คนที่พูดได้อย่างนี้ จะมีความรู้สึกว่าของพวกนี้เกะกะเราอยู่ของเราง่าย ๆ ดีแล้ว มีก็ได้ไม่มีก็ดีไม่มีเราก็สบาย ชีวิตเป็นอิสระโปร่งเบา
ความสุข เริ่มไม่ขึ้นต่อวัตถุอามิสสิ่งเสพภายนอกความสุขเริ่มไม่ต้องหาความสุขที่ต้องหา แสดงว่าเราขาดคือยังไม่มีความสุขนั้นเราหาได้ที เสพทีก็มีสุขที
แต่ระหว่างนั้นต้องอยู่ด้วยการออยู่ด้วยความหวัง บางทีก็ถึงกับทุรนทุราย กระวนกระวายเพราะฉะนั้น จะต้องทำตัวให้มีความสุขด้วยตนเองสำรองไว้ให้ได้
ด้วยวิธีฝึกรักษา อิสรภาพของชีวิตและรักษาความสามารถที่จะมีความสุขไว้....................................ขั้นที่ 2 พอเจริญคุณธรรม..................................
เช่น มีเมตตากรุณา มีศรัทธาเราก็มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกประเภทหนึ่งแต่ก่อนนี้ชีวิตเคย ต้องได้วัตถุมาเสพต้องได้ ต้องเอาเมื่อได้จึงจะมีความสุขถ้าคือเสียก็ไม่มีความสุขแต่คราวนี้ คุณธรรมทำให้ใจเราเปลี่ยนไปเหมือน พ่อแม่ที่มีความสุขเมื่อให้แก่ลูก เพราะรักลูก ความรักคือเมตตา
ทำให้อยากให้ลูกมีความสุขพอให้แก่ลูกแล้วเห็นลูกมีความสุข ตัวเองก็มีความสุขเมื่อพัฒนาเมตตากรุณาขยายออกไปถึงใครให้แก่คนนั้นก็ทำให้ตัวเองมีความสุขศรัทธาในพระศาสนาในการทำความดีและใน การบำเพ็ญประโยชน์เป็นต้นก็เช่นเดียวกัน เมื่อให้ด้วยศรัทธาก็มี ความสุขจากการให้นั้นดังนั้นคุณธรรมที่พัฒนาขึ้นมาในใจเช่น เมตตากรุณา ศรัทธาจึงทำให้เรามีความสุขจากการให้การให้กลายเป็นความสุข...................................ขั้นที่ 3 ความสุขเกิดจากการดำเนินชีวิตถูกต้อง................................
สอดคล้องกับความเป็น จริงของธรรมชาติไม่หลงอยู่ในโลกของสมมติที่ผ่านมานั้นเราอยู่ใน โลกของสมมติมากและบางทีเราก็หลงไปกับความสุขในโลกของสมมตินั้นแล้ว ก็ถูกสมมติ ล่อหลอกเอาอยู่ด้วยความหวังสุขจากสมมติที่ไม่จริงจัง ยั่งยืนและพาให้ตัวแปลกแยกจากความจริงของธรรมชาติและขาดความสุข ที่พึงได้จากความเป็นจริงในธรรมชาติเหมือนคนทำสวนที่มีหวังความสุขจาก เงินเดือนเลยมองข้ามผลที่แท้จริงตามธรรมชาติจากการทำงานของตัวคือ ความเจริญงอกงามของต้นไม้ทำให้ทำงานด้วยความฝืนใจเป็นทุกข์ความ สุขอยู่ที่การได้เงินเดือนอย่างเดียวได้แต่รอความสุขที่อยู่ข้างหน้าแต่พอใจมาอยู่กับความเป็นจริงของธรรมชาติอยากเห็นผลที่แท้จริงตามธรรมชาติ ของการทำงานของตน คือ อยากเห็นต้นไม้เจริญงอกงาม
หายหลงสมมติก็มีความสุขในทำสวนและได้ความสุข จากการชื่นชมความเจริญงอกงามของต้นไม้อยู่ตลอดเวลาดังนั้น คนที่ปรับชีวิตได้ เข้าถึงความจริงของธรรมชาติจึงสามารถหาความสุขจาก การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของธรรมชาติ ได้เสมอพอ ปัญญามาบรรจบให้วางใจถูกชีวิตและความสุขก็ถึงความสมบูรณ์