[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
16 พฤษภาคม 2567 02:49:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 145 146 [147] 148 149 ... 1128
2921  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - สลด นิสิตแพทย์ปี 3 พลัดตกตึกคณะแพทย์ ม.ดังภาคอีสาน ตำรวจเร่งหาสาเหตุแท้จริง เมื่อ: 27 ธันวาคม 2566 03:14:29
สลด นิสิตแพทย์ปี 3 พลัดตกตึกคณะแพทย์ ม.ดังภาคอีสาน ตำรวจเร่งหาสาเหตุแท้จริง
         


สลด นิสิตแพทย์ปี 3 พลัดตกตึกคณะแพทย์ ม.ดังภาคอีสาน ตำรวจเร่งหาสาเหตุแท้จริง" width="100" height="100  นิสิตแพทย์ปี 3 พลัดตกตึกคณะแพทย์ ม.ดังภาคอีสาน เสียชีวิต ตำรวจเร่งหาสาเหตุแท้จริง
         

https://www.sanook.com/news/9156974/
         
2922  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 เตรียมเสนอเข้าสภา 3-4 ม.ค.67 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2566 02:09:05
ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 เตรียมเสนอเข้าสภา 3-4 ม.ค.67
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 22:59</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพ สำนักงบประมาณ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 จัดตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน รวม3.48 ล้านล้านบาท เตรียมเสนอเข้าสภาต่อไปในวันที่ 3-4 ม.ค.67</p>
<p>26 ธ.ค.2566 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลเผยแพร่มติคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ วาระที่ 1 ในวันที่ 3 – 4 มกราคม 2567 ต่อไป</p>
<div class="more-story">
<p>สำนักงบฯ เปิดร่าง พ.ร.บ. งบฯ 67 เพื่อการรับฟังความคิดเห็น ตั้งวงเงิน 3.48 ล้านล้าน เทียบปี 65 และ 66</p>
</div>
<p>รายงานระบุว่าตามที่สำนักงบประมาณดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีครั้งวันที่ 12 ธ.ค.2566 และได้จัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และเอกสารประกอบงบประมาณ รวม 37 เล่ม เรียบร้อยแล้ว</p>
<p>ทั้งนี้ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 กำหนดให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นจำนวนไม่เกิน 3,480,000 ล้านบาท โดยจำแนกตามประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้</p>
<p>1. จำแนกตามกลุ่มงบประมาณ</p>
<table bgcolor="#ffffff">
<colgroup><col /><col /></colgroup>
<tbody>
<tr>
<td>
<p>กลุ่มงบประมาณ</p>
</td>
<td>
<p>จำนวน (ล้านบาท)</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>1. รายจ่ายงบกลาง</p>
</td>
<td>
<p>606,765.0</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>2. รายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ</p>
</td>
<td>
<p>1,150,114.0</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>3. รายจ่ายบูรณาการ</p>
</td>
<td>
<p>214,601.7</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>4. รายจ่ายบุคลากร</p>
</td>
<td>
<p>785,957.6</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>5. รายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน</p>
</td>
<td>
<p>257,790.5</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>6. รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ</p>
</td>
<td>
<p>346,380.1</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>7. รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง</p>
</td>
<td>
<p>118,361.1</p>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<p>2.จำแนกตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐสรุปได้ ดังนี้</p>
<table bgcolor="#ffffff">
<colgroup><col /><col /></colgroup>
<tbody>
<tr>
<td>
<p>ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบฯ ปี 67</p>
</td>
<td>
<p>จำนวน (ล้านบาท)</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>1) ด้านความมั่นคง</p>
</td>
<td>
<p>390,149.3</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>2) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน</p>
</td>
<td>
<p>393,517.9</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>3) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์</p>
</td>
<td>
<p>561,954.2</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>4) ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม</p>
</td>
<td>
<p>834,240.6</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>5) ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม</p>
</td>
<td>
<p>131,292.3</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>6) ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ</p>
</td>
<td>
<p>604,804.5</p>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<p>โดยมีรายการค่าดำเนินการภาครัฐ จำนวน 564,041.20 ล้านบาท เพื่อสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายใน การรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การชำระหนี้ภาครัฐ และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง</p>
<p>นอกจากนั้นทางแฟนเพจของไทยคู่ฟ้ายังได้ลงรายงานตามลิงก์ดังกล่าวนี้ด้วย งบประมาณประจำปี 2567 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107395
 
2923  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เลขเด็ดพี่สุชิน 66 ล้าน ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 สองงวดติด เลขธูปแก้บนลุ้นส่งท้ายปี เมื่อ: 27 ธันวาคม 2566 00:44:10
เลขเด็ดพี่สุชิน 66 ล้าน ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 สองงวดติด เลขธูปแก้บนลุ้นส่งท้ายปี
         


เลขเด็ดพี่สุชิน 66 ล้าน ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 สองงวดติด เลขธูปแก้บนลุ้นส่งท้ายปี" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เปิดเลขเด็ดพี่สุชิน 66 ล้าน ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 สองงวดติด เลขธูปแก้บนลุ้นส่งท้ายปี
         

https://www.sanook.com/news/9156978/
         
2924  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - โป๊ป 'ฟรานซิส' อนุญาตให้มีการให้พรแก่คู่สมรสเพศเดียวกันได้ แต่ก็มีเงื่อนไข เมื่อ: 27 ธันวาคม 2566 00:06:23
โป๊ป 'ฟรานซิส' อนุญาตให้มีการให้พรแก่คู่สมรสเพศเดียวกันได้ แต่ก็มีเงื่อนไข
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 23:26</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>แฟ้มภาพ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่รัฐสภายุโรปเมื่อ 25 พ.ย. 57 (ที่มาของภาพประกอบ: Claude Truong-Ngoc / Wikimedia Commons - cc-by-sa-3.0)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ถึงแม้ว่าพระสันตะปาปา ฟรานซิส แห่งวาติกัน จะประกาศอนุญาตให้นักบวชคาทอลิกให้พรแก่คู่สมรสเพศเดียวกันได้แล้ว แต่ทว่ายังกำหนดให้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น ต้องเป็นการให้พรภายใต้บริบทของการสมรส และไม่ได้ให้พรในเชิงพิธีกรรมหรือเชิงพิธีสวด</p>
<p>พระสันตะปาปา ฟรานซิส อนุญาตให้นักบวชนิกายโรมันคาทอลิกให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกันได้แล้ว ในคำแถลงเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเปลี่ยนแปลงจุดยืนครั้งสำคัญที่คริสตจักรมีต่อชาว LGBTQ+</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ในเอกสารของวาติกันที่ได้รับการอนุมัติจากพระสันตะปาปาก็ระบุว่าการให้ศีลให้พรกับคู่รักเพศเดียวกันนี้จะกระทำได้ถ้าหากว่าไม่ได้นับเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมหรือพิธีสวดของชาวคริสต์หรือเป็นการให้พรในช่วงเวลาที่คู่รักอยู่กินกันแบบคู่ชีวิต (Civil Union) ที่ไม่ใช่การแต่งงาน</p>
<p>คำตัดสินใหม่นี้กลายเป็นการเปิดทางให้มีการให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกันได้อย่างเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อเทียบกับคำประกาศก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค. 2565 และเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากคำตัดสินเดิมเมื่อปี 2564 ที่สำนักงานหลักคำสอนของวาติกันเคยสั่งห้ามไม่ให้มีการให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกันโดยอ้างว่า พระเจ้า "ไม่สามารถให้พรแก่บาปได้"</p>
<p>นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 เป็นต้นมา สำนักงานหลักคำสอนของวาติกันก็เปลี่ยนหัวหน้าใหม่เป็น คาร์ดินาล วิกเตอร์ มานูเอล เฟอร์นันเดซ พระราชาคณะจากอาร์เจนตินาและพันธมิตรของฟรานซิส ผู้ที่แสดงความคิดเห็นแตกต่างออกไปจากหัวหน้าสำนักงานคนก่อนหน้านี้</p>
<p>คาร์ดินาล เฟอร์นันเดซ และคณะสงฆ์รายอื่นๆ ระบุไว้ในคำประกาศว่า "เมื่อผู้คนร้องขอการให้พร ก็ไม่ควรจะมีการมัวแต่พิจารณาเรื่องศีลธรรมอย่างล้นเกินเพื่อนำมาเป็นเงื่อนไขพิจารณาก่อนการให้พร"</p>
<p>นอกจากนี้ในคำประกาศดังกล่าวยังระบุอีกว่า "พระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้านั้น ทรงประทานต่อชีวิตที่ไม่อ้างตนว่าเป็นผู้ถูกต้อง แต่คือผู้ที่ยอมรับตนเองอย่างถ่อมตนว่าเป็นคนบาปเฉกเช่นทุกคน"</p>
<p>คำตัดสินใหม่ระบุว่าพวกเขาเปิดกว้างให้กับ "ความเป็นไปได้ที่จะให้พรแก่คู่รักในสถานการณ์ที่ไม่ปกติและสำหรับคู่รักที่เป็นเพศเดียวกัน" ถึงกระนั้นก็ตามคำตัดสินก็ยังระบุว่าให้ปล่อยการตัดสินใจเป็นไปตาม "การพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและเอื้ออารีของคณะสงฆ์ที่ได้รับการแต่งตั้ง"</p>
<p>เจมส์ มาร์ติน นักบวชเยซูอิดที่เป็นคณะสงฆ์ที่ดูแลเรื่องเกย์คาทอลิกและได้รับการสนับสนุนจากฟรานซิสกล่าวว่าคำตัดสินนี้เป็น "ความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในหมู่คณะสงฆ์ของคริสตจักรในเรื่องคู่รักเพศเดียวกัน"</p>
<p>มาร์ตินกล่าวอีกว่า คำประกาศใหม่นี้เปิดทางให้กับการให้พรแบบไม่ที่ใช่พิธีสวดแก่คู่รักเพศเดียวกัน เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้เคยห้ามไม่ให้นักบวชบางตำแหน่งทำ อย่าง บิชอป, บาทหลวง และผู้ช่วยบาทหลวง แต่หลังจากนี้มาร์ตินและนักบวชคาทอลิกคนอื่นๆ จำนวนมากจะสามารถให้พรในการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันที่เป็นเพื่อนของพวกเขาได้แล้ว</p>
<p>สื่อมองว่าพระสันตะปาปาพยายามจะเปลี่ยนแปลงแนวทางที่คริสต์คาทอลิกปฏิบัติต่อประเด็น LGBTQ+ โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว ในตอนนั้นพระสันตะปาปาได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องนักบวชเกย์ เอาไว้ว่า "ข้าพเจ้าเป็นใครหรือถึงจะไปตัดสินพวกเขา"</p>
<p>โป๊ปฟรานซิสยังเคยแสดงให้เห็นว่าเขาสนับสนุนการจดทะเบียนคู่ชีวิตของคนรักเพศเดียวกัน รวมถึงพยายามทำให้วาติกันเลิกใช้ภาษาในทางลบตอนที่พวกเขาพูดถึงคนรักเพศเดียวแบบที่เคยทำในอดีต นอกจากนี้โป๊ปฟรานซิสยังเคยสนับสนุนการยอมรับทางกฎหมายต่อคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งแยกออกไปจากเรื่องการแต่งงานด้วย การแสดงออกในตอนนั้นเป็นการเปลี่ยนทิศทางจุดยืนของวาติกันไปจากเดิมของเมื่อปี 2546 ที่เคยมีการระบุว่า มันเป็น "เรื่องจำเป็นที่จะต้องต่อต้านการรับรองทางกฎหมายต่อการแต่งงานระหว่างคนรักเพศเดียวกัน"</p>
<p>พระสันตะปาปายังเคยให้การสนับสนุนแม่ชีจากสหรัฐฯ ชื่อ จีนีน กรามิค ผู้ที่คอยดูแลเรื่องเกย์คาทอลิกมาเป็นเวลาหลายปี ก่อนหน้านี้วาติกันเคยเซนเซอร์เธอแต่เมื่อไม่นานนี้เธอก็ได้พบปะกับโป๊ปฟรานซิส ผู้ที่บอกว่าเธอเป็น "ผู้หญิงที่กล้าหาญ"</p>
<p>คำตัดสินล่าสุดของวาติกันระบุว่าการให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกันและคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานสามารถกระทำได้ "โดยไม่จำเป็นต้องเป็นการยอมรับสถานะของพวกเขาหรือเปลี่ยนแปลงหลังคำสอนทางศาสนาคริสต์เกี่ยวกับการแต่งงานที่มีมาอย่างยาวนาน"</p>
<p>คริสต์นิกายคาทอลิกมีคำสอนว่าคนที่แต่งงานกันแล้วเท่านั้นถึงจะมีเพศสัมพันธ์ได้ และคำตัดสินก็ระบุว่าคริสตจักรไม่สามารถ "ให้พรในเชิงพิธีสวด" แก่คู่รักเพศเดียวกันหรือคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานได้ เพราะมันอาจจะ "เป็นการให้ความชอบธรรมในเชิงศีลธรรมแก่การเป็นคู่ชีวิตที่เข้าใจผิดว่าเป็นการแต่งงาน หรือให้ความชอบธรรมแก่การมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสไปด้วย"</p>
<p>แต่คำตัดสินล่าสุดก็ระบุว่า ความหมายเบื้องหลังการให้พรนั้นไม่สามารถถูกลดทอนให้กลายเป็นแค่ "เรื่องของมุมมอง" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังหมายถึง "การแสดงท่าทีแบบนักบวชที่ผู้คนชื่นชอบและแพร่หลายนั้นจะถูกทำให้ต้องผ่านเงื่อนไขต่างๆ จำนวนมากด้วย ทำให้การอ้างใช้เรื่องนี้มาควบคุม อาจจะกลายเป็นการบดบังอนุภาพความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขของพระผู้เป็นเจ้าได้"</p>
<p>คำตัดสินของโป๊ปฟรานซิสยืนยันว่าศาสนจักรไม่สามารถที่จะกลายเป็นเพียงแค่ "ผู้พิพากษาผู้ที่ปฏิเสธ, ไม่ยอมรับ และกีดกัน" แต่ยังควรที่จะมีความเข้าใจอย่างเปิดกว้างมากกว่านี้ในเรื่องการให้พรด้วย</p>
<p>ความเปิดกว้างของโป๊ปฟรานซิสต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศชาวคาทอลิกกลายเป็นเรื่องที่ทำให้มีผู้ต่อต้านเขาจากภายในศาสนจักร ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นคนกลุ่มเล็กๆ แต่ก็เสียงดัง ซึ่งเป็นไปได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเรื่องการให้พรในครั้งนี้ก็อาจจะทำให้เขาเผชิญกับเสียงต่อต้านจากคนกลุ่มนี้ด้วย</p>
<p><strong>เรียบเรียงจาก</strong></p>
<p>Pope Francis authorizes blessings for same-sex couples, CNN, 18-12-2023</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107396
 
2925  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - นายกฯ เศรษฐา ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เสนอกรมอุตุฯ ทำงานเชิงรุก รับมือภัยพิ เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 22:31:42
นายกฯ เศรษฐา ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เสนอกรมอุตุฯ ทำงานเชิงรุก รับมือภัยพิบัติ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 21:30</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: เฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นายกฯ เศรษฐา ลงตรวจสถานการณ์น้ำท่วมด้วยตัวเองที่ จ.นราธิวาส เยี่ยมประชาชน-รับปากจะดูแลเต็มความสามารถ แนะกรมอุตุฯ ต้องทำงานเชิงรุกในการเตือนภัยประชาชน</p>
<p> </p>
<p>26 ธ.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้ และ The Reporters รายงานวันนี้ (26 ธ.ค.) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงตรวจสถานการณ์น้ำท่วมหลังมีฝนตกสะสมและน้ำหลากตั้งแต่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกฯ ได้เข้าให้กำลังใจชาวบ้านที่หมู่ 1 ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ช่วงหนึ่งได้มีโอกาสทักทายพ่อค้าแม่ค้าหน้าหมู่บ้านที่มาขายของ นายกฯ ระบุว่า ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่สามารถไว้ใจได้ แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะพยากรณ์ว่าฝนจะหยุดตกแล้ว และต้องระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำช่วงปลายน้ำ จากจุดนี้ น้ำมาเร็ว และรุนแรงกว่าทุกปี นายกฯ เสนอด้วยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการให้การเตือนภัย</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="868" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FThavisin.Official%2Fposts%2Fpfbid0h5VFDsnKh2ApD7Wqe8jcRBrh4aH8Dhd4bZqwk8mfjd5y9zhmLh9ezmww4XLJmX85l&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>ไทยพีบีเอส รายงานต่อว่า นายกรัฐมนตรี ได้ไปเยี่ยมประชาชนอีกจุดหนึ่งไป ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ ภายในหอประชุมที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อให้กำลังใจประชาชนกว่า 200 คน ซึ่งนายกฯ ได้พูดคุยกับประชาชน มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ และรับปากจะดูแลอย่างเต็มที่</p>
<p>“ขอให้พี่น้องระมัดระวังต่อไป ตอนนี้ยังไม่เป็นช่วงเวลาปลอดภัยนัก ขอให้รับฟังการเตือนภัยจากกรมอุตุฯ ให้ดี ระหว่างนี้ทางกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข หน่วยปกครองทั้งหมดจะช่วยดูแลและเยียวยา ขอขอบคุณหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานที่มาช่วยดูแล กองทัพมาทำครัวเคลื่อนที่ก็ช่วยบรรเทาได้มาก” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย</p>
<p>เฟซบุ๊ก 'ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย' โพสต์วานนี้ (25 ธ.ค.) ว่า สถานีรถไฟที่วิ่งจากสุไหงโกลกไปยังสถานีรถไฟอื่นๆ ทั้งขาขึ้นและขาล่องรวม 14 ขบวน ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาดที่บ้านกำปงปาเระ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังจากถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนตอม่อสะพานทรุดตัว </p>
<p>ส่วนผู้ใช้บริการรถด่วน-รถเร็วขบวนสุไหงโกลก ปลายทางสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ จะให้บริการต้นทาง-ปลายทางที่สถานีรถไฟยะลา จากนั้น จะขนถ่ายผู้โดยสารด้วยรถยนต์ไปที่รถไฟขบวนท้องถิ่น โดยจะวิ่งต้นทางและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟยะลาเท่านั้น </p>
<p>นอกจากนี้ การรถไฟแจ้งปรับสถานีต้นทาง-ปลายทาง ของขบวนรถไฟสายใต้ 12 ขบวน และงดเดินรถ 2 ขบวนตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ชั่วคราว และสำหรับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ถ้าไม่ประสงค์เดินทาง และต้องการเงินค่าตั๋วคืน สามารถทำเรื่องขอเงินคืนที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ และก็ขอเงินคืนได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1690 ตลอด 24 ชั่วโมง </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="807" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpr.railway%2Fposts%2Fpfbid0XD7mwhDW76SVXPJgyBCdy3GbES4aDd9M5zxgEuX4827S7xTYvpVWfdz6Rd563ujkl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107394
 
2926  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "แจง" ภรรยา "แจ๊ส ชวนชื่น" ชี้แจงทั้งน้ำตา ปมถูกดราม่าทอดทิ้งแม่แท้ๆ เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 22:13:56
"แจง" ภรรยา "แจ๊ส ชวนชื่น" ชี้แจงทั้งน้ำตา ปมถูกดราม่าทอดทิ้งแม่แท้ๆ
         


&quot;แจง&quot; ภรรยา &quot;แจ๊ส ชวนชื่น&quot; ชี้แจงทั้งน้ำตา ปมถูกดราม่าทอดทิ้งแม่แท้ๆ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;แจง ปุณณาสา ภรรยาตลกชื่อดัง แจ๊ส ชวนชื่น ได้ออกมาไลฟ์ชี้แจงทั้งน้ำ หลังเจอบุคคลปริศนาคอมเมนต์เนรคุณทอดทิ้งแม่แท้ๆ

         

https://www.sanook.com/news/9156970/
         
2927  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 ร่วมถก 'ก้าวต่อไปหลักประกันสุขภาพไทย ยั่ง เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 21:01:28
เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 ร่วมถก 'ก้าวต่อไปหลักประกันสุขภาพไทย ยั่งยืนหรือย่ำแย่'
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 17:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก/ภาพประกอบ: ทีมสื่อ สปสช.</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นพ. 'ฉันชาย' ย้ำ เทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงคุ้มค่าหากทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ เผย รพ.จุฬาฯ จับมือ สปสช. คัดกรองผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง เข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง ด้านที่ปรึกษาสมาคม รพ.เอกชน ระบุต้องสร้างความยั่งยืนให้ระบบด้วยการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกัน กรรมการ บอร์ด สปสช. ชี้อนาคตของของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าขึ้นอยู่กับรัฐบาลและ สปสช. บริหารจัดการ</p>
<p> </p>
<p>26 ธ.ค. 2566 ทีมสื่อ สปสช. รายงานวันนี้ (26 ธ.ค.) ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ คณะกรรมการจัดประชุมวิชาการระดับชาติหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้อมด้วยมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมจัดการประชุมข้างเคียง (Side meeting) ในเวทีประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 หัวข้อ "ก้าวต่อไปหลักประกันสุขภาพไทย ยั่งยืนหรือย่ำแย่" </p>
<p>โดยมีสมาชิกสมัชชาสุขภาพจากหลายภาคีเครือข่ายที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประชุม รวมถึงบุคคลสำคัญจากหลากหลายหน่วยงาน อาทิ ไซมา วาเซด (Saima Wazed) ประธานมูลนิธิ Shuchona ประเทศบังกลาเทศ และในฐานะว่าที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO SEARO) นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย และอดีต รมว.สาธารณสุข ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53422060869_b6f585ffc4_b.jpg" /></p>
<p>ดร.นพ.ระพีพงศ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ และในฐานะกรรมการและเลขานุการร่วมจัดประชุมวิชาการระดับชาติหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12-13 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการจัดประชุมระดับชาติหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประเทศไทย ซึ่งมีนักวิจัย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชนเข้าร่วมพูดคุยถึงประเด็นในการพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้อมกับมีแถลงการณ์ 12 ข้อเพื่อให้มีการดำเนินการทันที (Call for action) ร่วมกัน  </p>
<p>ทั้งนี้ การจัดประชุมข้างเคียงในงานประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 จึงเป็นการนำประเด็นจากที่ประชุมระดับชาติหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มาแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมกับสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ และภาคประชาชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม และนำไปต่อยอดปรับปรุงในการขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพในภาพรวมของประเทศ  </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงคุ้มค่าหากทำให้ทุกคนเข้าถึงได้</span></h2>
<p>รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทยช่วยทำให้มีการดูแลรักษาผู้ป่วยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ความท้าทายในอนาคตคือความยั่งยืนในการทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ และได้เป็นผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ในหลายโรงเรียนแพทย์ และยังเป็นสถานพยาบาลระดับตติยภูมิ จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมกับบริบทการบริการรักษาผู้ป่วยในประเทศที่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะส่งผลต่อความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของรัฐบาล หากว่าเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการวิจัย และพบว่ามีความคุ้มค่าทั้งต่อประชาชน และการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว แม้ว่าเทคโนโลยีนั้นอาจมีราคาแพงก็ตาม  </p>
<p>“หากเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความคุ้มค่าและมีความจำเป็นในการช่วยดูแลสุขภาพของคนไทย รวมถึงช่วยในการส่งเสริมป้องกันโรคก็ต้องนำเข้ามาและต้องวางระบบเพื่อให้เกิดการเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันขบคิด” คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ กล่าว  </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53422060844_ebdb770c27_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ฉันชาย สิทธิพันธ์</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สปสช.ทำระบบคัดกรองผู้ป่วยบัตรทองที่ต้องรักษาด้วยเทคฯ ขั้นสูงส่งต่อที่ รพ.จุฬา </span></h2>
<p>รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวต่อว่า สำหรับอนาคตโรงเรียนแพทย์เองต้องปรับตัวในการสอนนักศึกษาแพทย์ เพื่อให้ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม และตรงกับเป้าหมายการใช้ประโยชน์คือประชาชน ไม่ใช่เทคโนโลยีที่มีไว้เพื่อการอื่น หรือประโยชน์อื่นใด อีกทั้งบทบาทของโรงเรียนแพทย์ที่มีเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ นวัตกรรมการแพทย์ระดับสูงก็อาจต้องปรับตัว เพื่อใช้เทคโนโลยีนั้นกับผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท ซึ่งขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ ประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อคัดกรองผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงส่งต่อมายังมีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ได้ใช้เทคโนโลยีนั้นในการรักษาตัว โดย สปสช. จะจ่ายค่ารักษาตามสิทธิให้  </p>
<p>"เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่เราอยากผลักดันให้มีการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์มากขึ้น ในเมื่อโรงเรียนแพทย์มีเทคโนโลยี สปสช. ก็มีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ต้องการรักษาอย่างเร่งด่วนตามสิทธิประโยชน์ ก็จะส่งต่อมารักษา และโรงเรียนแพทย์ก็จะเบิกค่าใช้จ่ายกับ สปสช. แต่ประเด็นสำคัญ คือจะทำอย่างไรให้เทคโนโลยีที่ว่านี้เข้าไปถึงคนจำนวนมากได้ ก็อาจเป็นความท้าทายที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพิจารณา" รศ.นพ.ฉันชาย กล่าว  </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เสนอตั้ง 'คณะกรรมการส่งเสริมป้องกันโรค' เน้นยุทธศาสตร์ป้องกันโรค</span></h2>
<p>ด้าน นพ.สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า การพัฒนาระบบบริการเพื่อให้เกิดความยั่งยืนกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในอนาคต จะต้องคำนึงว่า ปัจจุบันมีการส่งเสริมป้องกันโรคที่ดีแล้วหรือยัง เพราะหากมีการส่งเสริมป้องกันโรคได้ดี ก็จะส่งผลให้ประชาชนไม่เป็นโรค โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ซึ่งเมื่อจำนวนผู้ป่วยลดลง และไม่มีผู้ป่วยหน้าใหม่ ก็จะส่งผลดีต่อทั้งระบบบริการสุขภาพและการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพของประเทศ ซึ่งจะเป็นความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพได้ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53420821742_b27aec413b_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์</span></p>
<p>นพ.สุรพล ระบุต่อว่า หากเป็นไปได้อยากให้มีคณะกรรมการส่งเสริมป้องกันโรค เหมือนกับที่มีคณะกรรมการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ทางสุขภาพ เพื่อมาทำงานและวางแผนการส่งเสริมป้องกันโรคโดยเฉพาะ</p>
<p>นพ.สุรพล กล่าวเสริมอีกว่า การสร้างองค์ความรู้ให้กับภาคประชาชนก็มีความสำคัญเช่นกัน แต่การสร้างองค์ความรู้อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ภาครัฐ อาจต้องสร้างระบบ หรือกลไกที่ให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้ โดยเฉพาะกับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ดูแลตัวเองได้ ซึ่งจะช่วยทั้งระบบสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ให้บริการที่ภาระงานจะลดลง</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">รับมือโจทย์สังคมผู้สูงวัย</span></h2>
<p>ขณะที่ ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช กรรมการบริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนทุกคน และมีการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมและเพียงพอ แต่ด้วยปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุ ที่จะมีจำนวนคนสูงวัยเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ยังป่วยด้วยโรค NCD ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย ในอนาคตก็อาจมีผลกระทบต่อการจัดงบประมาณเพื่อดูแลประชาชนได้เช่นกัน ทั้งนี้เมื่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น งบประมาณก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ที่ผ่านมาเราพบว่าหลายพื้นที่ใช้งบประมาณส่วนนี้ไม่หมด หรืออาจติดขัดกระบวนการต่างๆ ในการนำงบประมาณไปขับเคลื่อนส่งเสริมป้องกันโรค ซึ่งอาจมีผลต่อการพิจารณาจัดสรรงบประมาณได้  </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53421743671_3bde5e7502_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ปรีชา พันธุ์ติเวช</span></p>
<p>"ในระยะยาว หากว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่เงินไม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเพราะที่ผ่านมาเราใช้เงินส่วนนี้ไม่คุ้มค่า ก็อาจทำให้การดูแลผู้ป่วยไม่ครอบคลุม ไม่ทั่วถึง" ภก.ปรีชา กล่าว  </p>
<p>ภก.ปรีชา กล่าวอีกว่า ในเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะเชื่อมโยงมายังหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ และอาจบอกได้ว่าจะมีความยั่งยืนได้หรือไม่ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของทั้งรัฐบาลและ สปสช. ด้วยเช่นกันที่จะบริหารจัดการอย่างไรสำหรับอนาคต รวมถึงการจัดสรรงบประมาณกรณีที่เกิดโรคอุบัติใหม่ที่ต้องไม่กระทบการงานด้านอื่นๆ เหมือนกับเหตุการณ์โควิด -19 ที่งานส่วนอื่นๆ ก็อาจได้รับผลกระทบเพราะงบประมาณถูกเกลี่ยไปจัดการโรคอุบัติใหม่ก่อน  </p>
<p>"ตอนนี้อาจยังตอบไม่ได้ว่าหลักประกันสุขภาพจะยั่งยืนหรือย่ำแย่ แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลและความคิดเห็นจากการระดมสมองที่พวกเรามาแลกเปลี่ยนกันจะช่วยพัฒนาระบบให้ยอดเยี่ยมตามจังหวะการก้าวเดินได้แน่นอน" ภก.ปรีชา กล่าวในตอนท้าย  </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107392
 
2928  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - ประวัติ "ถวิล เปลี่ยนศรี" อดีตเลขาธิการ สมช. กับคดีที่ทำ "ยิ่งลักษณ์" พ้นเก้ เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 20:55:39
ประวัติ "ถวิล เปลี่ยนศรี" อดีตเลขาธิการ สมช. กับคดีที่ทำ "ยิ่งลักษณ์" พ้นเก้าอี้นายกฯ
         


ประวัติ &quot;ถวิล เปลี่ยนศรี&quot; อดีตเลขาธิการ สมช. กับคดีที่ทำ &quot;ยิ่งลักษณ์&quot; พ้นเก้าอี้นายกฯ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;รู้จัก "ถวิล เปลี่ยนศรี" อดีตเลขาธิการ สมช. กับคดีที่ทำ "ยิ่งลักษณ์" พ้นเก้าอี้นายกฯ ล่าสุดศาลยกฟ้อง พร้อมเพิกถอนหมายจับยิ่งลักษณ์
         

https://www.sanook.com/news/9156926/
         
2929  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - หนุ่มซื้อบ้านมือสอง ราคา 3 แสน ตะลึงเจอขุมทรัพย์ เจ้าของเก่าซ่อนสมบัตินับสิบล้า เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 19:43:00
หนุ่มซื้อบ้านมือสอง ราคา 3 แสน ตะลึงเจอขุมทรัพย์ เจ้าของเก่าซ่อนสมบัตินับสิบล้าน
         


หนุ่มซื้อบ้านมือสอง ราคา 3 แสน ตะลึงเจอขุมทรัพย์ เจ้าของเก่าซ่อนสมบัตินับสิบล้าน" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;หนุ่มซื้อบ้านมือสอง ราคา 3 แสน ตะลึง เจอขุมทรัพย์นับสิบล้าน ที่เจ้าของเก่าทิ้งไว้ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
         

https://www.sanook.com/news/9156954/
         
2930  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ‘iLaw’ เตือนคำถามประชามติที่มีปัญหาคนอาจโหวต No - ต้องเปิดกว้างไว้แล้วให้ประชาชนเ เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 19:31:15
‘iLaw’ เตือนคำถามประชามติที่มีปัญหาคนอาจโหวต No - ต้องเปิดกว้างไว้แล้วให้ประชาชนเลือก สสร.ที่อยากได้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 17:57</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>แฟ้มภาพ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>"รัชพงษ์" จากไอลอว์ชี้ปัญหาคำถามประชามติของคณะกรรมการศึกษาแนวทางประชามติฯ ว่าอาจทำให้คนไปโหวตโน และคำถามก็ไม่สะท้อนว่าถ้าโหวตโนแล้วตกลงว่าคนไม่เห็นด้วยเรื่องไม่แก้หมวด 1-2 หรือไม่อยากร่าง รธน.ใหม่ แนะ ครม.ออกคำถามที่เปิดกว้างแล้วให้ประชาชนไปเลือก สสร.ที่แบบที่อยากได้</p>
<p>26 ธ.ค.2566 จากกรณีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติออกความเห็นเรื่องคำถามประชามติมาคำถามเดียวว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ให้มีการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่แก้ไข หมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์” ซึ่งประเด็นไม่แก้หมวด 1 และ 2 ทางคณะกรรมการฯ แสดงชัดเจนแต่แรกว่าจะไม่มีการแก้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และวันนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ได้กล่าวถึงคำถามประชามติของคณะกรรมการว่าต้องการทำให้การร่างรัฐธรรมนูญใหม่เกิดขึ้นได้ โดยไม่สร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ และการออกคำถามมานี้ได้รับฟังความเห็นจากหลายส่วนแล้วโดยจะส่งความเห็นที่รับฟังมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป </p>
<div class="more-story">
<p>'ภูมิธรรม' แถลงถามประชามติ 3 ครั้ง เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 เตรียมเสนอ ครม. ม.ค. 67</p>
</div>
<p>ประชาไทได้สัมภาษณ์ รัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล จากไอลอว์ ซึ่งทางคณะกรรมการประชามติฯ ได้เชิญให้ความเห็นต่อการออกคำถามประชามติด้วยกล่าวถึงการให้ความเห็นกับทางคณะกรรมการว่าฯ ไอลอว์ได้รับเชิญไปให้ความเห็นด้วยโดยได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าการตั้งคําถามแบบที่ออกมานี้จะไม่เป็นผลดีเลยและผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ที่มาในครั้งเดียวกันก็เห็นทิศทางเดียวกันว่าคําถามประชามติควรจะเปิดกว้างที่สุดและอย่าไปล็อคไว้ก่อน  </p>
<p>ตัวแทนจากไอลอว์กล่าวต่อว่า ตนก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ภูมิธรรมกล่าวว่าเสียงส่วนใหญ่ที่มาให้ความเห็นกับคณะกรรมการฯ นั้นเห็นด้วยกับคำถามประชามติของคณะกรรมการฯ นั้นจริงเท็จอย่างไรและคนส่วนใหญ่ที่ว่านั้นเป็นใครบ้าง แต่ตนก็หวังว่าทางคณะกรรมการจะมีการเปิดเผยรายงานการรับฟังความเห็นต่อไปเพราะที่ผ่านมาก็ยังไม่มีรายงานออกมาว่าได้มีใครมาแสดงความเห็นบ้าง </p>
<p>ต่อคำถามที่ว่าการที่คณะกรรมการฯ กำหนดให้ไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และ 2 ก็เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหม่นั้น รัชพงษ์กล่าวว่าที่ผ่านมาการที่ภูมิธรรมพูดว่าจะเกิดความขัดแย้งเรื่องหมวด 1 และ 2 นั้นจะเกิดจากใครและไม่เคยลงรายละเอียดว่าใครบ้างที่จะไม่เห็นด้วยหรือต้องการล็อกทั้งสองหมวดนี้ไว้ไม่ให้แก้ไขได้ นอกจาก สว.ที่แสดงท่าทีชัดเจน </p>
<p>“หัวใจหลักของการเขียนว่าแก้ได้ทั้งฉบับและ สสร.มาจากการเลือกตั้งสุดท้ายความขัดแย้งมันก็มี เราไม่มีทางเห็นร่วมกันอยู่แล้วว่า(รัฐธรรมนูญ) จะออกมาหน้าตาเป็นยังไงเพราะก็มีหลายความคิด แต่ว่าเราก็ไปคุยกันในสนามเลือกตั้ง ผมไม่ได้บอกว่าจะแก้ให้หมวด 1 หมวด 2 ผมไม่ได้บอกผมจะไม่แก้ หมวด 1 หมวด 2 ผมไม่มีข้อเสนอด้วยซ้ำว่าจะแก้ยังไง” </p>
<p>รัชพงษ์อธิบายว่า เรื่องหมวด 1 หมวด 2 นี้สุดท้ายคนที่อยากแก้และคนที่ไม่อยากแก้ก็ไปหาเสียงกันในฐานะ สสร.แล้วก็ให้คนไปโหวตเลือก สสร.ที่อยากได้ ไปวัดกันในสนามเลือกตั้ง แต่อย่ามาล็อคไว้ก่อนหรือสร้างเงื่อนไขไว้ก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นเงื่อนไขของคนที่ออกไปโหวตซึ่งจะไม่เป็นผลดีอยู่แล้วกับทั้งประชาชนและก็รัฐบาล </p>
<p>ส่วนประเด็นเรื่องที่ก่อนหน้านี้มีข้อห่วงกังวลกันว่า คำถามประชามติอาจจะมีการล็อกเรื่องอื่นๆ ไว้อีกเช่น เรื่องอำนาจ สว.หรือยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยแต่ทางคณะกรรมการฯ ก็ล็อกไว้เพียงเรื่องหมวด 1 หมวด 2 นี้ รัชพงษ์เห็นว่ายังไม่ได้มีอะไรชัดเจนว่ารัฐบาลจะไม่ล็อกเรื่องอื่นๆ ไม่ให้แก้อีกเพราะคำถามประชามติที่ออกมานี้ยังเป็นเพียงคำถามในการทำประชามติครั้งแรกเท่านั้น หลังจากการทำประชามติครั้งแรกไปแล้วก็ยังต้องกลับเข้าไปที่รัฐสภาที่ยังมี สว.อยู่ ก็ยังไม่รู้ว่า สว.ในชั้นกรรมาธิการจะมีการใส่เงื่อนไขอะไรลงไปอีกบ้างในการเลือก สสร.ที่จะต้องกำหนดเรื่องที่มาและอำนาจไว้  </p>
<p>“สิ่งที่เราบอกมาตลอดว่าจะป้องกันเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือการตั้งไปเลยว่าเขียนใหม่ได้ทั้งฉบับ สสร.มาจากการเลือกตั้ง แบบนี้ สว.ก็จะทำอะไรไม่ได้มากแล้วเพราะเหมือนเรามัดมือเขา แทนที่รัฐบาลจะมามัดมือเรา เราไปมัดมือเขาว่าอย่าไปใส่เงื่อนไขอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรแล้วปล่อยให้ สสร.จากประชาชนจัดการไป มันเปิดกว้างเลยไม่ใช่แค่เรื่องหมวด 1 หมวด 2 มันหมายถึงอย่างอื่นก็ยังเป็นไปได้อยู่” </p>
<p>ตัวแทนจากไอลอว์กล่าวต่อถึงประเด็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญยกเรื่องอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนจึงต้องทำประชามติว่า เรื่องทั้งหมดนี้อยู่ที่ว่าจะตีความคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญอย่างไรที่จะทำให้ต้องเกิดการทำประชามติสองหรือสามครั้ง แต่ทางไอลอว์ก็ยืนยันตลอดว่าสามารถทำประชามติแค่สองครั้งก็ได้ถ้าครั้งแรกมีปัญหาก็ไม่ต้องทำก็ได้ แต่ทางพรรคเพื่อไทยเองก็กลัวว่า สว.จะไม่โหวตให้เพราะยกเรื่องนี้มาอ้างตลอดในการคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงปลายเดือนธันวาคมแล้วกว่า ครม.จะมีมติออกมาก็ประมาณไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ สว.ก็กำลังจะหมดอายุแล้ว ถ้าคำถามประชามติเป็นปัญหาขนาดนั้นก็อาจจะไม่ต้องทำประชามติก็ได้ แล้วรอให้ สว.หมดอายุไปเองก็ได้  </p>
<p>รัชพงษ์กล่าวว่าเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็เหมือนกับว่าไม่ได้มีประชาชนในสมการเลย เมื่อศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนดังนั้นก็อย่าไปตั้งเงื่อนไขล็อกไว้ก่อน </p>
<p>ตัวแทนจากไอลอว์กล่าวถึงแนวทางหลังจากนี้ว่า สถานการณ์ยังไม่จบเพราะตอนนี้ยังเป็นเพียงความเห็นของคณะกรรมการศึกษาแนวทางประชามติฯ ที่มีหน้าที่แค่ศึกษาเท่านั้นแม้จะมีผลสรุปออกมาแล้วก็ไม่ได้หมายความว่า ครม.จะต้องทําตามข้อสรุปของคณะกรรมการ เมื่อผลจากคณะกรรมการฯ ออกมาแบบนี้แล้วสังคมมีการถกเถียงกันมากแล้วก็มีโอกาสที่คนจะออกไปโหวตไม่รับ ดังนั้นแล้วอำนาจตัดสินใจความรับผิดชอบทุกอย่างอยู่ที่คณะรัฐมนตรีที่มีเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสุดท้ายแล้วนายกฯ จะเอาตามคณะกรรมการหรือแบบอื่นเพราะเห็นแล้วว่าถ้าไปต่อตามข้อสรุปของคณะกรรมการไม่ได้แล้วเพราะอาจจะพัง ความรับผิดชอบสุดท้ายแล้วก็อยู่กับนายกฯ อยู่ดี ก็ต้องติดตามกันต่อไป </p>
<p>ทั้งนี้เมื่อถามต่อหากเกิดการทำประชามติตามคำถามที่ออกมาจากคณะกรรมการฯ แล้วคนโหวตไม่เห็นด้วยมากกว่าอาจจะทำให้ถูกเอาไปตีความไปว่าประชาชนไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ รัชพงษ์ตอบประเด็นนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีทางรู้ได้เลย เพราะเป็นปัญหาของการตั้งคำถามแบบนี้ ดังนั้นคำถามที่มีปัญหาจะทำให้เกิดปัญหาตามมา และเขาก็ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น แต่ตอนนี้คำถามประชามติยังไม่ได้ออกมาอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ทางรัฐบาลจะมีเป้าหมายอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่ได้เป็นทางการ ยังเหลือช่องทางและเวลาให้ต้องกดดันรัฐบาลต่อ </p>
<p>“เมื่อไหร่ที่คุณเศรษฐาเซนไปแล้วว่าเอาคำถามแบบนี้ความรับผิดชอบก็จะอยู่บนบ่าของเขาทันที แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นมาคุณเศรษฐาจะต้องรับผิดชอบอย่างไร อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้องถามหาเหมือนกัน” </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107393
 
2931  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง-ถอนหมายจับ คดี 'ยิ่งลักษณ์' ย้าย 'ถวิล เปลี่ยนศรี' พ้น สมช. เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 18:00:54
ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง-ถอนหมายจับ คดี 'ยิ่งลักษณ์' ย้าย 'ถวิล เปลี่ยนศรี' พ้น สมช.
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 17:01</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง และถอนหมายจับ ม.157 คดีอดีตนายกฯ 'ยิ่งลักษณ์' ย้าย 'ถวิล เปลี่ยนศรี' จากเลขาฯ สมช. ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ โดยมิชอบ ชี้ไม่ได้มีเจตนาทุจริต </p>
<p> </p>
<p>26 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ กรุงเทพธุรกิจ บีบีซีไทย ไทยพีบีเอส และ The Reporters รายงานวันนี้ (26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อม.11/2565 ที่มีอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 กรณีโอนย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/4300/35910856570_606a422f5d_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร</span></p>
<p>วันนี้ ยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2558 และไม่ได้มาตามนัดศาลครั้งแรกเมื่อปี 2565 ได้ส่ง นรวิชญ์ หล้าแหล่ง และ วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายจำเลย เป็นตัวแทนรับฟังคำพิพากษา </p>
<p>สำหรับศาลฎีกาฯ นี้ถือเป็นการอ่านคำพิพากษาศาลที่ 3 หลังจากก่อนหน้านี้ มีคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยิ่งลักษณ์ พ้นจากการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากใช้ตำแหน่งแทรกแซงโยกย้าย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บุคคลในครอบครัว ถือเป็นการกระทำทุจริต เช่นเดียวกับศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศแต่งตั้งโยกย้ายถวิล เพราะเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ไม่มีเจตนาพิเศษ' ยกฟ้อง-ถอนหมายจับ ม.157</span></h2>
<p>ศาลพิเคราะห์แล้วให้ยกฟ้อง และเพิกถอนหมายจับในข้อหาตามมาตรา 157 โดยศาลได้ไต่สวน และใช้ดุลยพินิจแล้วชี้ว่า ในคำร้องดังกล่าวเป็นคนละประเด็นกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พิพากษาของศาลปกครองและคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จึงไม่มีผลผูกพันกัน</p>
<p>นอกจากนี้ ตุลาการเสียงข้างมาก พิเคราะห์ว่า ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายถวิล “ไม่ได้มีเจตนาพิเศษ” ที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดให้ถวิล หรือมีเจตนาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต </p>
<p>โดยพยานหลักฐานจากการไต่สวนได้ความว่า ในทางปฏิบัติที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาโยกย้ายตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำแตกต่างจากกรณีข้าราชการอื่นทั่วไป ประกอบกับจำเลยมิได้มีสาเหตุขัดแย้งอันใดกับนายถวิลเป็นการส่วนตัว อันจะเป็นมูลเหตุจูงใจให้จำเลยประสงค์ที่จะกลั่นแกล้งนายถวิลแต่อย่างใด</p>
<p>"การกระทำของจำเลยในส่วนนี้ย่อมไม่อาจนำมารับฟังว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตเพื่อประโยชน์ของ พล.ต.อ. พ. จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามฟ้องพิพากษายกฟ้อง เเละให้ถอนหมายจับคดีนี้" คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ระบุตอนหนึ่ง</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/8537/8746265237_f43f3ab328_c.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ถวิล เปลี่ยนศรี</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ย้อนรอยคดีย้ายเลขาฯ สมช.</span></h2>
<p>สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 30 ก.ย. 2554 ยิ่งลักษณ์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งให้ ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และเมื่อ 4 ต.ค. ในปีเดียวกัน คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ดำรงตำแหน่งเลขาฯ สมช. แทนถวิล เป็นเหตุให้ต่อมา ถวิล ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว</p>
<p>ต่อมา เมื่อ 19 ต.ค. 2554 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) มีมติเห็นชอบให้ พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น และมีกำหนดเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. 2555 ขึ้นเป็น ผบ.ตร. แทนวิเชียร โดยมียิ่งลักษณ์ เป็นผู้เสนอ</p>
<p>ทั้งนี้ บีบีซีไทย ให้ข้อมูลด้วยว่า ในด้านความสัมพันธ์กับตระกูลชินวัตร เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็นพี่ชายของพจมาน ณ ป้อมเพชร (เดิมนามสกุล ดามาพงศ์) อดีตภรรยาของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และมีศักดิ์เป็นพี่ชายของอดีตพี่สะใภ้ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร </p>
<p>20 ก.พ. 2557 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศแต่งตั้งโยกย้ายถวิล โดยชี้ว่า "เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" คดีนี้มีถวิล เป็นผู้ร้องต่อศาลปกครอง </p>
<p>ต่อมา 7 พ.ค. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ความเป็นรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 182 วรรค 1 (7) ประกอบมาตรา 268 จากกรณีใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เครือญาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะซ่อนเร้น และเป็นการกระทำทุจริต โดยคดีนี้มี ไพบูลย์ นิติตะวัน ปัจจุบันเป็นรองประธานพรรคพลังประชารัฐ สว. และคณะรวม 28 ราย ยื่นคำร้องผ่านประธาน สว. ให้ศาล รธน.วินิจฉัย</p>
<p>ต่อจากนั้น ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ ยิ่งลักษณ์ และส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง</p>
<p>28 ก.พ. 2565 อัยการสูงสุดจึงได้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ และศาลฎีกาฯ มีการออกหมายจับยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเมื่อ 21 พ.ย. 2565 ไม่เดินทางมาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล </p>
<p>นอกจากนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเลื่อนอ่านคำพิพากษามาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก วันที่ 9 พ.ย. 2566 เนื่องจาก 1 ในองค์คณะผู้พิพากษามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และครั้งที่สอง วันที่ 29 พ.ย. 2566 สิทธิศักดิ์ วนะชกิจ อดีตรองประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษาในองค์คณะในคดีฯ ถึงแก่อนิจกรรม โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้เลือกกษิดิศ มงคลศิริภัทรา เป็นองค์คณะผู้พิพากษาแทน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรา 11 เพื่อให้ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นองค์คณะแทนที่มีเวลาเพียงพอ กระทั่งมีคำพิพากษายกฟ้องดังกล่าวในวันนี้</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107391
 
2932  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "ว่าน ธนกฤต" ตอบแล้ว! หลังถูกจับตาความสัมพันธ์ "ฟาง" เลิกกันจริงไหม? เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 17:12:05
"ว่าน ธนกฤต" ตอบแล้ว! หลังถูกจับตาความสัมพันธ์ "ฟาง" เลิกกันจริงไหม?
         


&quot;ว่าน ธนกฤต&quot; ตอบแล้ว! หลังถูกจับตาความสัมพันธ์ &quot;ฟาง&quot; เลิกกันจริงไหม?" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ว่าน ธนกฤต เคลื่อนไหวทันที หลังมีข่าวเลิกรากับแฟนสาว ฟาง ธนันต์ธรญ์
         

https://www.sanook.com/news/9156838/
         
2933  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ข่าวลือข่าวลวงในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล : เป็นข่าวลือเรื่องอะไร กล่าวหาพรรคไหน ป เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 16:28:22
ข่าวลือข่าวลวงในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล : เป็นข่าวลือเรื่องอะไร กล่าวหาพรรคไหน ประเด็นใดมากที่สุด
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 15:40</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน Rocket Media Lab</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<ul>
<li>แม้ ‘ข่าวลือ’ จะยังไม่ถูกจัดเป็นข้อมูลผิดพลาด (misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นจริงหรือเท็จได้ ทั้ง ณ เวลานั้น หรือในเวลาต่อมา แต่หลายข่าวลือกลับมีโครงสร้างการสร้างข่าวที่เทียบเคียงได้กับข้อมูลผิดพลาด (misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) จำนวนมาก</li>
<li>แม้ข่าวลือจะเป็นเรื่อง ‘เกมการเมือง’ มากที่สุด 21 ชิ้น แต่ในช่วงแรกที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นของข่าวลือที่พบมากที่สุดคือ ‘อุดมการณ์ทางการเมือง’ มากถึง 11 ชิ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรคก้าวไกลถูกโจมตีเสมอมา</li>
<li>ช่วงไทม์ไลน์ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล  ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยถูกโจมตีด้วยข่าวลือจะแตกต่างไปจากในช่วงไทม์ไลน์แรกที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และเป็นเรื่องที่มีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งก็คือ เศรษฐา ทวีสิน </li>
<li>การสร้างข่าวลือโดยการปล่อยข่าวนั้นมีมากที่สุด จำนวน 28 ชิ้น โดยมีเป้าประสงค์ในการสร้างความแตกแยกในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำมากที่สุด ถึง 10 ชิ้นด้วยกัน และยังพบว่าใน 10 ชิ้นนี้มีเป้าหมายโจมตีเป็นพรรคเพื่อไทยมากที่สุด</li>
<li>หัวหน้าข่าวการเมือง นสพ.เดลินิวส์ ชี้ทุกข่าวที่ได้มาเป็นข่าวลือ จนกว่าจะตรวจสอบ และในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ความจริงเปลี่ยนไว แม้จะคอนเฟิร์ม ณ ตอนนี้ แต่พรุ่งนี้หรืออีกหนึ่งชั่วโมงมันอาจจะเปลี่ยน </li>
<li>นักวิชาการวารสารศาสตร์เสนอวิธีรายงานข่าวลือแบบ ‘แซนด์วิช’ เอาสิ่งที่จริงขึ้นก่อน และตัวเท็จมาอยู่ตรงกลาง เสนอว่าข้อเท็จจริงคือแบบนี้ เพื่อให้อัลกอริทึมจับข้อมูลที่จริง มากกว่าตัวเท็จเวลาคนค้นหาข้อมูล </li>
</ul>
</div>
<p>ผลการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลได้จำนวนที่นั่ง สส. มากเป็นอันดับหนึ่ง และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้พรรคร่วมรัฐบาลชุดแรก 8 พรรค ที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำ โดยมีพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ในกระบวนการก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 นั้น จำต้องได้เสียงโหวตเกินกว่า 376 เสียง ซึ่งรวมไปถึงเสียงโหวตจาก สว. ทั้ง 250 คนด้วย นำมาสู่บทสรุปที่ได้เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในช่วงเวลาดังกล่าวเต็มไปด้วยความพลิกผันทางการเมือง และมีข่าวลือ ข่าวลวง ข้อมูลที่ผิดพลาด บิดเบือน เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตประธานสภาและนายกรัฐมนตรี ทั้งทางตรงและทางอ้อม ถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนไปจนถึงในโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์มเป็นจำนวนมาก</p>
<p>Rocket Media Lab เก็บข้อมูลข่าวลือ ข่าวลวง ข้อมูลที่ผิดพลาด บิดเบือน ที่มีการรายงานในสื่อสารมวลชนและปรากฏในโซเชียลมีเดีย ในช่วงเวลาหลังการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 จนถึงการจัดตั้งรัฐบาล 22 สิงหาคม 2566 เพื่อนำมาวิเคราะห์ให้เห็นปรากฏการณ์ฝุ่นตลบในการรายงานข่าวของสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยข่าวลือข่าวลวงในช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาล </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข่าวลือข่าวลวงมีมากน้อยแค่ไหน ในช่วงก่อนจัดตั้งรัฐบาล</span></h2>
<p>พรรษาสิริ กุหลาบ อาจารย์ประจำภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้คำนิยามคร่าวๆ ของคำว่า “ข่าวลือ” โดยอ้างอิงงานศึกษาเรื่อง The Web of False Information: Rumors, Fake News, Hoaxes, Clickbait, and Various Other Shenanigans ว่าหมายถึง “ข้อมูลที่ข้อเท็จจริงยังคลุมเครืออยู่ หรือยังไม่สามารถยืนยันได้ ยังฟันธงไม่ได้ในขณะนั้นว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ” โดยภายใต้กรอบคำนิยามนี้ Rocket Media Lab ได้เก็บรวบรวมการรายงานข่าวที่ถือว่าเป็นข่าวลือ ข่าวลวง ข้อมูลที่ผิดพลาด บิดเบือน  ที่มีการรายงานในสื่อสารมวลชนและปรากฏในโซเชียลมีเดีย ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่หลังวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566  จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่มีการโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรี จำนวนทั้งหมด 70 ชิ้น พบว่า เป็นข่าวลือที่มุ่งตรงไปยังองค์กรต่างๆ ซึ่งส่วนมากเป็นพรรคการเมือง โดยแยกได้ดังนี้ </p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53421601236_5eca71ba3e_b.jpg" /></p>
<p>จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า 2 พรรคการเมืองที่ได้ที่นั่ง สส. มาเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสอง และเป็นพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันในช่วงแรก ต่างเป็นพรรคการเมืองที่มีข่าวลือที่มุ่งตรงไปยังตัวพรรคมากที่สุด โดยพรรคก้าวไกลมีมากถึง 24 ชิ้น พรรคเพื่อไทยมี 23 ชิ้น แต่ถ้านับรวมข่าวลือที่เกี่ยวพัน 2 พรรคการเมืองใน 1 ข่าว ซึ่งมีทั้ง เพื่อไทย/พลังประชารัฐ และ เพื่อไทย/ก้าวไกล ก็จะพบว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีข่าวลือเกี่ยวพันกับพรรคมากที่สุดในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา รองลงมาก็คือพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ </p>
<p>นอกจากนี้ยังพบข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอื่นๆ ที่ไม่ใช่พรรคการเมืองอีกเช่น กกต. อย่างเช่นข่าวลือว่า คะแนนผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี มีจำนวนมากกว่าจำนวนผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือองค์กรเอกชนอย่าง  บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีข่าวลือว่า ทรูตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือพิธา ซึ่งต่อมา ทรูปฏิเสธข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กรณีนี้น่าจะสืบเนื่องจากกรณีที่มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดการให้สัมภาษณ์ของพิธาในรายการของ BBC ไม่เพียงแค่นั้นในบางข่าวอาจจะไม่ใช่ข่าวลือของพรรคการเมืองเดี่ยวๆ แต่เป็นกลุ่มพรรคการเมืองที่ถูกนิยามว่า ‘ขั้วอำนาจเก่า’ อันหมายถึงพรรคการเมืองที่เคยเป็นรัฐบาลในสมัยที่ผ่านมา เช่นข่าวขั้วอำนาจเก่าเตรียมจับมือพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล </p>
<p>ดังนั้น หากมองในแง่ที่ว่าข่าวลือเป็นเหมือนอาวุธทางการเมืองรูปแบบหนึ่ง อาวุธในครั้งนี้จึงถูกนำมาใช้กับ 2 พรรคการเมืองหลักที่ผลัดกันขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข่าวลือเป็นเรื่องอะไร </span></h2>
<p><span style="color:#2980b9;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53422026660_836ce0ae67_b.jpg" /></span></p>
<p>จากนั้นเมื่อนำเอาข่าวลือทั้ง 70 ชิ้น มาวิเคราะห์เนื้อหาและแยกประเภทว่าเนื้อหาของข่าวมุ่งกล่าวหาในประเด็นอะไร สามารถแยกออกได้เป็น 10 ประเด็นดังนี้ </p>
<ul>
<li>เกมการเมือง 21 ชิ้น</li>
<li>อุดมการณ์ทางการเมือง 13 ชิ้น </li>
<li>หักหลัง 10 ชิ้น </li>
<li>ไม่เหมาะสม 9 ชิ้น </li>
<li>ความขัดแย้งในพรรค 4 ชิ้น </li>
<li>ขาดคุณสมบัติ 3 ชิ้น </li>
<li>ซื้อเสียง 3 ชิ้น </li>
<li>ไม่โปร่งใส 3 ชิ้น </li>
<li>ด้อยค่า 2 ชิ้น</li>
<li>ผิดคำพูด 2 ชิ้น </li>
</ul>
<p>จากข้อมูล แม้จะเห็นได้ว่าข่าวลือที่มีประเด็นในการกล่าวหาว่าเป็น ‘เกมการเมือง’ มีมากที่สุดถึง 21 ชิ้น แต่เมื่อนำเอาข่าวลือทั้ง 70 ชิ้น มาแยกตามไทม์ไลน์โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงระยะเวลา เพื่อให้เห็นบริบทที่แวดล้อมว่าเหตุใดถึงมีข่าวลือเรื่องนั้นๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็คือ 1. ช่วงการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ 2. ช่วงการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำภายใต้ MOU 8 พรรค 3. ช่วงการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะทำให้เห็นความน่าสนใจของประเด็นของข่าวลือเพิ่มเติมด้วย</p>
<p>ในช่วงแรกที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นของข่าวลือที่พบมากที่สุดกลับไม่ใช่เรื่อง ‘เกมการเมือง’ แต่เป็น ‘อุดมการณ์ทางการเมือง’ มากถึง 11 ชิ้น และใน 11 ชิ้นนี้เป็นข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกลโดยตรงถึง 9 ชิ้น เช่น เป็นการกล่าวหาถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล ทั้งเรื่องการจะให้สหรัฐฯ มาตั้งฐานทัพ มีการทำประชามติแบ่งแยกดินแดน หรือมีนโยบายขับแรงงานกัมพูชาออกนอกประเทศ ในขณะที่อีก 2 ชิ้นแม้จะไม่ได้มุ่งตรงไปยังพรรคก้าวไกล แต่ก็มีความเกี่ยวเนื่องกัน เช่น ข่าวลือทรูตัดสัญญาณมือถือพิธา หรือข่าวลือ มีชัยให้ สว. ที่โหวตพิธาต้องรักษาชาติก่อนประชาธิปไตย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าข่าวลือในช่วงแรกที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้นมุ่งตรงไปยังประเด็นที่พรรคก้าวไกลถูกโจมตีเสมอมาในเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมือง </p>
<p>รองลงมาซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าเพียง 1 ชิ้นก็คือ ‘หักหลัง’ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง 8 ชิ้น เช่น กระแสข่าวดีลลับในการจับขั้วรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคก้าวไกล ในขณะที่อีก 2 ชิ้น แม้เนื้อหาไม่ได้พุ่งตรงไปยังพรรคเพื่อไทย แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เช่น ข่าวพรรคพลังประชารัฐจะยุบเพื่อไปรวมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล </p>
<p>จะเห็นได้ว่าในช่วงแรกนี้ การที่ข่าวลือในประเด็นเรื่อง ‘อุดมการณ์ทางการเมือง’ ซึ่งมุ่งตรงไปยังพรรคก้าวไกลมีมากที่สุดก็เพราะว่ามีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคในการเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ในขณะเดียวกันข่าวลือในประเด็นเรื่อง ‘หักหลัง’ ที่มีมากเป็นอันดับสองในจำนวนที่ใกล้กัน ซึ่งมุ่งตรงไปยังพรรคเพื่อไทยมากที่สุดโดยมีเป้าประสงค์เพื่อสร้างความแตกแยกในการจัดตั้งรัฐบาล </p>
<p>จากนั้นเมื่อมาพิจารณาดูในช่วงไทม์ไลน์ที่สองที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ MOU 8 พรรค จะพบว่าประเด็นข่าวลือที่มีมากที่สุดก็คือ ‘เกมการเมือง’ มีจำนวน 8 ชิ้น ซึ่งมีเนื้อหามุ่งตรงไปยังพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล และประชาธิปัตย์ อย่างละ 2 ชิ้นเท่าๆ กัน</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53421601256_8b13e91a6d_b.jpg" /></p>
<p>และในช่วงไทม์ไลน์สุดท้าย ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะพบว่า ประเด็นที่มีมากที่สุดคือ ‘ความไม่เหมาะสม’ มีจำนวน 6 ชิ้น ซึ่งหมายถึงความไม่เหมาะสมในด้านคุณสมบัติ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งตรงไปยังเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ดังเช่นข่าวที่ชูวิทย์ออกมาระบุถึงความไม่ชอบมาพากลในการซื้อขายที่ดินของแสนสิริขณะอยู่ภายใต้การบริหารของเศรษฐา ในขณะที่  ‘เกมการเมือง’  นั้นตามมาอันดับสอง มีจำนวน 5 ชิ้น  ซึ่งเนื้อหามุ่งตรงไปยังพรรคพลังประชารัฐและก้าวไกล ฝ่ายละ 2 ชิ้นเท่ากัน</p>
<p>จะเห็นได้ว่าในช่วงไทม์ไลน์ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล  ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยถูกโจมตีด้วยข่าวลือจะแตกต่างไปจากในช่วงไทม์ไลน์แรกที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และเป็นเรื่องที่มีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งก็คือ เศรษฐา ทวีสิน แตกต่างจากไทม์ไลน์แรกที่ข่าวลือโจมตีไปที่อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกลเป็นหลัก</p>
<p>จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ข่าวลือที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสะเปะสะปะ  แต่กลับมีลักษณะเฉพาะเจาะจงเพื่อเป้าประสงค์ที่สอดคล้องกับบริบทของช่วงเวลาทางการเมืองอย่างชัดเจน เช่น ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะถูกโจมตีด้วยข่าวลือในเรื่องหนึ่งซ้ำๆ ในขณะที่เมื่อพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ประเด็นในการโจมตีจากข่าวลือก็จะเปลี่ยนไปสู่อีกประเด็นที่ส่งผลต่อการเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลแทน</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข่าวลือสร้างขึ้นมาอย่างไร และสร้างผลกระทบอย่างไร</span></h2>
<p>จากนั้นเมื่อนำข่าวลือข่าวลวง ข้อมูลที่ผิดพลาด บิดเบือน ทั้ง 70 ชิ้น มาวิเคราะห์โครงสร้าง ว่าข่าวแต่ละข่าวถูกสร้างด้วยวิธีการอย่างไร โดยแยกเป็นการสร้างข่าวลือจากการตัดต่อ สร้างข่าวลือจากการทำให้เข้าใจผิด สร้างข่าวลือจากการปลอมแปลงข้อมูล  สร้างข่าวลือจากการเชื่อมโยงที่ผิดบริบท และสร้างข่าวลือจากการปล่อยข่าว จะพบว่า </p>
<p>จากข้อมูลจะเห็นว่า การสร้างข่าวลือโดยการปล่อยข่าวนั้นมีมากที่สุด จำนวน 28 ชิ้น เช่น พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาล, จะมีการเสนอสุชาติ เป็นประธานสภาฯ นอกจากนี้ยังค้นพบว่า การสร้างข่าวลือโดยการปล่อยข่าว จำนวน 28 ชิ้นนี้ มีเป้าประสงค์ในการสร้างความแตกแยกในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำมากที่สุด ถึง 10 ชิ้นด้วยกัน และยังพบว่าใน 10 ชิ้นนี้มีเป้าหมายโจมตีเป็นพรรคเพื่อไทยมากที่สุด</p>
<p>โครงสร้างการสร้างข่าวลือที่มีมากเป็นอันดับสองก็คือ การสร้างข่าวลือจากการทำให้เข้าใจผิด จำนวน 17 ชิ้น โดยมีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกล/สส.ก้าวไกล มากที่สุดถึง 7 ชิ้น  เช่น พรรคก้าวไกลโทรมาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อโหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถัดมาเป็นการสร้างข่าวลือจากการทำให้เข้าใจผิด จำนวน 12 ชิ้น โดยมีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกล/สส.ก้าวไกลมากที่สุดถึง 7 ชิ้น เช่น ธนาธรปลุกระดมเยาวชนและกลุ่มชาติพันธุ์ภาคใต้ให้กระด้างกระเดื่องต่อรัฐไทย ถัดมาเป็นการสร้างข่าวลือจากข้อมูลที่ผิดบริบท 12 ชิ้น โดยมีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกลมากที่สุด 4 ชิ้น เช่น กรณีก้าวไกลกลับการทำประชามติแบ่งแยกดินแดน</p>
<p>และสุดท้าย การสร้างข่าวลือจากการตัดต่อ 7 ชิ้น โดยมีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกล/สส.ก้าวไกล มากที่สุดถึง 5 ชิ้น เช่น สส.ก้าวไกลนั่งฉี่ริมถนน และการสร้างข่าวลือจากการปลอมแปลงข้อมูล 6 ชิ้น โดยมีเป้าประสงค์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยเท่ากัน อย่างละ 2 ชิ้น เช่น ฮุนเซนบอกว่าก้าวไกลมีนโยบายขับแรงงานกัมพูชา และจาตุรนต์จ่อซบก้าวไกล </p>
<p>นอกจากนี้หากพิจารณาเฉพาะพรรคการเมือง จะพบความน่าสนใจว่า ในบรรดาข่าวลือข่าวลวง ข่าวที่ผิดพลาด บิดเบือนทั้งหมด ข่าวลือที่มุ่งตรงไปยังพรรคเพื่อไทยนั้น มักจะมีโครงสร้างเป็นการปล่อยข่าวมากที่สุด ในขณะที่พรรคก้าวไกลนั้น ข่าวลือมีโครงสร้างที่ชัดเจนทั้งการตัดต่อ และการทำให้เข้าใจผิดมากที่สุด </p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53420678182_7b39d73506_b.jpg" /></p>
<p>และจากข้อมูลทั้งหมดยังทำให้เห็นว่า แม้ ‘ข่าวลือ’ จะยังไม่ถูกจัดเป็นข้อมูลผิดพลาด (misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) เนื่องด้วยอยู่ในสถานะความคลุมเครือ ณ เวลานั้น หรือไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นจริงหรือเท็จได้ ทั้ง ณ เวลานั้น หรือในเวลาต่อมา แต่หลายข่าวลือกลับมีโครงสร้างการสร้างข่าวที่เทียบเคียงได้กับข้อมูลผิดพลาด (misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) จำนวนมาก โดยในการศึกษาครั้งนี้พบว่าข่าวลือที่ไม่สามารถจัดประเภทโครงสร้างในแบบทฤษฎีข้อมูลผิดพลาด (misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) แต่ถูกจัดเป็นการปล่อยข่าวมีเพียง 28 ชิ้นเท่านั้น ขณะที่อีก 42 ชิ้น ที่เหลือ มีโครงสร้างการสร้างข่าวลือที่สามารถใช้ทฤษฎีข้อมูลผิดพลาด (misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) ได้ ทั้งการตัดต่อ การทำให้เข้าใจผิด การปลอมแปลงข้อมูล และการเชื่อมโยงที่ผิดบริบท  </p>
<p>ข่าวลือมายังไง มีอายุยาวนานแค่ไหน </p>
<p>จากข่าวลือข่าวลวงจำนวน 70 ชิ้นในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อนำมาแยกประเภทที่มาของข่าวลือเท่าที่สามารถสืบค้นได้ จะพบว่าสามารถแยกได้เป็น </p>
<ol>
<li>สื่ออ้างรายงานข่าว/กระแสข่าว/แหล่งข่าวพรรค/ข่าวลือ 28 ชิ้น </li>
<li>โซเชียลมีเดียทั้งอินฟลูเอนเซอร์และผู้ใช้ทั่วไป 15 ชิ้น </li>
<li>นักเคลื่อนไหว/นักวิชาการ 14 ชิ้น</li>
<li>นักการเมือง 7 ชิ้น </li>
<li>สื่อมวลชน 6 ชิ้น </li>
</ol>
<p>จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนมากมาจากการที่สื่อรายงานโดยอ้างอิงว่าข่าวนั้นได้มาจาก รายงานข่าว/กระแสข่าว/แหล่งข่าวพรรค/ข่าวลือ เช่น ประวิตร วงษ์สุวรรณ บินไปอังกฤษเจรจาดีลลับจับขั้วแข่งก้าวไกล</p>
<p>รองลงมาก็คือ โซเชียลมีเดียทั้งอินฟลูเอนเซอร์และผู้ใช้ทั่วไป 15 ชิ้น เช่น คลิปเสียงคล้ายจาตุรนต์วิจารณ์เพื่อไทย  ซึ่งต่อมาก็ถูกนำมาเสนอผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง ตามมาด้วย นักเคลื่อนไหว/นักวิชาการ 14 ชิ้น เช่น กรณีชูวิทย์กล่าวหาเศรษฐาในขณะบริหารแสนสิริว่าทุจริต นักการเมือง 7 ชิ้น  เช่น หมอพรทิพย์นำเอาข้อเสนอแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม 10 ข้อ มาโพสต์ว่าเป็นข้อเสนอก้าวไกล หรือสื่อเอง 6 ชิ้น  เช่น ข่าวว่าจาตุรนต์จ่อซบก้าวไกล</p>
<p>นอกจากนั้นยังพบความน่าสนใจในประเด็นเรื่องอายุของข่าวลือข่าวลวงที่มีอายุสั้นมาก โดยจำนวนวันคำนวณจากวันแรกที่พบการพูดถึงหรือรายงานข่าวนั้นๆ จนถึงวันที่มีผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ออกมาแสดงท่าทีต่อกระแสข่าวนั้น ไม่ว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับ ทำให้ข่าวลือข่าวลวงที่ตอนแรกอยู่ในสภาวะคลุมเครือและยังไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นจริงหรือเท็จได้จบลงไป ซึ่งจะพบว่า ข่าวลือข่าวลวงที่มีอายุในช่วง 24 ชั่วโมง มีจำนวนสูงถึง 30 ชิ้น เช่น พิธาไม่ได้จบฮาวาร์ด และข่าวลือข่าวลวงที่มีอายุเพียง 1 วัน มีจำนวน 26 ชิ้น  เช่น  ธรรมนัสจะนำ สส. พลังประชารัฐไปโหวตให้เพื่อไทย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">การตรวจสอบข่าวลือข่าวลวงโดยองค์กรอื่นๆ</span></h2>
<p>ข่าวลือข่าวลวงช่วงการจัดตั้งรัฐบาล มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลายแหล่ง ทั้งของภาครัฐเอง เช่น กกต. ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทยซึ่งจะนำเสนอการตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของ กกต. เช่น กรณี กกต. ถูกมองว่า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ดำเนินคดีอาญาอนาคตใหม่ หรือ สส. พรรคก้าวไกลจะโดนใบแดง 10 คน เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง</p>
<p>การตรวจสอบโดย AFP Factcheck ที่หยิบเอาข่าวลือที่แพร่สะบัดในโซเชียลมีเดียมาตรวจสอบ เช่น กรณีพิธาไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กรณีว่าที่ สส.ก้าวไกลนั่งฉี่ริมถนน กรณีมีคำกล่าวอ้างว่า สะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถูกสร้างในสมัยรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ กรณีที่มีการระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์ชาติ ในปี 2566 -2570 แปลว่ายังมีอำนาจเต็มเหนือรัฐบาล </p>
<p>ขณะที่ Cofact Thailand องค์กรภาคประชาสังคมที่เปิดแพลตฟอร์มให้ประชาชนร่วมตรวจสอบข่าวปลอมก็มีการตรวจสอบข่าวในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน เช่น มีกรณีคลิปเสียงคล้ายจาตุรนต์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย หรือกรณีปดิพัทธ์ซึ่งถูกขุดกิจกรรมทางการเมืองในอดีตมาพูดถึงหลังจากถูกเสนอชื่อเขาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรถึง 4 ประเด็นโดย Cofact ได้รวบรวมไว้เป็นกรณีเดียว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข่าวลือข่าวลวงในสายตาสื่อสารมวลชนและนักวิชาการ </span></h2>
<p><strong>ทุกข่าวที่ได้มาเป็นข่าวลือ จนกว่าจะตรวจสอบ</strong></p>
<p>จากการสัมภาษณ์ ดวงฤทัย ผ่องใส หัวหน้าข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถึงประสบการณ์การทำข่าวโดยเฉพาะช่วงหลังเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า ระหว่างข่าวลือกับข่าวจริง อะไรมีมากกว่ากัน ดวงฤทัยมองว่า ข่าวที่ได้มาทั้งหมดเป็นข่าวลือ จนกว่าจะมีการตรวจสอบ </p>
<p>“เวลาเขาส่งอะไรมา มันลือทั้งหมด แล้วก็เราต้องรีเช็คทั้งหมด  ข่าวลือที่ส่งมาวันนี้เราอาจจะยังไม่เล่น เพราะเราไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่จริง แล้วถ้าเกิดว่าอีกสองวันมันไม่เป็นไปตามข่าวลือ เราก็จะมองแล้วว่า คนที่ปล่อยต้องการอะไร ทุกอย่างมันมีเรื่องราว มันเป็นไปตามการต่อรอง ธรรมชาติ แล้วก็ผลประโยชน์” </p>
<p>หัวหน้าข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เล่าว่า ขั้นตอนการทำงานคือ หนึ่ง ประเมินได้เลยว่าไม่เอาข่าวนี้ สอง สนใจแต่รีเช็ค อาจไม่จำเป็นต้องนำเสนอข่าววันนี้ สาม มันน่าจะเป็นไปได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นความจริง 100% หรือเปล่า อันนี้ประเมินด้วยประสบการณ์ว่า ต้องนำเสนอข่าวไหม</p>
<p>“เวลาได้ข่าวมา ก็จะใช้วิธีให้นักข่าวแต่ละคนโทรหาแกนนำเลย แล้วมาประเมินกันว่าใช่หรือไม่ใช่ บางครั้งในที่สุด ข่าวที่ได้มามันไม่ใช่ มันอาจจะเป็นการมโนของอีกฝั่งหนึ่งที่คิดว่าตัวเองจะไปได้ในเวย์นี้ จึงปล่อยข่าวออกมาแบบนี้ แต่พอไปถามคนที่เกี่ยวข้องว่าเป็นไปได้เหรอ เขาก็ปฏิเสธ มันมีการหลอกกันไปมาเยอะมาก มันต้องทันเกมมาก  เราเองก็ต้องระวัง เพราะเราอยากจะนำเสนอในสิ่งที่คนอ่านไม่ไขว้เขว จะเห็นว่าในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ใครเปิดก่อนคนนั้นพลาดก่อน”</p>
<p>นอกจากนี้ดวงฤทัยยังอธิบายว่า ถ้าเป็นประเด็นใหญ่ๆ ก็จะตรวจสอบอีกครั้ง เช่น ตำแหน่งรัฐมนตรี หรือประธานสภาฯ แต่ในขณะเดียวกันการทำงานข่าวออนไลน์ก็ต้องมีความรวดเร็วด้วย ดังเช่นข่าวลือที่ว่าเพื่อไทยจะยกประธานสภาฯ ให้ก้าวไกล ที่จากการเก็บข้อมูลพบว่าเดลินิวส์เป็นสื่อมวลชนแรกๆ ที่นำเสนอข่าวนี้ในคืนวันที่ 29 มิถุนายน ก่อนที่มาต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 30 มิถุนายน ชลน่านจะออกมาปฏิเสธข่าวว่าไม่เป็นความจริง </p>
<p>“ในหนังสือพิมพ์รอได้ บางเรื่องที่เราเห็นว่ายังไม่ได้ข้อสรุปหรือยังหมิ่นเหม่ เรารอ แต่ว่าบางเรื่องที่มันพอจะเห็นว่ามันเป็นไปได้ เราก็ปล่อย ปล่อยแล้วเราไม่ทิ้ง เราก็กลับมารีเช็คต่อ หากได้ข้อเท็จจริงมาเพิ่มเติมเราก็อัปเดตข่าว เราต้องเข้าใจว่าการแข่งขันมันสูง มีอะไรที่พอจะโยนได้ที่ไม่ได้กระทบต่อสังคม อย่างเช่นข่าวเพื่อไทยจะยกประธานสภาฯ ให้ก้าวไกล เนื่องจากเวลานั้นดึกแล้ว เราจึงตัดสินใจนำเสนอข่าวไป เพราะเป็นออนไลน์ แต่เราก็ตามต่อ เช้าวันต่อมาเมื่อคุณหมอชลน่านปฏิเสธ เราก็รายงานข่าวใหม่” </p>
<p>ส่วนเรื่องการเลือกนำเสนอกระแสข่าวจากโลกโซเชียล ดวงฤทัยเล่าวิธีการทำงานว่า “ในออนไลน์ ช่วงนั้นมันจะมีเรื่องของโซเชียลฟุ้งๆ ใช่ไหม เราก็เขียนให้ชาวบ้านรับรู้เท่านั้นเอง ว่าโซเชียลว่าอย่างนี้ๆ ในประเด็นที่น่าสนใจ ก็มาสรุปให้รู้ว่าเขามองอย่างนี้ๆ แต่เราไม่ได้บอกว่าแหล่งข่าวว่ามาอย่างนี้นะ จากนั้นเราก็ค่อยมาบอกว่ามันจริงมันเท็จอย่างไร ถ้าเราตามการเมืองในโลกออนไลน์ เราก็ต้องตามด้วยสติ”</p>
<p>นอกจากนี้ ดวงฤทัยชี้ถึงธรรมชาติการนำเสนอข่าวในหนังสือพิมพ์กับออนไลน์ว่า "มันมีธรรมชาติของการนำเสนอต่างกันอยู่แล้ว หนังสือพิมพ์เราเดินตามกรอบ ออนไลน์เราก็จะเดินตามเวลา และมีการตรวจสอบให้ตามเวลา แล้วเราก็จะมีบทวิเคราะห์ให้ทุกวัน”</p>
<p>ในข่าวลือข่าวลวงในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าหลายข่าวเกิดขึ้นโดยใช้คำว่า สื่ออ้างรายงานข่าว/กระแสข่าว/แหล่งข่าวพรรค โดยไม่มีการอ้างอิงชื่อแหล่งข่าวหรือตัวบุคคลผู้ให้ข่าวระบุชัดเจน หัวหน้าข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ อธิบายส่วนนี้ว่า </p>
<p>“เวลาเราคุยกับแหล่งข่าว เราจะต้องถามว่าอันนี้ขอโคว้ทได้ไหม หรือไม่ได้ แล้วแต่การตกลงในการคุยกัน แต่เราจะไม่ตีหัวแหล่งข่าว ที่เราไม่มีชื่อใครมาโคว้ทเลย เพราะถ้าโคว้ทไปปุ๊บ ไอ้นี่ก็ตายไง โดนผู้ใหญ่กาหัว ขนาดไม่โคว้ท เขาก็ยังหาอยู่เลยว่าใครให้ข่าว ทุกอย่างมันเป็นความลับ จนบัดนี้บางเรื่องก็เป็นความลับ แม้เราจะได้ชื่อรัฐมนตรีมาแล้ว เราก็พูดไม่ได้ว่าชื่อนี้เป็นมาอย่างไร เขาดูแลกันมาตั้งแต่ไหน มันพูดไม่ได้ </p>
<p>“การที่เราจะเอาแหล่งข่าวมา เราจะไม่บอกว่าน้อ
2934  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ครม.เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2-16 บาท มีผล 1 ม.ค. 67 จ่อตั้ง กก.ศึกษาค่าแรงรายอำเภอ ปรับอี เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 14:55:19
ครม.เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2-16 บาท มีผล 1 ม.ค. 67 จ่อตั้ง กก.ศึกษาค่าแรงรายอำเภอ ปรับอีกรอบ มี.ค. 67
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 14:06</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ปรับ 2 รอบ' ครม.เคาะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2-16 บาท มีผล 1 ม.ค. 67 ด้าน 'ไตรภาคี' เตรียมประชุมค่าแรงขั้นต่ำอีกครั้ง ตั้งอนุกรรมการศึกษาค่าครองชีพรายอำเภอ เหตุประกาศรายจังหวัดไม่สะท้อนความเป็นจริง ก่อนเตรียมปรับค่าแรงอีกรอบ มี.ค. 67 เป็นของขวัญปีใหม่ไทย</p>
<p> </p>
<p>26 ธ.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก 'The Reporters' และ ฐานเศรษฐกิจ รายงานวันนี้ (26 ธ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงแรงงาน เสนอมติของคณะกรรมการไตรภาคี เรื่องปรับขึ้นอัตราขั้นต่ำให้กับแรงงานในอัตรา 2-16 บาทในที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบว่า โดยจะมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53394870729_eb1b783534_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เศรษฐา ทวีสิน</span></p>
<p>ทั้งนี้ หลังจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.แล้ว ได้มีการหารือกันว่า ในการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างรอบใหม่ หรือไตรภาคี จะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า หรือประมาณเดือนมกราคม 2567 เพื่อกำหนดขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบใหม่ คาดว่าจะประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้อีกครั้งในเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นเพียงปีละ 1 ครั้งอีกต่อไป โดยคณะกรรมการไตรภาคีจะต้องศึกษาเพื่อขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรายอำเภอ และรายพื้นที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น </p>
<p>พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) นำเรื่องการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเข้าที่ประชุม ครม.ให้รับทราบอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการไตรภาคียืนยันค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราเดิม โดยตนเองได้ขอหารือกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าในวันที่ 17 ม.ค. 2567 คณะกรรมการไตรภาคีจะประชุมอีกครั้ง เพื่อตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคี ศึกษาการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรายวิชาชีพ รายอำเภอ และรายเทศบาล เพราะขณะนี้การประกาศเป็นรายจังหวัดไม่สะท้อนภาพความเป็นจริง เนื่องจากบางจังหวัดในเขตเทศบาลหรือเขตอำเภอมีสภาพเศรษฐกิจที่ดี แต่ในพื้นที่ชนบทเศรษฐกิจไม่ได้ดีเท่าตัวเมือง โดยจะขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อมาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำด้วย โดยคาดว่าคณะอนุกรรมการฯ จะเสนอค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ เข้าคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ภายในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อประกาศเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทย </p>
<p>พิพัฒน์ ระบุว่า หากลงรายละเอียดรายอำเภอ และรายสาขาวิชาชีพค่าจ้างขั้นต่ำบางพื้นที่อาจจะคงเดิม แต่ในพื้นที่เมืองค่าจ้างขั้นต่ำจะมีอัตราที่ดีกว่าที่ประกาศในวันนี้</p>
<p>ก่อนหน้านี้ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่คณะกรรมการไตรภาคีที่เคยประกาศใช้ก่อนหน้านี้ มีทั้งหมด 17 อัตรา รวม 2-16 บาท ประกอบด้วย 
 </p>
<table border="1" cellpadding="1" cellspacing="1" style="width:100%;">
<tbody>
<tr>
<td><strong>ลำดับ</strong></td>
<td><strong>จังหวัด</strong></td>
<td><strong>ค่าแรงที่ปรับขึ้น (บาท)</strong></td>
</tr>
<tr>
<td>1.</td>
<td>ภูเก็ต</td>
<td>370</td>
</tr>
<tr>
<td>2.</td>
<td>กทม. ปริมณฑล</td>
<td>363</td>
</tr>
<tr>
<td>3.</td>
<td>ชลบุรี ระยอง</td>
<td>361</td>
</tr>
<tr>
<td>4.</td>
<td>นครราชสีมา</td>
<td>352</td>
</tr>
<tr>
<td>5.</td>
<td>สมุทรสงคราม</td>
<td>351</td>
</tr>
<tr>
<td>6.</td>
<td>อยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่</td>
<td>350</td>
</tr>
<tr>
<td>7.</td>
<td>ลพบุรี</td>
<td>349</td>
</tr>
<tr>
<td>8.</td>
<td>สุพรรณบุรี นครนายก หนองคาย</td>
<td>348</td>
</tr>
<tr>
<td>9.</td>
<td>กระบี่ ตราด</td>
<td>347</td>
</tr>
<tr>
<td>10.</td>
<td>กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี สงขลา พังงา จันทบุรี สระแก้ว นครพนม มุกดาหาร สกลนคร บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ตาก พิษณุโลก</td>
<td>345</td>
</tr>
<tr>
<td>11.</td>
<td>เพชรบุรี ชุมพร สุรินทร์</td>
<td>344</td>
</tr>
<tr>
<td>12.</td>
<td>ยโสธร ลำพูน นครสวรรค์</td>
<td>343</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>13.</p>
</td>
<td>นครศรีธรรมราช บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์</td>
<td>342</td>
</tr>
<tr>
<td>14.</td>
<td>ชัยนาท สิงห์บุรี พัทลุง ชัยภูมิ และอ่างทอง</td>
<td>341</td>
</tr>
<tr>
<td>15.</td>
<td>ระนอง สตูล เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี มหาสารคาม ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี ราชบุรี</td>
<td>340</td>
</tr>
<tr>
<td>16.</td>
<td>ตรัง น่าน พะเยา แพร่</td>
<td>338</td>
</tr>
<tr>
<td>17.</td>
<td>นราธิวาส ปัตตานี ยะลา</td>
<td>330</td>
</tr>
</tbody>
</table>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107388
 
2935  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - ฉายารัฐบาล 2566 "แกงส้มผลักรวม" ไล่เรียงฉายาแต่ละคน เห็นแต่ละชื่อ ร้องอ๋อเลย เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 14:55:18
ฉายารัฐบาล 2566 "แกงส้มผลักรวม" ไล่เรียงฉายาแต่ละคน เห็นแต่ละชื่อ ร้องอ๋อเลย
         


ฉายารัฐบาล 2566 &quot;แกงส้มผลักรวม&quot; ไล่เรียงฉายาแต่ละคน เห็นแต่ละชื่อ ร้องอ๋อเลย" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เปิดฉายารัฐบาล 2566 แกงส้ม "ผลัก" รวม แถมฉายาแต่ละคน พีกมาก!
         

https://www.sanook.com/news/9156586/
         
2936  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ปอนด์ P-Hot โพสต์ขอโทษแล้ว หลังหายตัวไป 24 ชั่วโมง คนใกล้ชิดแห่ตามหาตัว เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 14:35:50
ปอนด์ P-Hot โพสต์ขอโทษแล้ว หลังหายตัวไป 24 ชั่วโมง คนใกล้ชิดแห่ตามหาตัว
         


ปอนด์ P-Hot โพสต์ขอโทษแล้ว หลังหายตัวไป 24 ชั่วโมง คนใกล้ชิดแห่ตามหาตัว" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9156766/
         
2937  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่า มีการใช้อินเทอร์เน็ตทางเลือกมากขึ้น เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 13:20:49
ในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่า  มีการใช้อินเทอร์เน็ตทางเลือกมากขึ้น
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-12-26 12:02</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพจาก SpaceX</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>บางพื้นที่ของประเทศพม่าได้หันมาใช้อินเทอร์เน็ตดาวเทียมกันมากขึ้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่กองทัพเผด็จการพม่าทำการปิดกั้นการใช้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในพื้นที่ฐานที่มั่นของกลุ่มต่อต้าน</p>
<p>ก่อนหน้านี้ในหลายอำเภอของพม่า เช่น ถั่นตะหลั่น (Thantlang) รัฐชิน ทางด้านตะวันตกของพม่า ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เนื่องมาจากการปิดกั้นโดยสภากองทัพพม่า แต่เมื่อไม่นานมานี้เมืองเหล่านี้ได้หันมาใข้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมแทน</p>
<p>องค์กรการวิจัยรายงานว่านับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารปี 2564 เป็นต้นมา สภากองทัพพม่าได้ตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ฐานที่มั่นกลุ่มต่อต้านรวมแล้วเกือบ 50 อำเภอในพม่า จากทั้งหมด 330 อำเภอ</p>
<p>เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา มีองค์กรบางองค์กรที่เปิดเผยว่า อำเภอถั่นตะหลั่น ซึ่งเป็นอำเภอแรกที่ถูกสภากองทัพพม่าจุดไฟเผาหลังจากรัฐประหาร มีอินเทอร์เน็ตใช้เป็นของตัวเองได้ตั้งแต่ราว 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว</p>
<p>นับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565 ทีม Znet ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนทางเทคนิคของรัฐบาลประชาชนอำเภอถั่นตะหลั่น ได้ทำการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตไวร์เลสแบบเครือข่ายส่วนตัวภายในทานตะลาน</p>
<p>ทีม Znet กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า "พวกเราสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบเครือข่ายส่วนตัวได้ แต่พวกเรากำลังประสบปัญหาค่าใช้จ่ายสูงในเรื่องไฟฟ้าและอุปกรณ์ รวมถึงต้องการเงินทุนด้วย ... การเข้าถึงไฟฟ้าในรัฐชินเป็นไปอย่างยากลำบาก เมื่อมีการนำเทคโนโลยีอื่นมาใช้แล้ว ไฟฟ้าก็กลายเป็นอุปสรรคอย่างที่สองสำหรับพวกเรา"</p>
<p>เมื่อไม่นานนี้ทีม Znet ได้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไวร์เลสแก่กองกำลังฝ่ายต่อต้าน, หน่วยงานต่างๆ ภายใต้รัฐบาลประชาชน, แหล่งให้บริการสาธารณสุข และหน่วยงานตำรวจฝ่ายประชาชน และจะยังคงพยายามดำเนินการให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยง่าย</p>
<p>มีประชากรเกือบร้อยละ 40 ใน ทานตะลาน ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ต 20 Mbps (20 เมกะไบต์ต่อวินาที) ได้ โดยมีแผนการที่จะขยายการให้บริการครอบคลุมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ในช่วงอีกไม่กี่ปีหลังจากนี้</p>
<p>ในเดือน มิ.ย. เดวิด ยูแบงค์ ผู้ก่อตั้งฟรีเบอร์มาเรนเจอร์ (FBR) กล่าวว่ารัฐกะเรนนีที่ถูกตัดขาดจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยเผด็จการทหาร ได้เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงค์แล้ว</p>
<div class="more-story">
<p>'คาเฟ่สตาร์ลิงค์' เปิดในรัฐกะยาให้คนสื่อสารหากันได้ หลังรัฐบาลทหารพม่าตัดโทรศัพท์และเน็ตหลายพื้นที่</p>
</div>
<p>สตาร์ลิงค์เป็นอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่มีบริษัทการบินอวกาศสัญชาติสหรัฐฯ ที่ชื่อ Space X เป็นผู้ดำเนินการ มีการให้บริการครอบคลุมมากกว่า 54 ประเทศ ในตอนนี้อินเทอร์เน็ตสตาร์ลิงค์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายโดยกองกำลังปฏิวัติรัฐกะเรนนี ซึ่งสามารถแก้ปัญหาการถูกปิดกั้นจากสภากองทัพพม่าได้ นอกจากนั้นยังมีองค์กรชื่อกะเรนนีโฮปเปิด “คาเฟ่สตาลิงก์” เพื่อให้คนในรัฐกะยาหรือรัฐกะเรนนี สามารถติดต่อหาครอบครัวและเพื่อนของเขาที่ทำงานในพื้นที่อื่นๆ ได้</p>
<p>ถั่นซอหน่าย นักวิเคราะห์ด้านการทหารและการเมืองวิพากษ์วิจารณ์สภากองทัพที่ตัดอินเทอร์เน็ตจนทำให้ประชาชนทั่วไปประสบกับความยากลำบากไปด้วย ไม่ใช่แค่กองกำลังฝ่ายต่อต้านอย่างเดียวที่ได้รับผลกระทบ</p>
<p>ในวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา สภากองทัพได้ประกาศว่าบุคคลใดที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตดาวเทียมในพม่าจะต้องมีใบอนุญาตเสียก่อน และถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ก็จะถูกลงโทษด้วยกฎหมายโทรคมนาคมในมาตราที่ 67</p>
<p>กลุ่มวิจัยอิสระรายงานว่าอำเภอต่างๆ ในพม่ารวมทั้งหมด 330 อำเภอ ต่างก็เคยเผชิญกับการขัดขวางการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบที่วางแผนเอาไว้อย่างน้อย 1 ครั้งนับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารปี 2564 โดยที่รัฐกะเรนนีและรัฐชินเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด</p>
<p>ในช่วงที่มี "ปฏิบัติการ 1027" ที่ริเริ่มโดยกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพและมีการประสานงานเพื่อปฏิบัติการรุกร่วมกันของกลุ่มกองกำลังชาติพันธฺุ์หลายกลุ่ม สภากองทัพพม่าก็ทำการตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอีกครั้งในรัฐยะไข่ รัฐมอญ รัฐกะเรนนี รัฐชิน รัฐกะฉิ่น รัฐกะเหรี่ยง และภาคสะกาย</p>
<p>จากรายงานของ "อิโคโนมีออนไลน์" เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พม่ากลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุดในโลกในเรื่องของการถูกขัดขวางการใช้งานอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์หลังจากที่เกิดรัฐประหาร</p>
<p> </p>
<p><span style="color:#2980b9;"><strong>เรียบเรียงจาก</strong></span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Alternative Internet Access Gains Ground in Resistance Strongholds, BNI, 19-12-2023</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107386
 
2938  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - คลิปน่ารัก "น้องเกล" เอ่ยถามแม่ชม "แบดบอยไม่มาอ่อ?" แต่สุดท้ายก็ม่วนจอย เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 12:02:45
คลิปน่ารัก "น้องเกล" เอ่ยถามแม่ชม "แบดบอยไม่มาอ่อ?" แต่สุดท้ายก็ม่วนจอย
         


คลิปน่ารัก &quot;น้องเกล&quot; เอ่ยถามแม่ชม &quot;แบดบอยไม่มาอ่อ?&quot; แต่สุดท้ายก็ม่วนจอย" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;คลิปน่ารัก "น้องเกล" เอ่ยถามแม่ชม "แบดบอยไม่มาอ่อ?" แต่สุดท้ายก็ม่วนจอย
         

https://www.sanook.com/news/9156562/
         
2939  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - รมต.ประจำสำนักนายกฯ ชวนภาครัฐ เอกชน ประดับธงตราสัญลักษณ์ เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 10:17:51
รมต.ประจำสำนักนายกฯ ชวนภาครัฐ เอกชน ประดับธงตราสัญลักษณ์ เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ร.10
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-12-25 18:52</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” เชิญชวนภาครัฐ เอกชน ประดับธงตราสัญลักษณ์ ตลอดปี 2567 </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53418911052_8d678874f0_h.jpg" /></p>
<p>15 ธ.ค.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (25 ธ.ค.66) เวลา 14.00 น. พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ครั้งที่ 1/2566 โดยมี วราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม </p>
<p>ที่ประชุมรายงานแนวทางการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนให้ทราบถึงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 โดยมีชื่อพระราชพิธีภาษาไทยว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” ส่วนภาษาอังกฤษ ใช้ชื่อ “The Celebration on the Auspicious of His Majesty the King’s 6th Cycle Birthday Anniversary 28th July 2024” และชื่อการจัดงานว่า “การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” กำหนดขอบเขตการจัดงานระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2567 รวมถึงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567</p>
<p>นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 ก.ค. 2567 รัฐบาลขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยดำเนินการจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องราชสักการะ รวมทั้งประดับธงชาติไทย ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส “พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” ตราสัญลักษณ์ฯ และประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน ตามความเหมาะสม โดยดำเนินการในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดปี 2567 </p>
<p>“นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้เตรียมการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางการสื่อสารให้ครอบคลุม รวมถึงการผลิตและเผยแพร่สารคดี ข้อมูล ภาพประกอบ และกิจกรรมต่างๆ ของ “พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” โดยให้หน่วยงานภาครัฐนำเสนอแผนการจัดกิจกรรมมายังคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการ รวบรวมและกำหนดแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถสื่อสารไปยังประชาชนได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีร่วมกันทั้งประเทศ” พวงเพ็ชร กล่าว </p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107376
 
2940  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - สภาพอากาศวันนี้ ไทยยังมีอากาศเย็นถึงหนาว มรสุมถล่มใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก เมื่อ: 26 ธันวาคม 2566 09:31:49
สภาพอากาศวันนี้ ไทยยังมีอากาศเย็นถึงหนาว มรสุมถล่มใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก
         


สภาพอากาศวันนี้ ไทยยังมีอากาศเย็นถึงหนาว มรสุมถล่มใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เผย ประเทศไทยยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง มรสุมถล่มภาคใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก เตือนระวังน้ำท่วม
         

https://www.sanook.com/news/9156542/
         
หน้า:  1 ... 145 146 [147] 148 149 ... 1128
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 3.607 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 18:11:19