[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 13:54:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "วัดไชยวัฒนาราม" สถาปัตยกรรมตามแบบผังปราสาทนครวัด กัมพูชา  (อ่าน 2731 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5392


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 16 มกราคม 2556 14:03:47 »


วัดไชยวัฒนาราม
โปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างตามแบบผังปราสาทนครวัด

วัดไชยวัฒนาราม หรือชัยวัฒนาราม  เป็นวัดโบราณแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านตะวันตกของเกาะเมือง  ตำบลบ้านป้อม  อำเภอพระนครศรีอยุธยา  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๓ ในบริเวณที่เดิมเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนี  เหตุที่เรียกชื่อวัดว่าวัดไชยวัฒนารามนั้น เพราะว่ามีชัยได้เมืองเขมร   ซึ่งแต่เดิมเขมรเคยเป็นประเทศราชของไทยมาก่อนตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ต่อมาในสมัยพระเจ้าทรงธรรมกลับแข็งเมืองเป็นอิสระ  ไทยยกกองทัพไปปราบก็พ่ายแพ้กลับมา  ครั้นถึงรัชกาลพระเจ้าปราสาททอง ไทยยกกองทัพไปปราบอีกครั้งหนึ่ง เขมรยอมแพ้ จึงได้กลับมาเป็นเมืองขึ้นอย่างแต่ก่อน และเมื่อพระเจ้าปราสาททองโปรดให้สร้างวัด จึงให้ไปถ่ายแบบแผนผังนครวัดที่เมืองเขมรเข้ามาสร้างเลียนแบบเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศ และให้ชื่อว่าวัดไชยวัฒนาราม  พระเจ้าปราสาททองทรงโปรดวัดนี้มาก เมื่อสร้างเสร็จทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสถาปนา และต่อมามักจะเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลที่วัดนี้เสมอ

พ.ศ. ๒๑๘๖ พระโหราธิบดีได้ทำนายว่าใน ๓ วัน จะเกิดเพลิงไม้ในพระราชวัง พระเจ้าปราสาททองจึงโปรดให้ขนของจากพระราชวังลงเรือบัลลังก์ เรือศรี เรือคลัง ออกไปลอยเรืออยู่หน้าวัดไชยวัฒนาราม  ส่วนในพระราชวังได้เกณฑ์ไพร่พล ๓,๐๐๐ คน พร้อมด้วยเครื่องมือดับไฟไว้ ถ้าเกิดเหตุไฟไหม้จะได้ช่วยกันดับได้ทันและห้ามหุงข้าวในพระราชวัง เมื่อครบ ๓ วัน เวลาบ่าย ๔ โมง  เรือตำรวจได้ไปกราบทูลว่าเหตุการณ์สงบ พระเจ้าปราสาททองก็สั่งเรือจะเข้าพระราชวัง เมื่อเสด็จถึงฉนวน* ประจำท่า พระโหราธิบดีได้กราบทูลว่าขอให้ย่ำฆ้องก่อนจึงจะสิ้นพระเคราะห์  พระเจ้าปราสาททองก็ให้ลอยเรือพระที่นั่งอยู่  ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมง  ฝนตกลงมาและฟ้าผ่าถูกพระมหาปราสาท ทำให้ไฟไหม้พระที่นั่งมังคลาภิเษก  ห้องคลังเรือนหน้าเรือนหลัง  ต่อมาพระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาให้ช่างสร้างคลังเรือนข้างใน และต่อพระมหาปราสาทใหม่ เมื่อแล้วเสร็จให้ชื่อว่าพระวิหารสมเด็จ และในสมัยพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ ไทยทำสงครามกับพม่าก็ได้ใช้วัดไชยวัฒนารามเป็นที่ตั้งค่ายด้วย



วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดที่สร้างด้วยความประณีตงดงามมาก จึงเป็นสัญลักษณ์ความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมของพระนครศรีอยุธยา  สิ่งสำคัญภายในวัดคือ  พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ  เป็นปูชยนียสถานสำคัญ สูงประมาณ ๓๕ เมตร  ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสตามมุมฐานมีปรางค์ทั้ง ๔ มุม ที่องค์พระปรางค์มีบันไดสำหรับขึ้นลงทั้ง ๔ ด้าน  รอบฐานสี่เหลี่ยมเป็นลานทักษิณ  ถัดไปเป็นพระระเบียงคดล้อมรอบ  ริมผนังภายในระเบียงคดมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยตั้งเรียงรายโดยรอบ  รอบระเบียงคดมีปราสาทหรือเมรุทิศประจำทั้ง ๘ ทิศ ในคูหาปราสาทประจำทิศทั้ง ๘ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยและพระพุทธรูปปูนปั้นทรงเครื่อง ข้างหลังปราสาทมีมุขเป็นซุ้ม  และด้านหลังของมุขมีรูปปั้นเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ

พระวิหารหลวง อยู่ต่อบริเวณข้างหน้าทางด้านตะวันออกของพระปรางค์

พระอุโบสถอยู่ต่อบริเวณพระวิหารหลวงออกมาทางด้านตะวันออก พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยหินทราย


ปัจจุบันวัดไชยวัฒนารามเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าคงจะร้างมาตั้งแต่ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๓๑๐  ประกอบกับบริเวณหน้าวัดเป็นที่ท้องคุ้ง กระแสน้ำพุ่งเซาะตลิ่งพังอยู่เสมอ  จึงทำให้สิ่งก่อสร้างภายในวัดพังทลายลงไปมาก  กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดไชยวัฒนารามเป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔  

พระเจ้าปราสาททอง
เมื่อพระเจ้าทรงธรรมเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๑๗๑ พระราชโอรสได้ขึ้นครองราชย์แทน ทรงอ่อนแอและขาดพระปรีชาสามารถ ทรงวางองค์แข็งกระด้างกับเจ้าพระยากลาโหม ผู้เป็นแม่ทัพ

ในไม่ช้าเจ้าพระยากลาโหมก็เกิดแค้นใจไม่สามารถจะทนทานพระเจ้าแผ่นดินผู้ไม่โปรดตนอีกต่อไปได้ จึงคบคิดกำจัดพระองค์เสียแล้วทำตนเป็นผู้เลือกตั้งและสนับสนุนพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ โดยยกพระราชโอรสองค์รองของพระเจ้าทรงธรรมขึ้นครองราชย์บัลลังก์ แต่ทรงครองราชย์อยู่ได้เพียง ๓๖ วันเท่านั้น ก็ทรงแสดงความอาจหาญที่จะไม่ไว้วางใจเจ้าพระยากลาโหม เจ้าพระยากลาโหมผู้เป็นแม่ทัพเกิดไหวทัน จึงปลงพระชนมชีพเสีย  

เป็นอันว่าท่านแม่ทัพได้เป็นผู้ปลงพระชนมชีพพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าทรงธรรมถึงสองพระองค์ สิ้นสุดพระราชวงศ์สุโขทัย (พระมหาธรรมราชาสืบเชื้อสายมาจากพระร่วง)  แล้วเจ้าพระยากลาโหม ผู้เป็นแม่ทัพ ก็เลยยกตนเองขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ใน พ.ศ.๒๑๗๓ (ค.ศ. ๑๖๓๐) ทรงได้พระสมญาว่า พระเจ้าปราสาททอง แต่ราชวงศ์ของพระองค์ก็อยู่ได้ไม่นานนัก

รัชกาลพระเจ้าปราสาททองไม่ใช่รัชกาลที่เจริญ มีแต่การกบฏและการผลาญชีวิต  ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังทรงปลีกเวลาจัดการก่อสร้างตึกรามอันงดงามในพระราชวัง อันน่าจะสมกับพระสมญา ครั้นพระองค์สวรรคตใน พ.ศ.๒๒๐๒  กรุงศรีอยุธยาก็เข้าสู่ยุคอันน่าเศร้าและน่าอับอาย  

พระราชโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าปราสาททอง ทรงครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระราชบิดาได้เพียงหนึ่งปีกว่ ๆ  พระอาและพระอนุชาทรงพระนามว่า เจ้าฟ้านารายณ์  ทรงคบคิดกันจับพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหญ่ปลงพระชนมชีพเสีย  

พระอาก็ได้ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ในไม่ช้าก็ปรากฏว่าทรงมีพระนิสัยไม่หนักแน่นและทรงมีกำหนัดจัด จนกระทั่งทรงรบกวนหลานของพระองค์เอง คือพระกนิษฐาของเจ้าฟ้านารายณ์  เจ้าฟ้านารายณ์ทรงปราดเปรื่องในการคบคิด ทรงมีพวกพ้องมาก จึงจัดการกำจัดและปลงพระชนม์พระเจ้าอาเสียได้โดยง่าย  แล้วยกพระองค์เองขึ้นครองราชย์สมบัติ และไทยเราเรียกพระองค์ท่านอย่างง่ายๆ ว่า พระนารายณ์ (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช)


ข้อมูล : ๑.หนังสืออักรานุกรมประวัติศาสตร์ไทย  จัดพิมพ์เผยแพร่โดยกรมศิลปากร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๖
           ๒.หนังสือเจ้าชีวิต พระนิพนธ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

* ฉนวน เป็นคำเรียกทางเดินซึ่งมีเครื่องกำบัง ๒ ข้าง  อาจจะเป็นผนัง หรือแผงกั้นบังตาคนภายนอก  เป็นเส้นทางสำหรับพระมหากษัตริย์หรือเจ้านายฝ่ายใน เสด็จขึ้นลงหรือผ่านเข้าออก หรือบางครั้งก็ใช้เรียกทางเดินมีที่กำบังสำหรับลงสรงน้ำที่ศาลาริมแม่น้ำของพระสงฆ์ด้วย เช่น ที่วัดพระเชตุพนสมัยโบราณ




 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 กันยายน 2558 15:25:55 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
คนไทยไม่ทิ้งกัน เชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือ ทหารและผู้ประสบภัย ชายแดนไทย-กัมพูชา
ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
หมีงงในพงหญ้า 4 4714 กระทู้ล่าสุด 28 เมษายน 2554 12:42:29
โดย หมีงงในพงหญ้า
“พุทธศิลป์ในลัทธิตันตรยาน (วัชรยาน) จาก อินเดีย ชวา จัมปา กัมพูชา และ มอญโบราณ"
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1297 กระทู้ล่าสุด 11 มกราคม 2560 13:09:08
โดย มดเอ๊ก
แบบธรรมเนียมพุทธศาสนา ไทย ลาว กัมพูชา
เกร็ดศาสนา
Kimleng 0 648 กระทู้ล่าสุด 18 กรกฎาคม 2564 15:03:59
โดย Kimleng
[ไทยรัฐ] - มีฮอนดะแล้วไง สื่อเวียดนาม วิเคราะห์สาเหตุ ไทย U23 จะอัด กัมพูชา ขาดลอยในซีเกมส์
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 206 กระทู้ล่าสุด 14 พฤษภาคม 2565 15:02:43
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวด่วน] - กัมพูชา MOU ซิโนแวคของจีนตั้ง รง.บรรจุ-ปิดผนึกวัคซีนโควิดในประเทศ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 174 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2565 09:50:51
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.385 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 02 มกราคม 2567 09:17:17