[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 มิถุนายน 2568 17:52:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า:  1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 20   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มิลินทปัญหา  (อ่าน 154842 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 ตุลาคม 2553 20:39:52 »





มิลินทปัญหา
มิลินทปัญหา วรรคที่ ๑

ปัญหาที่ ๑ ถามชื่อ
ครั้งนั้น พระเจ้ามิลินท์ได้เสร็จไปหาพระนาคเสนแล้ว
ทรงปราศรัยพอให้เกิดความร่าเริงยินดีแล้วก็ประทับนั่ง
ฝ่ายพระนาคเสนก็แสดงความชื่นชมยินดี
ทำให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้ามิลินท์
ลำดับนั้น พระองค์จึงตรัสถามปัญหาข้อแรกต่อพระนาคเสนขึ้นว่า

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โยมประสงค์จะสนทนาด้วย "
พระนาคเสนถวายพระพรตอบว่า
" เชิญสนทนาเถิด มหาบพิตร อาตมภาพใคร่จะฟัง "
" โยมสนทนาแล้ว ขอผู้เป็นเจ้าจงฟังเถิด "
" อาตมภาพฟังอยู่แล้ว มหาบพิตรเชิญเจรจาเถิด "

" พระผู้เป็นเจ้าได้ฟังว่าอย่างไร ? "
" ก็มหาบพิตรเจรจาว่าอย่างไร ? "
" โยมจะถามพระผู้เป็นเจ้า "
" จงถามเถิด มหาบพิตร "
" โยมถามแล้ว "
" อาตมภาพก็แก้แล้ว "

" พระผู้เป็นเจ้าแก้ว่าอย่างไร ? "
" ก็มหาบพิตรถามว่าอย่างไร ? "


เมื่อพระเถระตอบอย่างนี้แล้ว พวกโยนกเสนาทั้ง ๕๐๐
ก็เปล่งเสียง สาธุการ ถวายพระนาคเสน
แล้วกราบทูลพระเจ้ามิลินท์ว่า " ข้าแต่มหาราชเจ้า
คราวนี้ขอพระองค์จงตรัสถามปัญหาต่อไปเถิดพระเจ้าข้า "





: http://agaligohome.fx.gs/index.php?topic=205.0

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กรกฎาคม 2555 19:24:04 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: จัดหน้าค่ะ » บันทึกการเข้า
 
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #121 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:49:07 »


ปัญหาที่ ๗ ถามถึงความต่างกันแห่งผู้เสวยรส
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน ผู้ปราศจากราคะ กับ ผู้ไม่ปราศจากราคะ ต่างกันอย่างไร ?"
   
   " ขอถวายพระพร ผู้หนึ่งยังมีความยึดถือ อีกผู้หนึ่งไม่มีความยึดถือ"
   
   " ยึดถืออะไร...ไม่ยึดถืออะไร ? "
   
   " ขอถวายพระพร คือผู้หนึ่งยังมีความต้องการ อีกผู้หนึ่งไม่มีความต้องการ"
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ปราศจากราคะ กับ ผู้ไม่ปราศจากราคะ ก็ยังต้องการของเคี้ยวของกินที่ดีงามอยู่เหมือนกัน ไม่มีใครต้องการสิ่งที่ไม่ดีงาม โยมเห็นมีแต่ต้องการสิ่งที่ดีงามเหมือนกันหมด"
   
   " ขอถวายพระพร ผู้ปราศจากราคะ ยังรับรสอาหาร ยังกินอาหารอยู่เหมือนกันก็จริงแหล่ แต่ทว่าไม่ยินดีในรสอาหาร ส่วนผู้ไม่ปราศจากราคะ ยังยินดีในรสอาหารอยู่ ไม่ใช่ไม่ยินดีในรสอาหาร "
   
   " เข้าใจแก้ พระผู้เป็นเจ้า "
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #122 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:52:17 »


ปัญหาที่ ๘ ถามที่ตั้งแห่งปัญญา
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน ปัญญาอยู่ที่ไหน ? "
   
   " ขอถวายพระพร ปัญญาไม่ได้อยู่ที่ไหน "
   
   " ถ้าอย่างนั้นปัญญาก็ไม่มี "
   
   " ขอถวายพระพร ลมอยู่ที่ไหน ? "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ที่อยู่แห่งลมไม่มี "
   
   " ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นลมก็ไม่มี "
   
   " ฉลาดแก้ พระผู้เป็นเจ้า "
 
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #123 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 21:55:23 »


ปัญหาที่ ๙ ถามเรื่องสงสาร 
 
   " ข้าแต่พระนาคเสน คำว่า สงสาร ได้แก่อะไร ? "
   
   " ขอถวายพระพร สัตว์โลกเกิดในโลกนี้ก็ตายในโลกนี้ ตายจากโลกนี้แล้วก็ไปเกิดในโลกอื่น เกิดในโลกนั้นก็ตายในโลกนั้น ตายจากโลกนั้นแล้วก็เกิดในโลกอื่น การเวียนตายเวียนเกิดอย่างนี้แหละ เรียกว่า สงสาร "
   
   " ขอนิมนต์อุปมาด้วย "
   
   " ขอถวายพระพร เหมือนอย่างว่า บุรุษคนหนึ่งกินมะม่วงสุก แล้วปลูกเมล็ดไว้เมล็ดมะม่วงนั้น ก็เกิดเป็นต้นมะม่วงใหญ่ขึ้นจนกระทั่งมีผลมะม่วง บุรุษนั้นก็กินมะม่วงสุกจากมะม่วงต้นนั้น แล้วปลูกเมล็ดมะม่วงไว้อีก เมล็ดมะม่วงนั้นก็เกิดเป็นต้น มะม่วงใหญ่โตขึ้นจนมีผล ต้นแก่ก็ตายไป ที่สุดเบื้องต้นแห่งต้นมะม่วงเหล่านั้น ย่อมไม่ปรากฏว่ามีมาเมื่อไร ข้อนี้มีอุปมาฉันใด การเวียนตายเวียนเกิดของสัตว์ทั้งหลาย ก็ไม่ปรากฏเบื้องต้นฉะนั้น "
   
   " แก้ถูกดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #124 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:07:58 »


ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงเหตุที่ให้ระลึกถึงสิ่งที่ล่วงแล้วได้
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน บุคคลระลึกถึงสิ่งที่ล่วงไปนานแล้วได้ด้วยอะไร? "
   
   " ได้ด้วย สติ ขอถวายพระพร "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่ล่วงไปนานแล้วสิ่งหนึ่ง บุคคลระลึกได้ด้วย จิต ต่างหาก ไม่ใช่ระลึกได้ด้วยสติ"
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้แล้ว ระลึกไม่ได้มีอยู่หรือไม่? "
   
   " มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร ในเวลานั้นพระองค์ไม่มีจิตหรือ ? "
   
   " จิตมี แต่เวลานั้นสติไม่มี "
   
   " ถ้าอย่างนั้น ขอมหาบพิตรจงเข้าพระทัยเถิดว่า บุคคลระลึกได้ด้วย สติ ไม่ใช่ระลึกได้ด้วย จิต "
   
   " ถูกดีแล้ว พระนาคเสน "
   
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #125 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:11:17 »

ปัญหาที่ ๑๑ ถาม สติเกิดขึ้นได้เอง หรือเกิดจากผู้อื่น  
 
   ข้าแต่พระนาคเสน สตินั้นเกิดขึ้นเอง หรือเกิดขึ้นต่อเมื่อมีคนเตือน
   
   ขอถวายพระพร มหาบพิตร เกิดขึ้นได้ทั้ง ๒ ทาง
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ตามความเห็น  เห็นว่า เกิดขึ้นเอง มิต้องมีคนอื่นเตือน
   
   ขอถวายพระพร มหาบพิตร ถ้าเป็นอย่างพระองค์ตรัส  ก็ไม่ต้องมีครูอาจารย์คอยตักเตือนว่ากล่าว
   แต่เพราะมิได้เป็นเช่นนั้น จึงต้องมีครูอาจารย์ คอยให้สติในเมื่อเราพลั้งเผลอ
   
   ถูกดีแล้วพระผู้เป็นเจ้า
   
   จบวรรคที่ ๖
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #126 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:15:01 »


มิลินทปัญหา วรรคที่ ๗
   
   ปัญหาที่ ๑ ถาม สติเกิดแต่อาการเท่าไร
       
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า  สติความระลึกและความจำ เกิดแต่อาการเท่าไร
   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร  เกิดแต่อาการ ๑๗ อย่างคือ
   
   (๑) เกิดแต่ความรู้ยิ่ง ดังผู้รู้ประวัติการณ์ที่ล่วง มาแล้ว ความรู้นั้นย่อมระลึกถึงเหตุการณ์แต่หลังได้   
   (๒) เกิดแต่การที่ได้กระทำเครื่องหมายไว้   
   (๓) เกิดแต่การได้ขยับฐานะสูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้นึก ให้จำกิจการที่ตนได้กระทำมาแต่หลัง   
   (๔) เกิดแต่การได้รับความสุข ถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว   
   (๕) เกิดแต่การได้รับความทุกข์  นึกถึงเหตุแห่งความทุกข์นั้น ๆ
   
   (๖) เกิดแต่การได้รู้เห็นสิ่งที่คล้ายกัน เป็นเหตุให้ ระลึกอีกสิ่งหนึ่งได้   
   (๗) เกิดแต่การรู้เห็นสิ่งที่ตรงกันข้าม   
   (๘) เกิดแต่การได้รับคำเตือน   
   (๙) เกิดแต่รู้เห็นตำหนิ หรือลักษณะ   
   (๑๐) เกิดแต่นึกขึ้นได้โดยลำพัง
   
   (๑๑) เกิดแต่การพินิจพิเคราะห์   
   (๑๒) เกิดแต่การนับจำนวนไว้   
   (๑๓) เกิดแต่การทรงจำไว้ได้ตามธรรมดา   
   (๑๔) เกิดแต่การอบรม     
   (๑๕) เกิดแต่การได้จดบันทึกไว้
   
   (๑๖) เกิดแต่การเก็บไว้   
   (๑๗) เกิดแต่การเคยพบ เคยเห็น
   
   ข้าแต่พระผู่เป็นเจ้า มี มากอย่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ธันวาคม 2553 21:42:23 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #127 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:20:22 »


ปัญหาที่ ๒ ถามว่า ผู้ที่ทำบาปมาตั้ง ๑๐๐ ปี ถ้าเวลาจะตาย ทำจิตให้ผ่องใสได้ก็ไปสุคคติ จะไปได้จริงหรือ
     
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า  คำที่เธอว่าผู้ที่ทำบาปกรรมเรื่อยมาแม้ตั้ง ๑๐๐ ปี แต่ถ้าเวลาจะตาย มีสติระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าได้ ก็ย่อมนำไปเกิดในสวรรค์ ส่วนผู้ที่ทำบาปแม้แต่ครั้งเดียวก็ย่อมไปเกิดในนรกนั้น ดูไม่สมเหตุผล
   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร  ศิลาแม้ก้อนเล็กโดยลำพังจะลอยน้ำได้หรือไม่
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ย่อมไม่ได้
   
    ขอถวายพระพรมหาบพิตร  ก็ถ้าศิลาตั้ง ๑๐๐ เล่มเกวียน แต่อยู่ในเรือ ศิลานั้นจะลอยน้ำได้หรือไม่
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เป็นไปได้
   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร  เปรียบบุญกุศลเหมือนเรือ บาปกรรมเหมือนศิลา อันคนที่กระทำบาปอยู่เสมอจนตลอดชีวิต ถ้าเวลาจะตาย มิได้ปล่อยจิตใจให้ตามระทมถึงบาปที่ตัวทำมาแต่หลังนั้น สามารถประคองใจไว้ในแนวแห่งกุศลอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นแน่วแน่อยู่ในพุทธานุสติ  ถ้าตายลงในขณะจิตนั้น ก็เป็นอันหวังได้ว่าไปสู่สุคติ ประหนึ่งศิลา ซึ่งมีเรือทานน้ำหนักไว้ มิให้จมลงฉะนั้น ส่วนผู้ที่กระทำบาปที่สุดแต่ครั้งเดียว ถ้าเวลาใกล้จะดับจิต เพียงแต่จิตหวนไปพัวพันถึงกิริยาอาการที่ตัวกระทำบาปกรรมไว้  ก็จักเป็นหนักพอที่จะถ่วงตัวไปให้เกิดในนรก เหมือนศิลาที่เราโยนลงไปในน้ำ แม้จะก้อนเล็กก็จมเช่นเดียวกัน
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า นับเป็นเหตุผลถูกต้องแล้ว
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #128 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:25:09 »


ปัญหาที่ ๓ ถามว่า จะเพียรดับทุกข์ที่ยังไม่มาถึงจะได้หรือไม่   
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า  พระองค์ได้ฝึกฝนตน ด้วยมีประสงค์จะละทุกข์ที่ล่วงมาแล้วกระนั้นหรือ   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร  หามิได้
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า หรือจะละทุกข์ที่ยังมาไม่ถึง   
   หามิได้มหาบพิตร
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเช่นนั้น ก็จะละทุกข์ที่มีอยู่ในบัดนี้   
   ขอถวายพระพร มหาบพิตร จะว่าเฉพาะทุกข์ในบัดนี้ก็ไม่ใช่
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเช่นนั้น พระผู้เป็นเจ้า เพียรพยายามทำไม   
   ขอถวายพระพร อาตมภาพพยายามด้วยหวังว่า จะดับทุกข์ที่มีอยู่ และทุกข์ที่จะมีในกาลข้างหน้า
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ทุกข์ที่ยังมาไม่ถึงนั้น จะพยายามไม่ให้มีขึ้นได้หรือ   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร ได้
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ฉะนั้นความพยายามจะละทุกข์ที่ยังมีมาไม่ถึงก็ได้   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร  พระองค์เคยถูกราชศัตรูยกพลมาเพื่อจะชิงเอาพระนครบ้างหรือไม่   

   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เคยถูกอยู่บ้าง   
   ถวายพระพรมหาบพิตร ในทันทีนั้น พระองค์ตรัสสั่งให้ลงมือขุดคู สร้างป้อมปราการ และฝึกหัดทหารซ้อมเพลงอาวุธ หรือไม่   

   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ต้องมีการจัดทำเตรียมไว้ก่อน
   ถวายพระพร มหาบพิตร พระองค์มีพระประสงค์อย่างไร จึงเตรียมล่วงหน้าไว้
 
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า  เมื่อเกิดสงครามขึ้น จะได้ทำการต่อสู้ข้าศึกได้ทันท่วงที มิฉะนั้น ถึงเวลาสงครามก็จะหาโอกาสจัดทำได้ยาก ที่สุดก็จะต้องพ่ายแพ้ข้าศึก และการที่เตรียมจัดทำไว้ในเวลาปกติย่อมทำได้ดี ทั้งเป็นที่เกรงขามของข้าศึกที่ยังมีมาไม่ถึงได้ด้วย
   
   ขอถวายพระพร ข้าศึกที่ยังมีมาไม่ถึงก็มีด้วยหรือ   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มี
   
   ขอถวายพระพรมหาบพิตร เหตุผลที่พระองค์ตรัสถามเบื้องต้นก็มีเช่นนี้แล การที่อาตมภาพเพียรฝึกฝนกาย วาจา ใจ ไว้ให้อยู่ในความควบคุมของจิตที่อบรมดีแล้ว ก็เพื่อปราบทุกข์ที่มีอยู่ในบัดนี้ และเพื่อไว้ต่อสู้ หรือป้องกันทุกข์ที่ยังมาไม่ถึง เช่นเดียวกับพระองค์เหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ย่อมเป็นช่องทางที่จะให้ความทุกข์เข้ามาผจญใจได้ เมื่อกำลังใจมีไม่พอที่จะต้านทาน ก็ต้องยอมเป็นเชลยแห่งความทุกข์เรื่อยไป เป็นอันหาโอกาสที่จะทำเช่นนี้ได้อีกยาก เพราะฉะนั้น อาตมภาพจึงต้องพยายามฝึกฝนตนไว้ก่อน
   
   ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ที่กล่าวมานี้ชอบแล้ว
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ธันวาคม 2553 22:04:05 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #129 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:29:57 »


ปัญหาที่ ๔ ถามเรื่องความไกลแห่งพรหมโลก
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน พรหมโลกไกลจากโลกนี้สักเท่าไร ?"
   
   " ขอถวายพระพร พรหมโลกไกลจากโลกนี้มาก ถ้ามีผู้ทิ้งก้อนศิลาโตเท่าปราสาทลงมาจากพรหมโลก ก้อนศิลานั้นจะตกลงมาได้วันละ ๔๘,๐๐๐ โยชน์ ต้องตกลงมาถึง ๔ เดือน จึงจะถึงพื้นดิน "
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน มีคำกล่าวว่า ภิกษุผู้มีฤทธิ์ ผู้มีอำนาจทางจิต หายวับจากชมพูทวีปนี้ ขึ้นไปปรากฏในพรหมโลกได้เร็วพลัน เหมือนกันกับบุรุษผู้มีกำลังคู้แขนเหยียดแขนฉะนั้นดังนี้ โยมไม่เชื่อ เพราะถึงเร็วอย่างนั้น ก็จักไปได้เพียงหลายร้อยโยชน์เท่านั้น"
   
   " ขอถวายพระพร ชาติภูมิ ของมหาบพิตรอยู่ที่ไหน? "
   
   " อยู่ที่เกาะอลสัณฑะ พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร เกาะอลสัณฑะไกลจากที่นี้สักเท่าไร ?"
   
   " ไกลประมาณ ๒๐๐ โยชน์ "
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรเคยกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดไว้ในที่นั้น แล้วเคยนึกถึงมีอยู่หรือ ? "
   
   " มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรนึกไปถึงทีไกลประมาณ ๒๐๐ โยชน์ ได้โดยเร็วพลันไม่ใช่หรือ ? "
   
   " ถูกแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #130 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:33:39 »


*   ปัญหาที่ ๕ ถามถึงความไปเกิดในพรหมโลกและเมืองกัสมิระ

   
   " ข้าแต่พระนาคเสน ถ้ามีคน ๒ คนตายจากที่นี้แล้วไปเกิดในที่ต่างกัน คือคนหนึ่งขึ้นไปเกิดในพรหมโลก อีกคนหนึ่งเกิดในเมืองกัสมิระ คนสองคนนี้ คนไหนจะไปช้าไปเร็วกว่ากัน ? "   
   " ขอถวายพระพร เท่ากัน "
   
   " ขอนิมนต์อุปมาด้วย "   
   " ขอถวายพระพร ชาติภูมิของมหาบพิตรอยู่ที่ไหน ? "
   
   " อยู่กาลสิรคาม "   
   " ขอถวายพระพร กาลสิรคามอยู่ไกลจากที่นี้สักเท่าไร? "
   
   " ประมาณ ๒๐๐ โยชน์ พระผู้เป็นเจ้า "   
   " เมืองกัสมิระไกลจากที่นี้สักเท่าไร ? "
   
   " ประมาณ ๑๒ โยชน์ พระผู้เป็นเจ้า "   
   " เชิญมหาบพิตรนึกถึงกาลสิรคามดูซิ "
   
   " โยมนึกแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "   
   " เชิญมหาบพิตรนึกถึงเมืองกัสมิระดูซิ "
   
   " โยมนึกแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "   
   " ขอถวายพระพร ทางไหนนึกถึงช้าเร็วกว่ากันอย่างไร ?"
   
   " เท่ากัน พระผู้เป็นเจ้า "   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ที่ขึ้นไปเกิดในพรหมโลก กับผู้ที่ไปเกิดในเมืองกัสมิระ เร็วเท่ากัน ไปถึงพร้อมกัน"

   
   " ขอนิมนต์อุปมาอีก "



       อายจัง

อุปมาด้วยเงาของนก
   
   " ขอถวายพระพร ถ้ามีนก ๒ ตัวบินมาจับต้นไม้พร้อมกัน ตัวหนึ่งจับต่ำ ตัวหนึ่งจับสูง
   เงาของนกตัวไหนจะถึงพื้นดินก่อนกัน"
   
   " ถึงพร้อมกัน พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร "
   
   " ขอนิมนต์อุปมาอีก "
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ธันวาคม 2553 07:15:28 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: เพิ่มข้อปัญหาที่๕ค่ะที่ลงข้ามไป » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #131 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:40:54 »


อุปมาด้วยการแลดู 
 
   " ขอถวายพระพร ขอได้โปรดแลดูอาตมา "
   
   " โยมแลดูแล้ว "
   
   " ขอได้โปรดแหงนดู ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ "
   
   " โยมแหงนดูแล้ว "
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรแลดูอาตมากับแลดูดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ อันอยู่ไกลถึง ๔๒,๐๐๐ โยชน์ ข้างไหนจะเร็วช้ากว่ากัน? "
   
   " เท่ากัน พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ที่ขึ้นไปเกิดในพรหมโลก กับผู้ที่ไปเกิดในเมืองกัสมิระ ไปถึงพร้อมกัน "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เป็นเช่นนั้น "
 
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #132 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 20:47:42 »


ปัญหาที่ ๖ ถามถึงวรรณะสัณฐานของผู้ไปเกิดในโลกอื่น
   
   พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามอีกว่า
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน โยมจักถามถึงเหตุอันยิ่งขึ้นไป คือผู้ไปสู่โลกอื่น ไปด้วยสีเขียว แดง เหลือง ขาว แสด เลื่อม อย่างไร...หรือ ไปด้วยเพศช้าง ม้า รถ อย่างไร ? "
   
   " ขอถวายพระพร ข้อนี้พระพุทธเจ้ามิได้ทรงบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎกพุทธวจนะ"
   
   พระเจ้ามิลินท์ตรัสต่อไปว่า
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน ถ้าพระสมณโคดมไม่บัญญัติไว้ว่า ผู้ไปเกิดในโลกอื่น ในระหว่างทางนั้นต้องมีสีเขียว หรือสีเหลือง แดง ขาว แสด เลื่อม อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว จะว่าพระสมณโคดมทรงรู้จักทุกสิ่งได้หรือ... คำของ คุณาชีวก ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่กล่าวไว้ว่า ผู้ไปสู่โลกอื่นไม่มี ก็ต้องเป็นของจริง ผู้ใดกล่าวว่า โลกนี้ไม่มี โลกอื่นไม่มี ผู้ไปเกิดในโลกอื่นไม่มี ผู้นั้นก็ได้ชื่อว่ากล่าวถูก ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต "
   
   พระนาคเสนตอบว่า
   
   " ขอถวายพระพร ขอมหาบพิตรจงตั้งพระทัยฟังถ้อยคำของอาตมภาพ"
   
   " โยมตั้งใจฟังผู้แล้ว "
   
   " ขอถวายพระพร ถ้อยคำของอาตมภาพที่พ้นออกไปจากปาก ไปถึงพระกรรณของมหาบพิตรนั้น ในระหว่างที่ยังไปไม่ถึงนั้นเสียงของอาตมภาพมีสีอย่างไร มีทรวดทรงอย่างไร ? "
   
   " เห็นไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร ถ้ามหาบพิตรว่าเห็นไม่ได้ เสียงของอาตมภาพก็ไม่ไปถึงพระกรรณของมหาบพิตร มหาบพิตรก็ตรัสคำเหลาะแหละน่ะซิ "
   
   " โยมไม่ได้พูดเหลาะแหละ ถึงถ้อยคำของพระผู้เป็นเจ้าไม่ปรากฏสีเขียว หรือสีเหลืองในระหว่างทางก็จริง แต่ถ้อยคำของพระผู้เป็นเจ้าก็มาถึงโยมจริง"
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ถึงผู้ไปเกิดในโลกอื่นนั้น จะไม่ปรากฏสีเขียวหรือสีเหลืองในระหว่างทางก็จริง แต่ผู้ไปเกิดในโลกอื่นนั้นก็มีอยู่ เหมือนกับถ้อยคำของอาตมา "
   
   " น่าอัศจรรย์ พระนาคเสน ขอพระผู้เป็นเจ้าจงเสวยราชสมบัติใหญ่ในชมพูทวีปทั้งสิ้นนี้เถิด เพราะขันธ์ ๕ นี้ไม่ได้ไปสู่โลกอื่น ขันธ์ ๕ ไม่มีอะไรตกแต่ง เกิดขึ้นเอง สงสารก็ไม่มี "

   
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #133 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 21:07:27 »


  อุปมาด้วยการทำนา
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรเคยโปรดให้ทำนาหรือไม่ ? "
   
   " อ๋อ...เคยให้ทำ "
   
   " ขอถวายพระพร ข้าวสาลีที่ปลูกลงในพื้นดินย่อมมีรวงงอกขึ้น เมื่อรวงข้าวสาลีงอกขึ้น จะว่างอกขึ้นเองหรืออย่างไร? "
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน ข้าวสาลีที่ปลูกลงในพื้นดินย่อมมีรวงงอกขึ้น จะว่างอกขึ้นเอง ไม่มีผู้ใดกระทำไม่ได้ "
   
   " ขอถวายพระพร ถ้าข้าวสาลีที่ปลูกลงในพื้นดิน ยังไม่มีรวงงอกขึ้น เมื่อรวงยังไม่งอกขึ้น จะว่าไม่มีผู้ปลูก จะว่าข้าวสาลีไม่มีจะได้หรือไม่? "
   
   " ไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ถ้าขันธ์ ๕ นี้ไปเกิดเอง คนตาบอดก็จะเกิดเป็นคนตาบอดอีก คนใบ้ก็จะเกิดเป็นคนใบ้อีก บุญก็ไม่มีประโยชน์อันใด ถ้าขันธ์ ๕ ไม่มีสิ่งใดตกแต่ง เป็นของเกิดขึ้นเอง ขันธ์ ๕ ก็จะต้องไปนรกด้วยอกุศลกรรม"
   
   " ขอนิมนต์อุปมาให้ยิ่งขึ้น "
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #134 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 21:16:02 »


อุปมาด้วยการจุดประทีป
   
   " ขอถวายพระพร เหมือนอย่างมีผู้เอาประทีปมาจุดต่อกัน เปลวประทีปดวงเก่าก้าวไปสู่ประทีปดวงใหม่หรืออย่างไร ประทีปทั้งสองนั้น มีขึ้นเองไม่มีผู้กระทำอย่างนั้นหรือ? "
   
   " ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ขันธ์ ๕ นี้ไม่ได้ไปสู่โลกอื่น ขันธ์ ๕ นี้ไม่ใช่เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งใดทำให้เกิดขึ้น"
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน เวทนาขันธ์ ไปสู่โลกอื่นหรือ ?"
   
   " ขอถวายพระพร ถ้าเวทนาขันธ์ไปสู่โลกอื่น ผู้ที่ไปเกิดในโลกอื่น ก็คือเวทนาขันธ์อย่างนั้นซิ ? "
   
   " ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร เพราะเหตุนั้นแหละมหาบพิตรจงเข้าพระทัยเถิดว่า เวทนาขันธ์ในอัตภาพนี้ไม่ได้ ไปสู่โลกอื่น "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า สัญญาขันธ์ ไปสู่โลกอื่นหรือ? "
   
   " ขอถวายพระพร ถ้าสัญญาขันธ์ไปสู่โลกอื่น ผู้มีมือด้วนเท้าด้วนในอัตภาพนี้ ไปสู่โลกอื่น ผู้มีมือด้วนเท้าด้วนในอัตภาพนี้ ไปสู่โลกอื่นแล้ว ก็จะต้องมีมือด้วนเท้าด้วนอีกหรืออย่างไร ? "   
   " ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " เพราะเหตุนั้นแหละ มหาบพิตรจงเข้าพระทัยเถิดว่า สัญญาขันธ์ในอัตภาพนี้ ไม่ได้ไปสู่โลกอื่น "
   
   " ขอนิมนต์อุปมาให้ยิ่งขึ้นไปอีก "   
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #135 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 21:25:02 »


อุปมาด้วยกระจก
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรจงทรงหยิบเอากระจกส่องพระพักตร์หรือไม่? "
   
   " มี พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรจงทรงหยิบเอากระจกมาวางไว้ตรงพระพักตร์มหาบพิตร"
   
   " โยมหยิบมาตั้งไว้แล้ว "
   
   " ขอถวายพระพร ดวงพระเนตร พระกรรณ พระนาสิก พระทนต์ ของมหาบพิตรปรากฏอยู่ในกระจกนี้เอง หรือว่ามหาบพิตรทรงกระทำให้ปรากฏ? "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ดวงตา หู จมูก ฟัน ของโยมปรากฏอยู่ในวงกระจกนี้ ด้วยโยมกระทำขึ้น "
   
   " ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นเป็นอันว่ามหาบพิตรได้ควักเอาพระเนตร ตัดเอาพระกรรณ พระนาสิก และถอนเอาพระทนต์ของมหาบพิตร เข้าไปไว้ในกระจกแล้ว มหาบพิตรก็เป็นคนตาบอด ไม่มีพระนาสิกและพระทนต์อย่างนั้นซิ? "
   
   " ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า เงาปรากฏในกระจก เพราะอาศัยโยมกระทำขึ้น ไม่ใช่ว่าเพราะโยมไม่ได้กระทำขึ้น"
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ไม่ใช่ว่าขันธ์ ๕ นี้ไปสู่โลกอื่น ทั้งไม่ใช่ว่าขันธ์ ๕ ไม่มีสิ่งกระทำ เป็นของเกิดขึ้นเอง สัตว์ถือกำเนิดในครรภ์มารดาด้วยกุศลกรรม อกุศลกรรม ที่ตนกระทำไว้ เพราะอาศัยขันธ์ ๕ นี้แหละ จึงเหมือนเงาปรากฏในกระจก เพราะอาศัยการกระทำของมหาบพิตรฉะนั้น "
   
   " ถูกต้องดีแล้ว พระนาคเสน "

   
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #136 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 21:30:28 »

 
ปัญหาที่ ๗ ถามเรื่องถือกำเนิดในครรภ์มารดา
   
  " ข้าแต่พระนาคเสน เมื่อสัตว์จะเข้าถือกำเนิดในท้องมารดา เข้าไปทางทวารไหน ? "
   
   " ขอถวายพระพร ไม่ปรากฏว่าเข้าไปทางทวารไหน "
   
   " ขอนิมนต์อุปมาด้วย "
   
   " ขอถวายพระพร หีบแก้วของมหาบพิตรมีอยู่หรือ ? "   
   " มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า "
   
   " ขอถวายพระพร ขอจงนึกเข้าไปในหีบแก้วดูซิ "
   
   " โยมนึกเข้าไปแล้ว "
   
   " ขอถวายพระพร จิตของมหาบพิตรที่นึกเข้าไปในหีบแก้วนั้น เข้าไปทางไหน ? "
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน จิตของโยมไม่ปรากฏว่านึกเข้าไปทางไหน"
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร สัตว์ที่เข้าไปถือกำเนิดในท้องมารดา ก็ไม่ปรากฏว่าเข้าไปทางไหนฉะนั้น "
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน การที่พระผู้เป็นเจ้าแก้ปัญหาปฏิภาณอันวิจิตรยิ่งนี้ได้เป็นอัศจรรย์นักหนา
   ถ้าพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่คงจะประทานอนุโมทนาสาธุการเป็นแน่แท้"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ธันวาคม 2553 08:22:57 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7886


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 8.0.552.224 Chrome 8.0.552.224


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #137 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2553 12:05:14 »

สาธุ ๆ อนุโมทนาครับ

เพิ่งไปโหลดดีวีดีการ์ตูน มิลินทปัญหามา ยังไม่ได้ดูเลย
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #138 เมื่อ: 09 มกราคม 2554 10:23:12 »



  ปัญหาที่ ๘ ถามเรื่องโพชฌงค์ ๗
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน โพชฌงค์ มีเท่าไร ? "
   " ขอถวายพระพร มี ๗ ประการ "

   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า บุคคลตรัสรู้ด้วยโพชฌงค์เท่าไร? "
   " ขอถวายพระพร บุคคลตรัสรู้ด้วยโพชฌงค์ข้อเดียว "

   " คือข้อไหน พระผู้เป็นเจ้า ? "
   " ขอถวายพระพร คือข้อ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ "

   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าอย่างนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ไว้ทำไม ? "

   " ขอถวายพระพร พระองค์จะเข้าพระทัยความข้อนี้อย่างไร...
     คือดาบที่บุคคลสวมไว้ในฝัก
     บุคคลไม่ได้ชักออกจากฝัก อาจตัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ขาดได้หรือ ? "

   " ไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า "

   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือบุคคลปราศจาก ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
      แล้วตรัสรู้ด้วยโพชฌงค์ ๖ ไม่ได้"

   " ถูกแล้ว พระนาคเสน "


บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #139 เมื่อ: 09 มกราคม 2554 10:24:46 »



  ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความมากกว่ากันแห่งบาปและบุญ
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน บุญและบาปข้างไหนมากกว่ากัน ? "   
   " ขอถวายพระพร บุญมากกว่าบาป บาปน้อยกว่า "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ทำไมจึงว่าบุญมากกว่า บาปน้อยกว่า? "
   
   " ขอถวายพร บุคคลทำบาปแล้วย่อมร้อนใจในภายหลังว่า เราได้ทำบาปไว้แล้วเพราะเหตุนั้นบาปก็ไม่ได้มากขึ้น ส่วนบุญเมื่อบุคคลทำเข้าแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง มีแต่เกิดปราโมทย์ ปีติ ใจสงบมีความสุข จิตเป็นสมาธิ เพราะฉะนั้น บุญจึงมากขึ้น ดังมีบุรุษผู้มีมือมีเท้าขาดแล้ว ได้บูชาพระด้วยดอกบัวเพียงกำเดียว ก็จักได้เสวยผลถึง ๙๑ กัปด้วยเหตุนี้แหละ จึงว่าบุญมากกว่า ขอถวายพระพร"
   
   " ชอบแล้ว พระผู้เป็นเจ้า "


บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #140 เมื่อ: 09 มกราคม 2554 10:31:04 »




   ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงการทำบาปแห่งผู้รู้กับผู้ไม่รู้

   " ข้าแต่พระนาคเสน สมมุติว่ามีคน ๒ คน คนหนึ่งรู้จักบาป อีกคนหนึ่งไม่รู้จัก
     แต่กระทำบาปด้วยกันทั้งสองคน ข้างไหนจะได้บาปมากกว่ากัน ? "

   " ขอถวายพระพร ข้างไม่รู้จักได้บาปมากกว่า "
   
   " ข้าแต่พระนาคเสน ราชบุตรของโยมหรือราชมหาอำมาตย์คนใดรู้ แต่ทำผิดลงไป
     โยมลงโทษแก่ผู้นั้นเป็นทวีคูณ "

   " ขอถวายพระพร มหาบพิตรจะเข้าพระทัยความข้อนี้อย่างไร...
     คือสมมุติว่ามีคน ๒ คน จับก้อนเหล็กแดงเหมือนกัน
     คนหนึ่งรู้ว่าเป็นก้อนเหล็กแดง อีกคนหนึ่งไม่รู้ คนไหนจะจับแรงกว่ากัน ? "
   
   " ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คนไม่รู้จับแรงกว่า "
   
   " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ไม่รู้บาปได้บาปมากกว่า"
   
   " ชอบแล้ว พระนาคเสน "



บันทึกการเข้า
คำค้น: ท่านเมนานเดอร์ พระนาคเสน ปัญหาธรรม 
หน้า:  1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 20   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.18 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 19 พฤศจิกายน 2567 04:46:25