[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 08:15:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 2 [3] 4 5 ... 96
41  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: 四大 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2555 11:41:45
Google Translate ยังงง !!
Google Translate ยังงง !!




น้า McK โธ่ ก็เผื่อคนที่อบอ่นภาษาจีนจะได้อ่าน ปกิณณกธรรม ด้วยบางทีนจีนจากโพ้นทะเลจะมาเยือนเว็บ ฯ สุขใจมั่ง เนอะ เนอะ เนอะ




<a href="http://www.youtube.com/v/Ne-JqQgJACU?version=3&amp;feature=player_embedded" target="_blank">http://www.youtube.com/v/Ne-JqQgJACU?version=3&amp;feature=player_embedded</a>

42  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / 四大 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2555 11:25:15

雜項的佛法 = หมวดปกิณณกธรรม

時常有研讀佛教經典的人,常常會看到四聖諦、八正道、四無量、六識、四大……等等還有很多很多其他有關數據的佛學篇章,雖然看起來好像有很多法門,但是歸根究底,全都包涵在四無上之中,四無上是色、心、心所和涅槃,四無上規劃起來,又僅僅剩下色法和心(名)法兩個法門。

色,是世間所有沒有知覺的事物,心是感知,感知所有的事物與感覺情緒,緣聚而生,緣散而滅。因此只要好好的研習色法和心法,對於以上所提及的佛法,都可以互相融通。

現在來説四大,四大是地大、水大、火大與風大,包含在色法中。儘管這個世界中有著數也數不清的東西,金銀銅鉄,花草人物,風雲山水……,但是佛祖依照事物的實相,示明宇宙中的萬物,全都是地水火風四大元素的組合而成。

所有有實質、有硬度、軟度的屬於地大,外在的包括了房屋、動物、礦物、花朵、空氣……等等。 人體内在的包括了毛髮、皮膚、肌肉、骨頭、心臟、腦子……等等。

水大是指流動與使到組合的物質,人體中水大多的是汗水、血水、尿水、膿水、骨頭或肌肉中的水分等,即使在毛髮中,也有水大的存在,空氣中、石頭裏,都有水大的成份。

火大,外在的是溫度、寒、冷、熱量等,内在的火大,就是身體的體溫、使能夠消化,能夠維持生命存在的熱能。

風大,外在的是流動循環,内在的是我們的呼吸、胸腹裏面的氣體,以及鬆、緊,和扯動了我們舉手投足、做出種種姿勢的氣力等。

世間萬物,由四大組成,缺一不可,金銀銅鉄中是地大爲主,地多水少,風少火少。花草人物四大平衡,才能很好的生存。風雲雨露分解到最後,也依然是地水火風四大因素的組合。在土中也有水、火、風的元素組合,水在分解、在沉澱后,也依然有土、火、風的元素存在。

金銀銅鉄、石頭泥土……等等,除了各自的地水火風比例不同之外,沒有其他的元素。花果樹木在地水火風之外,還有溫度和滋養,所以花果樹木能夠生長,但沒有生命。在佛學中,生命的組成,必須還要有靈魂,即是“心”的結合。

人類和動物除了地水火風四大色相之外,還有其他二十四色相的組合,諸如體形、滋養、男相、女相……等等,最重要的是人類和動物是因“業”而生,“業”的不同,造就了外表形狀的不同,“業”也使到衆生一生命的際遇不同。

我們的身體,能夠舒適的生活著,那是因爲四大的平衡,一旦其中的某個因素失調,身體就不適,嚴重的就會死亡,因此,我們必須努力的愛護身體裏的四大,才能健康長壽的生存。

不管是山川河流,不管是花鳥人物,所組合而成的四大,是無時無刻的在改變,山川河流的改變不明顯,但它們是在不停的變化中。人類,即使是如何地注重保養自己本身的四大,但是四大也有分散的一天,所謂四大皆空的意思,就是四大不能長住、不斷地在變化、又不受控制的意思。

佛祖告訴我們四大的實相,爲的是讓我們認清世間萬物、包括我們自己在内的實相,而不要太過執著,執著着永遠在變化的事務,要它不要改變,又要求不喜歡的事務,快快改變。其實,不論喜歡或不喜歡,一切都在變化中,歡樂的事情不會永久存在,痛苦的事物,即使沒有努力去改變它,只要不再執著,痛苦也不能夠永久的存在。

研習佛法,最大的得益是得知從來都不知道的生命實相,聆聽到從來沒有聽見過的宇宙真理。本人對於數年來研讀佛法的體會,那就是看見樹葉不等于看見一棵樹,看見樹枝也不等于看見一棵樹,看見樹幹也不等于看見一棵樹,必須看到大樹最堅實的樹心,由堅實的樹心,再轉過來看樹心與樹枝、樹葉、花朵的結構與關係,從而來認識這整棵樹。

所以我們如果僅僅從一般的佛教禮儀、一般的佛教說話來了解佛的教言,以爲那就是佛教的一切,情形就好像是手裏抓到一把樹葉,幾片樹皮,就以爲已經抓到了整棵大樹那樣的愚昧無知。

佛祖的大慈、大悲、大德,留給人間的是永恒的真理,引導癡迷的靈魂脫離苦海。能夠生活在佛教的國家,是一件很幸運的事情,能成爲佛教徒,能夠有機緣遇到名師指點,獲得聆聽與研習佛的教言的機會,而對於深奧難解的佛理,又沒有生出排斥的念頭與心態,這是必須要有很多的善緣配合,才會出現這樣的善果。

儘管我對佛法的了解,僅是一點點的皮毛,但我也已經深深為自己慶幸


แปลให้ไม่ไหวบทความนี้ยาวมากแปล - เดือนก็ไม่เสร็จ


บทความจาก............

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง

ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐




บ้านปลายฟ้า สานฝัน......,.....http://rompho.multiply.com/




<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>


<a href="http://www.youtube.com/v/v_PJlULXIao?version=3&amp;feature=player_detailpage" target="_blank">http://www.youtube.com/v/v_PJlULXIao?version=3&amp;feature=player_detailpage</a>

43  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: ไปไม่กลับ - หลับไม่ตื่น - ฟื้นไม่มี - หนีไม่พ้น เมื่อ: 09 มิถุนายน 2555 01:56:14
อาเมน + สาธุ

รัก รัก รัก


ดีไม่บอก อาเมนภันเต !!

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น


น้า McK ภาพที่เห็นนี้สวยหรือป่าว ? ลองเปิดฝาโลงดูดิ ตัวใคร - ก็ตัวใคร น้า Mck จีวอนบินไม่ใช่โหน่ง - เท่ง จีวอนบิน

ขำ ขำ ขำ

44  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: ไปไม่กลับ - หลับไม่ตื่น - ฟื้นไม่มี - หนีไม่พ้น เมื่อ: 09 มิถุนายน 2555 00:20:13

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ในที่สุด


อาเมน + สาธุ

รัก รัก รัก

45  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / เทศนาจังหวะร๊อค เมื่อ: 08 มิถุนายน 2555 23:46:47

<a href="http://www.youtube.com/v/hCU1FGWPn20?version=3&amp;feature=player_detailpage" target="_blank">http://www.youtube.com/v/hCU1FGWPn20?version=3&amp;feature=player_detailpage</a>

Baan pyefa sanfun........http://rompho.multiply.com
46  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / ไปไม่กลับ - หลับไม่ตื่น - ฟื้นไม่มี - หนีไม่พ้น เมื่อ: 08 มิถุนายน 2555 18:28:54

ถ่ายภาพประกอบกระทู้โดย Sometime

ภาพนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใครอยากได้ให้เลย


ขำ ขำ ขำ


๑๐. อรกานุสาสนีสูตร

{๗๑}ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเรื่องเคยมีมาแล้ว ศาสดาชื่อ{อรกะ}เป็นเจ้าลัทธิปราศจากความกำหนัดในกามก็อรกศาสดานั้นมีสาวกหลายร้อยคนเธอแสดงธรรมแก่สาวกอย่างนี้ว่าดูก่อนพราพมณ์ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายน้อยนิดหน่อยรวดเร็วมีทุกข์
มากมีความคับแค้นมากจะพึงถูกต้องได้ด้วยปัญญาควรกระทำกุศลควรประพฤติพรหมจรรย์เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มีดูก่อนพราหมณ์ หยาดน้ำค้างบนยอดหญ้าเมื่ออาทิตย์ขึ้นมาย่อมแห้งหายไปได้เร็วไม่ตั้งอยู่นานแม้ฉันใดชีวิตมนุษย์ทั้งหลาย
เปรียบเหมือนหยาดน้ำค้างฉันนั้นเหมือนกันนิดหน่อยรวดเร็วทุกข์ยากมีความคับแค้นมากจะพึงถูกต้องได้ด้วยปัญญาควรกระทำกุศลควรประพฤติพรหมจรรย์เพราะสัตว์ที่เกิดแล้วจะไม่ตายไม่มี
ดูก่อนพราหมณ์ หยาดน้ำค้างบนยอดหญ้า เมื่ออาทิตย์ขึ้นมาย่อมแห้งหายไปได้เร็ว ไม่ตั้งอยู่นาน แม้ฉันใด
ชีวิตมนุษย์ทั้งหลายเปรียบเหมือนหยาดน้ำค้างฉันนั้นเหมือนกัน นิดหน่อย รวดเร็ว ทุกข์ยาก มีความคับแค้นมาก จะพึงถูกต้องได้ด้วย

ปัญญาควร กระทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ เพราะสัตว์ที่เกิดแล้วจะไม่ตายไม่มีดูก่อนพราหมณ์ เมื่อฝนตกหนัก หนาเม็ด ฟองน้ำย่อมแตกเร็ว ตั้งอยู่ไม่นานแม้ฉันใด ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลาย เปรียบเหมือน ฟองน้ำ ฉันนั้นเหมือนกัน นิดหน่อย รวดเร็ว มีทุกข์มาก มีความ คับแค้นมาก จะพึงถูกต้องได้ด้วยปัญญา ควรกระทำกุศล ควร ประพฤติพรหมจรรย์ เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มีดูก่อนพราหมณ์ รอยไม้ที่ขีดลงไปในน้ำย่อมกลับเข้าหากันเร็วไม่ตั้งอยู่นานแม้ฉันใดชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายเปรียบเหมือนรอยไม้ที่ขีดลงไป
ในน้ำฉันนั้นเหมือน

กันดูก่อนพราหมณ์ แม่น้ำไหลลงจากภูเขาไหลไปไกล กระแส เชี่ยวพัดไปซึ่งสิ่งที่พอจะพัดไปได้ ไม่มีระยะเวลาหรือชั่วครู่ที่มัน จะหยุด แต่ที่แท้แม่น้ำนั้นมีแต่ไหลเรื่อยไปถ่ายเดียวแม้ฉันใดชีวิตของมนุษย์ทั้งหลาย เปรียบเหมือนแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขาฉันนั้น เหมือนกัน
ดูก่อนพราหมณ์ บุรุษมีกำลัง อมก้อนเขฬะไว้ที่ปลายลิ้น แล้วพึงถ่มไปโดยง่ายดายแม้ฉันใด ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลาย เปรียบเหมือน
ก้อนเขฬะนั้นเหมือนกัน.ดูก่อนพราหมณ์ ชิ้นเนื้อที่ใส่ไว้ในกะทะเหล็กไฟเผาตลอดทั้งวัน ย่อมจะย่อยยับไปรวดเร็ว

ไม่ตั้งอยู่นานแม้ฉันใดชีวิตของมนุษย์ทั้งหลาย เปรียบเหมือนชิ้นเนื้อ ฉันนั้นเหมือนดูก่อนพราหมณ์ แม่โคที่จะถูกเชือด ที่เขานำไปสู่
ที่ฆ่าย่อมก้าวเท้าเดินไปใกล้ที่ฆ่าใกล้ความตายแม้ฉันใดชีวิตของ มนุษย์ทั้งหลาย เปรียบเหมือนแม่โคที่จะถูกเชือดฉันนั้นเหมือนกันนิดหน่อยรวดเร็ว มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก จะพึงถูกต้อง ได้ด้วยปัญญา ควรกระทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี


จบ อรกานุสาสนีสูตร




บ้าน ปลายฟ้า สานฝัน........http://rompho.multiply.com



<a href="http://www.youtube.com/v/06MV4MZsiHY?version=3&amp;feature=player_detailpage" target="_blank">http://www.youtube.com/v/06MV4MZsiHY?version=3&amp;feature=player_detailpage</a>
47  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / สนทนาธรรมเรื่อง"อนัตตาไม่ใช่ไม่มีอะไร" เมื่อ: 06 มิถุนายน 2555 15:51:55

http://img840.imageshack.us/img840/2223/buddaf1.gif



ถ่ายภาพประกอบกระทู้โดย Sometime สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย





โดยคุณ เมตตา......{อนัตตา}มีความหมายว่าไม่เป็นไปตามอำนาจสูญจากสัตว์ บุคคล ตัวตน    

สิ่งนั้นมี เกิดแล้วก็ดับไปสูญคือว่างเปล่าจากความเป็นตัวตนธรรมคือสิ่งที่มีจริง

เห็นมีจริงขณะนี้มีเรานั่งอยู่ มีเห็น เห็นเป็นเห็นไม่ใช่เรา{เห็นเป็นธาตุรู้เกิดขึ้นทำกิจ}

ทำหน้าที่ไม่ว่าเห็นเกิดที่ไหนในน้ำในอากาศเห็นก็เป็นเห็นเป็นสิ่งที่มีจริงไม่ใช่

สัตว์ บุคคล เทวดา หรือเราเห็น ขณะนี้เห็นมีจริง ๆ เกิดแล้วดับไปตามเหตุปัจจัย

อนัตตาจึงไม่ใช่ไม่มีอะไร มีความหมายเดียวกับสุญญตา

เดี๋ยวนี้มีอะไรจริง สัตว์ บุคคล ตัวตนก็ไม่มีจริงฟังสิ่งซึ่งไม่เคยฟังมาก่อนเพื่อ

ประโยชน์ให้มีความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า - ไม่มีสัตว์

ไม่มีบุคคลไม่เป็นไปตามอำนาจบังคับบัญชาของใครได้เป็น{อนัตตา}    

ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรมก็มีสัตว์ บุคคล ตัวตน มีทุกสิ่งทุกอย่าง

หลังฟังธรรมก็ยังมีสัตว์ บุคคล ตัวตนแต่เข้าใจขึ้นหรือเปล่า........




โดยคุณ khampan.a..........คำสอนเรื่องของ{อนัตตา}

มีเฉพาะในคำสอนทางพระพุทธศาสนาเท่านั้นแสดงถึง

ความเป็นจริงของสภาพธรรมที่หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนไม่ได้ พระอรหันต

สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นพระบรมศาสดาทรงตรัสรู้สภาพธรรมที่มีจริงทุกอย่างทุก

ประการแล้วทรงแสดงความจริงโดยละเอียดโดยประการทั้งปวงเพื่อให้สัตว์โลกได้เข้าใจ

ถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงจากที่ไม่เคยรู้เคยถูกปิดบังด้วยความมืดคือ...อวิชชา....ทำให้

ไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏก็จะค่อย ๆ เข้าใจถูกไปตามลำดับได้รับ

ประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงตามกำลังปัญญญาของแต่ละบุคคล      

จากการฟังพระธรรมที่ ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้บรรยาย จะมีอยู่คำถาม

ที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวเพื่อทบทวนย้ำเตือนให้ผู้ฟังผู้ศึกษาไม่ลืมความเป็นจริงของสภาพ

{ธรรม} คือ เมื่อไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนแล้วเป็นอะไร ? เมื่อไม่ใช่สัตว์  

ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนก็เป็น{ธรรม}เป็นแต่เพียงธรรมแต่ละอย่าง ๆ เท่านั้นโดยไม่

ปะปนกัน...........................................





พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม 2 ภาค 1 หน้าที่ 172


อนึ่งจักขุนั้นชื่อว่าเป็น{อนัตตา}ด้วยอรรถว่าไม่เป็นไปในอำนาจ

อีกอย่างหนึ่งความที่จักขุนั้นเป็นไปในอำนาจของใคร ๆ ในฐานะ ๓ เหล่านี้

คือ จักขุนี้เกิดขึ้นแล้วขอจงอย่าถึงการตั้งอยู่ถึงการตั้งอยู่แล้วจงอย่าแก่ถึง

การแก่แล้ว จงอย่าแตกดับดังนี้ หามีได้ไม่เป็นของสูญไปจากอาการที่เป็น

ไปในอำนาจนั้นเพราะฉะนั้น......จักขุนั้นจึงชื่อว่าเป็น{อนัตตา}เพราะเหตุ

๔ เหล่านั้น คือ..................................................

โดยความเป็นของสูญ ๑

โดยความไม่มีเจ้าของ ๑

โดยเป็นสิ่งที่ควรทำตามชอบใจไม่ได้ ๑

โดยปฏิเสธต่ออัตตา ๑




บทความจาก............

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง

ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐


Blog Multiply...............http://rompho.multiply.com/journal/item/18/18

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae2"> <tr><td style="width: 800px; height: 64px" colspan="2" id="saeva2"><embed type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.flash-mp3-player.net/medias/player_mp3_maxi.swf?mp3=http://www.fungdham.com/download/song/allhits/26.mp3&amp;width=250&amp;showstop=1&amp;showinfo=1&amp;showvolume=1&amp;volumewidth=35&amp;sliderovercolor=ff0000&amp;buttonovercolor=ff0000" width="800px" height="64px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" autoplay="false" autostart="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/26.mp3" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/26.mp3</a></td><td class="aeva_q" id="aqc2"></td></tr></table>
48  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / 如夢如幻 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2555 14:39:49


ภาพพระยูไล(พระุพุทธเจ้า)ฝ่ายมหายานคงทราบกันดีแล้วน่ะ



ถ่ายภาพโดย....Sometime....สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย



ภาพจากวันวิสาขบูชา ๒๖๐๐ ปี พุทธยันตี ณ.มลฑลพิธีท้องสนามหลวง



舒淨 หมายถึง..........ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ส่วนเนื้อหาก็อ่านกันเอาเองเถอะน่ะ ยาวมาก ๆ แปลไม่ไหว ถ้าต้องการศึกษามากกว่านี้ต้องไปที่นี่เลยจ้ามูลนิธิศึกษาและ

เผยแพร่พระพุทธศาสนา ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษา ด้าน

ธรรมมะจริง ๆ เท่านั้นแล้วท่านจะเข้าใจอย่างละเอียดและลึกซึ้งว่า"ธรรมะที่แท้จริงเป็นอย่างไร"ไปนั่งฟังน่ะอย่าไปนั่งหลับถ้าไปนั่งหลับ

ก็ไม่มีประโยชน์และไม่ได้อะไรกลับมาเพื่อพัฒนาตนเองและทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ซักถามวิทยากรได้ไม่ต้องอาย




佛法講錄 = ธรรมมะเตือนใจ



舒淨 = ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์




聆聽佛法,但不能契悟諸法實相,就像還在夢幻中,須反復聆聽印證,明白佛法之理,由此薰陶開悟的智慧。

{8 /8}舒淨 = ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ 舍利弗在首次聆聽到阿薩齊說法就契悟,是累世修行的果報顯現。世人聆聽諸法

實相的講解,卻始終認不清呈現於當下的事物實相,就像在朦朧中聽到的聲音,認為還有一個我在聽經,我在逐漸聽懂佛經,而

實際上,並不感知顯現于當前的諸法原本實相。

輪回是生和死的不停輪轉,我們的心,也在沒有間斷的流轉,在看見、聽見、聞到、嘗到和身體接觸到的感受中不停的輪轉。

在看的時候,如果沒有一個感知的心,則“看”並不存在。

有聲音,那是有一個感知聲音的心,沒有這個感知的心,也沒有聲音。

所以,聆聽佛法,一定要聽到產生堅定的信念,相信在我們的心靈中,有無形的“感知”的存在,看見色境的時候,不是單單有眼

前的東西,還有感知的心正在感知眼前的東西。

聞到氣味,也是有一個感知那氣味的心,色境、氣味、聲音等是一刹那間生滅,感知的心,也是一刹那間生滅。

如果聽懂以上的講解,也僅是在理論上理解,並不等於已經真正驗證了聲音和聽到的關係,或是眼前色境的真相。必須一點一滴

的累積正確的知見,直到逐漸的消減了疑惑,堅定了信念,慢慢的解開了我執的死結。



POST ได้ 1 กระทู้พักกินข้าวเอาแรงก่อนฟังท่านอาจารย์ สุจินต์ บรรยายธรรมละกันน่ะ



Blog @ Mutiply............http://rompho.multiply.com/journal/item/17/17


บทสวดมนต์บารมี 30 ทัศ

ปลายฟ้า



<a href="http://www.youtube.com/v/FUmv8_8qeTY?version=3&amp;feature=player_detailpage" target="_blank">http://www.youtube.com/v/FUmv8_8qeTY?version=3&amp;feature=player_detailpage</a>



บทความจาก............

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง

ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐


49  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / ถาม - ตอบ ปัญหาธรรมเรื่อง"ปาฏิหารย์การเปิดโลกธาตุ" เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 20:17:01





ถาม.......นอกจากในสมัยพุทธกาลแล้ว จะมีการเปิดโลกธาตุเพื่อช่วยเหลือเหล่าสัตว์ได้อีกหรือไม่


ตอบ.......ปาฏิหารย์การเปิดโลกนั้น เป็นของไม่สาธารณะกับใคร คือ มีได้ กับ ปาฏิหารย์ที่

พระพุทธเจ้าทรงแสดงเท่านั้นไม่มีใครสามารถแสดงปาฏิหารย์เปิดโลกนี้ได้แม้

แต่อัครสาวก ท่านพระสารีบุตรท่านพระมหาโมคคัลลานะผู้เลิศด้วยฤทธิ์ก็ไม่

สามารถแสดงปาฏฺหารย์นี้ได้ จะกล่าวไปใยถึงคนสมัยนี้

ปาฏิหารย์การเปิดโลก คือ ปาฏิหารย์ที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดง ให้สัตว์โลกได้เห็น

กันและกัน ทั้งเทวดา มนุษย์ รวมทั้งสัตว์ นรก ที่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดง ปาฏิหารย์

เปิดโลกแล้ว มนุษย์ ก็จะเห็น เทวดาที่เสวยสมบัติ ความสุข และ เทวดาก็จะเห็นมนุษย์

นั้นด้วย และ เมื่อพระองค์แสดงภพภูมิสวรรค์แล้ว พระองค์ก็ทำให้ มนุษย์ ได้เห็น ภพ

ภูมินรก ที่น่ากลัว เห็นสัตว์นรกถูกทรมานนี้ ชื่อว่า ปาฏิหารย์เปิดโลก เพื่อให้มนุษย์

และ สัตว์ทั้งหลาย เห็นภพภูมิทั้งกันและกัน

ซึ่งจุดประสงค์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปาฏิหารย์เปิดโลก เพื่อให้มนุษย์ที่ได้เห็น

เกิดเห็นโทษของอกุศลกรรม คือ ทำให้เกิดในภพภูมินรก ที่น่ากลัวเพราะการทำ

อกุศลกรรม ทำให้มนุษย์และสัตว์โลกที่ได้เห็นภพภูมินี้ เกิด หิริ โอตตัปปะ เกรงกลัวที่

จะทำอกุศลกรรมงดเว้นจากบาปนี่คือประโยชน์ของการแสดงภพภูมนรกของ

พระองค์ เพื่อให้สัตว์สลดใจ งดเว้นจากบาป และพระองค์เปิดโลก คือ สวรรค์ ให้เห็น

ความสุขของเทวดา เพื่อให้สัตว์โลกเห็นคุณตามความเป็นจริงของ{กุศลธรรม}ว่านำ

มาซึ่งความสุข เพื่อให้มนุษย์และสัตว์โลก อบรมเจริญกุศลมากขึ้นนั่นเอง

ซึ่งปาฏิหารย์เปิดโลก ทรงแสดงไว้ เมื่อคราวเสด็จลงจากดาวดึงส์ เมื่อพระพุทธเจ้า

เสด็จลงจากดาวดึงส์เมื่อแสดงพะรอภิธรรมบนสวรรค์ 3 เดือนเพราะฉะนั้น

ปาฏิหารย์เปิดโลกแสดงได้เฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้นซึ่ง พระพุทธเจ้าปรินิพพาน

แล้วดังนั้น........ไม่มีใครสามารถแสดงได้ สมัยนี้จึงมีไม่ได้เลย

ซึ่งพระพุทธเจ้าทงแสดงโลกทั้งที่เป็นที่อยู่ของหมู่สัตว์ที่เรียกว่า{โอกาสโลก}มี

ภพภูมิต่าง ๆ มี สวรรค์ เป็นต้น แต่โลกตามความเป็นจริงที่เป็นโลกในวินัยของพระ

อริยเจ้า เป็นสัจจะ โลก คือ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ที่เกิดขึ้นและดับไป ไม่เที่ยง

เลยโลกนั้น คือ จิต เจตสิก และรูป เพราะฉะนั้น พระองค์ ไม่ใช่แสดงเพียงโลกทีเ่ป็น

ที่อยู่ของหมู่สัตว์ เท่านั้น แต่ให้สัตว์โลกเกิดปัญญา ด้วยการแสดงโลกตามความเป็น

จริง คือ สังขารโลกที่เป็นสภาพธรรมทีเ่กิดขึ้นและดับไปที่เป็นจิต เจตสิก และรูป

เพราะฉะนั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล มีแต่ จิต เจตสิก รูปเท่านั้น และที่มีที่อยู่ของสัตว์โลก

มี สวรรค์ เทวดา มี นรก เป็นต้นได้ ก็เพราะมี การประชุมรวมกันของสภาพธรรมที่เป็น

รูปธรรมนั่นเอง

ดังนั้น.........พระองค์แสดงหนทางการรู้จักโลกตามควาเมป็นจริง ที่สัตว์โลกเข้าใจผิด

ว่าโลก คือ โลกนี้ โลกมนุษย์ มีสัตว์ บุคคล แต่พระองค์แสดงหนทางการรู้จักโลก คือ

สภาพธรรม คือ การเจริญสติปัฏฐานระลึกรู้ลักาณะของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ที่เป็น

โลกแต่่ละขณะทีเ่กิดขึ้น ว่าเป็นต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ซึ่งก็ต้องเริ่มด้วยการฟังพระธรรม

ศึกษาพระธรรมโลกอีกนัยหนึ่งที่พุทธองค์ทรงแสดง คือ โลก ในวินัยของพระอริยเจ้า

มี 6 โลก ได้แก่ ตา - หู - จมูก - ลิ้น - กาย - ใจ

ผู้ที่ประจักษ์แจ้งโลกทั้ง 6 นี้ก่อนใครคือพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า


ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา



บทความจาก............

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง

ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐




Sometime Home.............http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=1201.0



<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae4"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva4"><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc4"></td></tr></table>
50  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / 心心所色的生滅和無我 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 13:51:03

ภาพพระยูไล(พระุพุทธเจ้า)ฝ่ายมหายานคงทราบกันดีแล้วน่ะ



ถ่ายภาพโดย....Sometime....สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย



ภาพจากวันวิสาขบูชา ๒๖๐๐ ปี พุทธยันตี ณ.มลฑลพิธีท้องสนามหลวง



佛法講座 = สนทนาธรรม



舒淨 หมายถึง..........ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

婉塔娜............อ่านออกมาแล้ว(น่าจะชื่อ คุณ วันทนา)ถ้าผิดต้องขออภัยด้วย

ส่วนเนื้อหาก็อ่านกันเอาเองเถอะน่ะ ยาวมาก ๆ แปลไม่ไหว ถ้าต้องการศึกษามากกว่านี้ต้องไปที่นี่เลยจ้ามูลนิธิศึกษาและ

เผยแพร่พระพุทธศาสนา ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษา ด้าน

ธรรมมะจริง ๆ เท่านั้นแล้วท่านจะเข้าใจอย่างละเอียดและลึกซึ้งว่า"ธรรมะที่แท้จริงเป็นอย่างไร"ไปนั่งฟังน่ะอย่าไปนั่งหลับถ้าไปนั่งหลับ

ก็ไม่มีประโยชน์และไม่ได้อะไรกลับมาเพื่อพัฒนาตนเองและทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ซักถามวิทยากรได้ไม่ต้องอาย




婉塔娜 = (คุณ วันทนา)各位聽衆,我們在過去的談話主題,都圍繞著心、心所、色、和涅槃所組成的四種究竟法,也稱第一義諦或勝義諦。現在我們要進一步討論,爲什麽世間所有法都歸納在四種究竟法中,而且佛祖說一切諸法無我。敬請舒淨居士開釋諸法無我的意思,俾使聽衆們能夠明白了解究竟法的真實意義,有助對佛法的研習與聼懂經義。

อาจารย์ สุจินต์........假如婉塔娜或聽衆們不明白究竟法中的心、心所、和色法,就等於不了解自己,也不知道圍繞在我們周圍的一切事物的實相。

คุณ วันทนา........我們會把眼前所看到的一切事物認爲是真實的人、動物、房屋……等等,或者認爲這是我的,那也是我的,緊緊的執著一切。

舒:實際上我們所看到的人、動物等,只不過是心、心所、和色等究竟法的組合。因爲不管我們怎麽樣稱呼所見到的事物,但事物所呈現的,僅是本身所具有的不同形態,譬如眼睛的看見,不論是你見到的、我見到的,大人的看見,小孩的看見,動物的看見,所看見的,無非都是外界顏色觸到眼神經而產生的眼識,經過心識的造作,就出現種種的不同感覺。也可以說,眼神經接觸顏色是隨生隨滅,但心裏的感覺卻綿綿不斷的存在著。

同樣的道理,耳朵所聽到的聲音,聲音只是一個個高高低低的音波,接觸到耳神經的耳識,隨即就在心裏被加工造作成爲各種各樣的意思。

氣味接觸到鼻神經的鼻識,鼻子的作用只是接觸氣味,而知道是甚麽氣味,與喜歡不喜歡是心的作用,也就是說,是心知道氣味,不是鼻子知道氣味;舌頭的作用只是接觸味道,分辨出是酸是甜、是苦是辣,與喜歡不喜歡也是心的功能。

身體接觸到的外界色相,思量起來,除了只有冷熱、軟硬、鬆緊,再也沒有別的。譬如拿著一個蘋果,和拿著一個鐵球,接觸到的同樣是“硬”;在冷氣房中,接觸到的是“冷”,在火堆邊,接觸到的是“熱”,握起拳頭,就接觸到“鬆緊”等等。

色聲香味觸通過眼耳鼻舌身五個門戶,再加上第六個門戶的心識,形成六個官能的不同身心感覺,也即是心、心所、和色的組合實相。

佛陀在弘揚佛法時,善於因材施教,四種究竟法說的是眼耳鼻舌身意,五蘊說的也是眼耳鼻舌身意,色法名法說的也是眼耳鼻舌身意,——一切沒有感知的稱謂“色”,屬於感知的稱謂“名”。

心、心所、和涅槃謂之“名”,色相謂之“色”; 五蘊中色蘊謂之“色”,受蘊、想蘊、行蘊、識蘊謂之“名”。

歸根究底,色、心、和心所的組合,就是肉體和心理的組合。

所以,不論以甚麽名字來稱呼,或是不必加以任何的稱呼,世間一切諸法現象都是這樣,即因緣聚合則生,緣盡則滅,無可改變,也不受控制,因此說心無我,心所和色也無我。心和心所有不同的種類,甚麽樣的因緣造成甚麽樣的心和心所的出現,而不論以甚麽名字來稱呼心所,或是不必加以任何的稱呼,心和心所的性質也不受控制或改變,過去如此,現在如此,未來也如此。

婉:我們在上回説到心所,心所是依附著心而生的感覺,與心同時生,同時滅,善的心和善的心所同時生滅,惡的心和惡的心所同時生滅。譬如我們見到受到災禍的人,心生憐憫的伸手援助,這個憐憫的心,並沒有人強迫它生出來,而出現后又馬上消失,也不受控制,這樣了解對嗎?

舒:不錯。那麽惡的心所,你能夠控制嗎?

婉:不能。舉例惱怒是一種惡的心所,怒火升起時很難受,但是聽到不喜歡的聲音,譬如吵架、說粗話、震耳欲聾的聲浪等,就會心生嗔怒。如果這些不喜歡的惡緣聲音消失,惱怒也消失。

舒:所以說諸法無常,不論是善的法則,或是惡的法則,不是我們要它,它就出現,不要它,它就不出現,而是只要有使它出現的緣,它就一定出現,不受任何人的管制。色呢,你可以試舉例子,説明色法的無常嗎?

婉:我想色的無常隨處可見,人會變老,強壯會變成衰弱,東西會損壞等,一切都不能控制。

舒:所以說,不論是人、動物,以及一切顯現的物質,它們的實相,全都是心,心所,和色的組合。如果沒有心,心所,和色的組合出現,我們所稱呼爲人、動物,或一切我們認爲存在的物質,實際上也沒有存在,因爲所謂的山川、樹林、桌椅……等等,它們的實質都是多種色相的組合,如果色的組合沒有顯現,所謂的山川、樹林、桌椅也不會顯現。

婉:那麽我們怎能知道色生滅,以及我們看到的,只是色的幻相呢?

舒:儘管色的生滅不明顯,但是我們可以從顏色的改變上觀察到,我們每天都面對的東西,不容易看到它的改變,但是相隔時間較長才看到的東西,改變就比較明顯,山川河流,也是在改變中,只是改變得慢而已。

婉:既然色的生滅迅速,可是爲甚麽我們幾乎看不到改變?

舒 色的生成有四個因素,由冷熱的因素而生成的色相,如果所處的溫度改變不大,色相的生滅變化就不明顯,擧個例子,拿樹葉去烤火,反常的高溫就使樹葉的色相迅速改變。人體也一樣,人體是由二十八種色相的組合而成,各種色相依各自的因素而各自生滅,剛才的色相,或昨天的色相已經滅失,沒有人能夠找回來,昨天的色相是健康的,但明天的色相可能衰弱有疾病,甚至損壞到不久就死亡,沒有人能控制。

可悲嘆的是,我們對於這些不能常住的色相苦苦執著,執有執無,不明白諸法生滅不息的實相,是無常、苦、和無我。

婉 各位聽衆,今天的談話,可能有助聽衆們對於諸法無我的認識,不管是善是惡,是苦是樂,都是因爲因緣合和而生,緣散而滅,不是任何人所能強求。今天的談話,就到此爲止,再見





บทความจาก............

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง

ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐




<a href="http://www.youtube.com/v/HlWN8h0qrmU?version=3&amp;feature=player_detailpage" target="_blank">http://www.youtube.com/v/HlWN8h0qrmU?version=3&amp;feature=player_detailpage</a>
51  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 11:09:21

จบภาคที่ ๑ พักทานข้าว - น้ำ

SEE YOU AGAIN EVERYDAY

<a href="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/08.wma" target="_blank">http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/08.wma</a>

52  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 11:08:05
รัก
53  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 11:06:26
รัก
54  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:46:36
รัก
55  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:44:58
รัก
56  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:43:29
รัก
57  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:39:48
รัก
58  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:37:23
รัก
59  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:35:56
รัก
60  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / Re: บรรยากาศเนื่องในวาระครบรอบ ๒๖๐๐ พุทธยันตี ภาค 1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2555 10:34:16
รัก
หน้า:  1 2 [3] 4 5 ... 96
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.834 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page 13 กรกฎาคม 2566 20:33:48