู้สำเร็จเวทย์ " ข้าแต่พระนาคเสน บุคคลผู้ถึงเวทย์มีอยู่หรือไม่ ? " " ขอถวายพระพร เมื่อว่าตามปรมัตถ์แล้ว...ไม่มี " " ถูกแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #109 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:09:31 » |
|
ปัญหาที่ ๗ ถามถึงการก้าวไปแห่งสภาพ " ข้าแต่พระนาคเสน สภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง ก้าวไปจากกายนี้สู่กายอื่นมีอยู่หรือ ? " " ขอถวายพระพร ไม่มีเลย " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าสภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง ก้าวจากกายนี้ไปสู่กายอื่นไม่มีบุคคลก็จะพ้นจากบาปกรรมทั้งหลายมิใช่หรือ " " ขอถวายพระพร ถ้าเขาไม่เกิดอีก ก็จะพ้นจากบาปกรรมทั้งหลาย แต่เพราะเขายังเกิดอยู่ เขาจึงไม่พ้นจากบาปกรรมทั้งหลาย " " ขอนิมนต์อุปมาด้วย " " ขอถวายพระพร เปรียบเช่นเดียวกับบุรุษคนหนึ่ง ขโมยมะม่วงที่ผู้อื่นปลูกไว้ เขาควรจักต้องได้รับโทษหรือไม่ ? " " ควรได้รับโทษ พระผู้เป็นเจ้า " " ขอถวายพระพร มะม่วงที่บุรุษนั้นขโมยไป ไม่ใช่มะม่วงลูกที่บุรุษนั้นปลูกไว้เหตุใดผู้ขโมยจึงควรได้รับโทษ " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มะม่วงเหล่านั้นอาศัยมะม่วงลูกที่บุรุษนั้นปลูกไว้ จึงเกิดเป็นลำดับขึ้น เพราะฉะนั้น ผู้ขโมยจึงควรได้รับโทษ " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือบุคคลย่อมทำกรรมดีหรือชั่วไว้ด้วย นามรูปนี้ แล้ว นามรูปอื่น ก็เกิดขึ้นด้วยกรรมนั้น เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่พ้นจากบาปกรรม " " แก้ดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #110 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:11:45 » |
|
ปัญหาที่ ๘ ถามถึงที่อยู่แห่งผลกรรม
" ข้าแต่พระนาคเสน กรรมดีและกรรมชั่ว ที่บุคคลทำด้วยนามรูปนี้ไปอยู่ที่ไหน ? " " ขอถวายพระพร ติดตามผู้ทำไปเหมือนกับเงาตามตัว " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อาจชี้กรรมเหล่านั้นได้หรือไม่ว่า กรรมเหล่านั้นอยู่ที่ไหน ? " " ขอถวายพระพร ไม่อาจชี้ได้ " " ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนต้นไม้ที่ยังไม่มีผล มหาบพิตรอาจชี้ได้หรือไม่ว่าผลอยู่ที่ไหน ? " " ไม่อาจชี้ได้ พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร เมื่อการสืบต่อยังไม่ขาด ก็ไม่อาจชี้กรรมเหล่านั้นได้ว่ากรรมเหล่านั้นอยู่ที่ไหน " พระเจ้ามิลินท์จึงตรัสว่า " ถูกดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #111 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:13:22 » |
|
ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความรู้สึกของผู้จะเกิดอีก " ข้าแต่พระนาคเสน ผู้ใดจะเกิด ผู้นั้นรู้หรือว่า เราจะเกิด ? " " ขอถวายพระพรรู้ " " ขอนิมนต์อุปมาด้วย " " ขอถวายพระพร เหมือนอย่างชาวนาหว่านพืชลงที่แผ่นดินแล้ว เมื่อฝนตกดีเขารู้หรือว่า พืชจักงอกงามขึ้น ? " " รู้พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ใดจะเกิด ผู้นั้นก็รู้ว่า เราจักเกิด " " ชอบแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #112 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:17:16 » |
|
ปัญหาที่ ๑๐ ถามเรื่องที่อยู่ของพระพุทธเจ้าที่ปรินิพพาน " ข้าแต่พระนาคเสน พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ ? " " ขอถวายพระพร มีจริง " " พระผู้เป็นเจ้าอาจชี้ได้หรือไม่ว่า พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน ? " " ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าปรินิพพานด้วยการดับขันธ์แล้ว ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน " " ขอนิมนต์อุปมาด้วย " " ขอถวายพระพร เปลวไฟที่ดับไปแล้วมหาบพิตรอาจชี้ได้หรือไม่ว่า เปลวไฟนั้นไปอยู่ที่ไหน ? " " ไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า เพราะเปลวไฟนั้นถึงซึ่งความไม่มีบัญญัติแล้ว " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็ไม่มีใครอาจชี้ได้ว่าไปอยู่ที่ไหน อาจชี้ได้เพียง พระธรรมกาย ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น " " พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควรแล้ว "
จบวรรคที่ ๕
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #113 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:21:25 » |
|
มิลินทปัญหา วรรคที่ ๖ ปัญหาที่ ๑ ถามถึงความรักร่างกายแห่งบรรพชิต พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า " ข้าแต่พระนาคเสน ร่างกายเป็นที่รักของบรรพชิตทั้งหลายหรือ? " พระเถระตอบว่า " ขอถวายพระพร ร่างกายไม่ได้เป็นที่รักของบรรพชิตทั้งหลาย" " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าอย่างนั้น ทำไมบรรพชิตจึงยังอาบน้ำชำระกาย ถือว่ากายของเราอยู่ ? " " ขอถวายพระพร ผู้เข้าสู่สงครามเคยถูกบาดเจ็บบ้างหรือไม่? " " อ๋อ...เคยซิ พระผู้เป็นเจ้า " " ขอถวายพระพร แผลที่ถูกอาวุธนั้น ฉาบทาด้วยเครื่องฉาบทา ทาด้วยน้ำมัน พันด้วยผ้าเนื้อละเอียดแลหรือ ? " " ถูกแล้วพระผู้เป็นเจ้า ต้องทำอย่างนั้น " " ขอถวายพระพร บาดแผลนั้นเป็นที่รักของผู้นั้นหรือ? " " ไม่ได้เป็นที่รักของผู้นั้นเลย แต่ว่าเขาทำอย่างนั้น เพื่อให้เนื้อตรงนั้นงอกขึ้นเป็นปกติ " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ร่างกายไม่ได้เป็นที่รักของบรรพชิตทั้งหลาย แต่บรรพชิตทั้งหลายรักษาร่างกายนี้ไว้ เพื่ออนุเคราะห์พรหมจรรย์ อันว่าร่างกายนี้เปรียบเหมือนกับแผล บรรพชิตรักษาร่างกายนี้ไว้เหมือนกับบุคคลรักษาแผล" ข้อนี้สมกับที่สมเด็จพระทศพลตรัสไว้ว่า " กายนี้มีทวาร ๙ เป็นแผลใหญ่ อันหนังสดปกปิดไว้ คายของโสโครกออกโดยรอบ ไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น " " ถูกดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #114 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:24:30 » |
|
ปัญหาที่ ๒ ถามถึงเหตุที่ไม่ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ล่วงหน้า " ข้าแต่พระนาคเสน พระพุทธเจ้าเป็นพระสัพพัญญู คือทรงรู้ทุกสิ่ง เป็นสัพพทัสสาวีคือทรงเห็นทุกอย่างจริงหรือ ? " " ขอถวายพระพร จริง " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าจริง...เหตุไฉนจึงทรงบัญญัติสิกขาบทไปตามลำดับเหตุการณ์แก่สาวกทั้งหลาย ทำไมจึงไม่ทรงบัญญัติไว้ก่อน ? " " ขอถวายพระพร แพทย์ที่รู้จักยาทั้งหมดในแผ่นดินนี้มีอยู่หรือ? " " มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า " " ขอถวายพระพร ก็แพทย์นั้นให้คนไข้กินยาแต่เมื่อยังไม่เป็นไข้ หรือเมื่อเป็นไข้แล้วจึงให้กินยา ? " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เมื่อเป็นไข้แล้วจึงให้กินยา เมื่อยังไม่เป็นไข้ก็ยังไม่ให้กินยา " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ คือพระพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ทุกสิ่งเห็นทุกอย่างจริง แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ยังไม่บัญญัติสิกขาบท ต่อเมื่อถึงเวลาจึงบัญญัติสิกขาบทสิกขาบทที่ทรงบัญญัตินั้นพระสาวกไม่ควรล่วงละเมิดจนตลอดชีวิต" " ถูกแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #115 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:29:15 » |
|
ปัญหาที่ ๓ ถามถึงลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ของพระพุทธมารดาบิดา
" ข้าแต่พระนาคเสน พระพุทธเจ้าประกอบด้วยมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ และประดับด้วยอนุพยัญชนะ ๘๐ มีสีพระกายดังทองคำ มีพระรัศมีสว่างรอบพระองค์ด้านละ ๑ วาเป็นนิจจริงหรือ? " " ขอถวายพระพร จริง " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระมาดารบิดาประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการกับประดับด้วยอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ มีสีพระกายดังทองคำมีพระรัศมีข้างละ๑ วาหรือไม่ ? " " ขอถวายพระพร พระมารดาบิดาไม่เป็นอย่างนั้น " " ข้าแต่พระนาคเสน เมื่อพระมาดารบิดาไม่เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าเจ้าจะเป็นอย่างนั้นได้หรือ เพราะธรรมดาบุตรย่อมคล้ายกับมารดาหรือคล้ายกับข้างบิดา? " " ขอถวายพระพร ดอกปทุม หรือดอกอุบล ดอกโกมุท ดอกปุณฑริก มีอยู่หรือ ? " " มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า เพราะดอกบัวเหล่านั้นเกิดอยู่ในน้ำ เกิดอยู่ในดิน แช่อยู่ในน้ำ " " ขอถวายพระพร ดอกบัวเหล่านั้นมีสี กลิ่น รส เหมือนดินกับน้ำหรือไม่? " " ไม่ พระผู้เป็นเจ้า " " ถ้าอย่างนั้น ดอกบัวเหล่านั้น มีสี กลิ่น รส เหมือนกับโคลนกับตมหรือไม่ ? " " ไม่ พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร " " พระผู้เป็นเจ้าเข้าใจแก้ เป็นอันแก้ถูกต้องดีแล้ว"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #116 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:34:25 » |
|
ปัญหาที่ ๔ ถามถึงความเป็นพรหมจารีของพระพุทธเจ้า " ข้าแต่พระนาคเสน พระพุทธเจ้าเป็นพรหมจารี คือเป็นผู้ประพฤติเหมือนกับพรหมจริงหรือไม่? " " ขอถวายพระพร จริง " " ถ้าอย่างนั้น พระพุทธเจ้าก็เป็นศิษย์ของพรหมน่ะซิ" " ขอถวายพระพร ช้างทรงของมหาบพิตรมีอยู่หรือ ? " " มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า " " ช้างทรงของมหาบพิตรนั้น มีเสียงร้องเหมือนเสียงนกกระเรียนในบางคราวหรือไม่? " " อ๋อ...บางคราวก็มีเสียงร้องเหมือนเสียงนกกระเรียน พระผู้เป็นเจ้า " " ถ้าอย่างนั้น ช้างของมหาบพิตรก็เป็นศิษย์ของนกกระเรียนน่ะซี" " ไม่ใช่ พระผู้เป็นเจ้า " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร พระพุทธเจ้าประพฤติเหมือนพรหมจริง แต่ไม่ได้เป็นศิษย์ของพรหม" " ขอถวายพระพร พรหมนั้นได้ตรัสรู้ด้วยตนเองหรือไม่" " ไม่ พระผู้เป็นเจ้า " " ถ้าอย่างนั้น พรหมก็ต้องเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้า"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #117 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:38:01 » |
|
ปัญหาที่ ๕ ถามถึงการอุปสมบท ไม่อุปสมบท " ข้าแต่พระนาคเสน การอุปสมบทดีหรือ...หรือว่าไม่อุปสมบทดี? " " ขอถวายพระพร อุปสมบทดี " " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อุปสมบทของพระพุทธเจ้ามีอยู่หรือ? " " ถวายพระพร พระพุทธเจ้าเป็นผู้ได้อุปสมบทแล้ว " เมื่อพระนาคเสนกล่าวอย่างนี้แล้ว พระเจ้ามิลินท์จึงตรัสประกาศขึ้นว่า " ขอพวกโยนกทั้ง ๕๐๐ จงฟังถ้อยคำของเรา คือพระนาคเสนกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้อุปสมบทแล้ว เป็นอุปสันบัน คือเป็นผู้ที่บวชแล้ว ถ้าพระสมณโคดมเป็นอุปสัมบัน ใครเป็นอุปัชฌาย์ ใครเป็นอาจารย์ มีสงฆ์มานั่งหัตถบาสเท่าใด ? " " ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าไม่มีอุปัชฌาย์ ไม่มีอาจารย์ ได้อุปสมบทเอง ตรัสรู้เอง ที่ภายใต้ไม้ศรีมหาโพธิ พระองค์ได้เป็นผู้อุปสัมบันพร้อมด้วยพระสัพพัญญุตญาณ" " ข้าแต่พระนาคเสน ถ้าอุปัชฌาย์อาจารย์ของพระสมณโคดมไม่มี โยมก็เข้าใจว่า พระสมณโคดมเป็นอนุปสัมบัน คือผู้ที่ยังไม่ได้บวชเพราะเหตุไร...พระพุทธเจ้าจึงไม่มีอุปัชฌาย์ ไม่มีอาจารย์ ? " เมื่อพระเจ้ามิลินท์ตรัสถามขึ้นอย่างนี้พระนาคเสนองค์อรหันต์ ผู้สำเร็จปฏิสัมภิทาจึงย้อมถามไปว่า " มหาบพิตร ทรงเสวยแล้วหรือ ? " " โยมกินแล้ว พระผู้เป็นเจ้า " " ใครเป็นครูเป็นอาจารย์บอกให้เสวยล่ะ " " ไม่มี พระผู้เป็นเจ้า " " ถ้าอย่างนั้น มหาบพิตรก็เสวยไม่ได้ ? " " ได้...ไม่ใช่โยมกินไม่ได้ ถึงไม่มีครูบาอาจารย์สั่งสอน โยมก็กินได้ ด้วยเคยกินมาในวัฏสงสารนับไม่ถ้วน " " ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นขอให้มหาบพิตรเข้าพระทัยเถิดว่า พระพุทธเจ้าได้อุปสมบทแล้วที่ภายใต้ไม้ศรีมหาโพธิ เพราะพระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเต็มเปี่ยมแล้ว" พระองค์อุปสมบทเอง ไม่มีอุปัชฌาย์อาจารย์ ได้อุปสมบทพร้อมกับได้พระสัพพัญญุตญาณ เหมือนกับมหาบพิตรผู้เสวยโดยไม่ต้องมีอาจารย์ เพราะเคยเสวยมาในวัฏสงสารอันไม่ปรากฏเบื้องต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #118 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:42:04 » |
|
อัศจรรย์วันอุปสมบท ในเวลาที่พระพุทธองค์ได้เป็นอุปสัมบันที่ภายใต้ไม้ศรีมหาโพธิ ด้วยอำนาจพระบารมีนั้น อัศจรรย์ต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้นในโลก คือ คนตาบอดแต่กำเนิดก็กลับเป็นคนตาดี ๑ คนหูหนวกก็ได้ยินเสียง ๑ คนง่อยเปลี้ยก็เดินได้ ๑ คนใบ้ก็พูดได้ ๑ คนหลังค่อมก็ยืดตรงเป็นปกติได้ ๑ คนกำลังหิวข้าวก็ได้กินข้าว ๑ คนกระหายน้ำก็ได้ดื่มน้ำ ๑ ผู้ที่อาฆาตต่อกันก็นึกเมตตากัน ๑ ทุกข์ในแดนเปรตก็หายไป ๑ ยาพิษก็กลับเป็นเหมือนยาทิพย์ ๑ หญิงมีครรภ์แก่ก็คลอดได้สบาย ๑ สำเภาที่ไปต่างไปต่างประเทศก็กลับมาถึงท่าของตน ๑ กลิ่นเหม็นก็กลายเป็นกลิ่นหอม ๑ ไฟในอเวจีมหานรกก็ดับ ๑ น้ำเค็มในมหาสมุทรก็กลายเป็นน้ำหวาน ๑ ภูเขาทั้งหลายก็เปล่งเสียงสะท้าน ๑ น้ำในมหานทีทั้งหลายก็หยุดไหล ๑ ผลจันทน์ทิพย์ดอกมณฑาทิพย์ก็ตกลงมาจากสวรรค์ ๑ เทพยดานางฟ้าทั้งหลาย ก็โปรยดอกไม้ทิพย์ลงมา ๑ พรหมทั้งหลายก็ตบมือสาธุการ ๑ ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าผู้มีสีพระกายดังทองคำ ก็ได้อุปสมบทเองที่ภายใต้ไม้ศรีมหาโพธิ อันเป็นเหมือนปราสาทแก้วจึงได้มีสิ่งอัศจรรย์ปรากฏขึ้นอย่างนี้ ด้วยอานุภาพแห่งการอุปสมบทของพระพุทธเจ้านั้น ได้บันดาลให้พระยาเขาสิเนรุราชหมุนครวญคราง เหมือนกับกงรถกงเกวียนฉะนั้น พวกเทวดาในอากาศพร้อมกับบริวารก็มีใจเบิกบานยินดี ได้โปรยดอกไม้ทิพย์ลงมาบูชา จันทรเทพบุตรก็หยุดก็หยุดมณฑลรถไว้ที่อากาศ โปรยดอกไม้แก้วลงมาบูชาไม่ขาดสายเหมือนกับนมสดที่ไหลหลั่งลงมาจากอากาศฉะนั้น การอุปสมบทของพระตถาคตเจ้าย่อมปรากฏอย่างนี้ " ขอพระผู้เป็นเจ้าจงอุปมาด้วย "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #119 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:44:54 » |
|
อุปมาช้างพระที่นั่ง " ขอถวายพระพร เมื่อมหาบพิตรขึ้นประทับนั่งบนคอช้างพระที่นั่ง มีผู้ใดผู้หนึ่งนั่งบนคอของพระองค์บ้างหรือไม่ ? " " ไม่มี พระผู้เป็นเจ้า หากใครขึ้นนั่งบนคอของโยม ผู้นั้นจะต้องหัวขาด " " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ไม่มีผู้อื่นจัดการอุปสมบทให้พระพุทธเจ้า ถ้าผู้ใดจัดการอุปสมบทให้พระพุทธเจ้า ศีรษะของผู้นั้นต้องหลุดไปจากคอทันที เมื่อกี้นี้มหาบพิตรถามอาตมาภาพว่า พระพุทธเจ้าอุปสมบทด้วยสงฆ์นั่งหัตถบาสเท่าไรอย่างนั้นหรือ? " " อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า " " ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าไม่ได้อุปสมบทด้วยสงฆ์ มีแต่ มรรค กับ ผล เท่านั้นที่เป็นสงฆ์ " ข้อนี้สมกับที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า " พระอริยบุคคล ๔ เหล่า คือ ผู้ตั้งอยู่ในมรรค ๔ ผล ๔ ผู้มั่นอยู่ในปัญญาและศีลเป็นสงฆ์ผู้ตรงแท้ แต่บุคคลบางเหล่าต้องอุปสมบทด้วยสงฆ์ " " น่าอัศจรรย์ พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าได้แก้ปัญหาอันละเอียดยิ่ง อันไม่มีส่วนเปรียบได้แล้ว ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อุปสมบทเป็นของดีหรือ ? " " ขอถวายพระพร อุปสมบทเป็นของดี " " ข้าแต่พระนาคเสน การอุปสมบทของพระพุทธเจ้ามีอยู่หรือไม่มี? " " ขอถวายพระพร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อุปสมบทด้วยความเป็นพระสัพพัญญูที่ภายใต้ไม้ศรีมหาโพธิแล้วไม่มีผู้ให้อุปสมบทแก่พระพุทธเจ้า เหมือนกับพระพุทธเจ้าทรงให้อุปสมบทแก่สาวกเลย " " แก้ถูกต้องดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
 Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
 Windows XP
เวบเบราเซอร์:
 MS Internet Explorer 8.0
|
 |
« ตอบ #120 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:47:11 » |
|
ปัญหาที่ ๖ ถามถึงความต่างกันแห่งน้ำตา " ข้าแต่พระนาคเสน บุรุษคนหนึ่งร้องไห้เพราะบิดามารดาตาย อีกคนหนึ่งน้ำตาไหลเพราะความชอบใจธรรมะ น้ำตาของคนทั้งสองนั้น น้ำตาของใครเป็นเภสัช น้ำตาของใครไม่เป็นเภสัช ? " " ขอถวายพระพร น้ำตาของคนที่ร้องไห้ด้วยราคะ โทสะ โมหะ เป็นน้ำตาร้อน ส่วนน้ำตาของผู้ฟังธรรมนั้น มีน้ำตาไหลด้วยปีติยินดีเป็นน้ำตาเย็น เป็นอันว่า น้ำตาเย็นเป็นเภสัช น้ำตาร้อนไม่เป็นเภสัช" " ถูกดีแล้ง พระนาคเสน "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กำลังโหลด...