องค์พระเจดีย์เดิม ถูกสร้างครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง
วัดพระธาตุดอยสะเก็ด มีความสะอาดเป็นระเบียบ ต้นไม้ตัดแต่งสวยงาม
จนได้รับการยกฐานะให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
พระพุทธบาทจำลอง วัดพระธาตุดอยสะเก็ด
ในสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพุทธปาฏิหาริย์
เสด็จมาประทับ ณ เขาลูกนี้แล้วประทานพระเกศาธาตุแก่พญานาค ๒ ตัว
ที่แปลงกายเป็นชายหนุ่มหญิงสาวนำดอกบัวมาถวายพระพุทธองค์
วัดจึงได้สร้างรอยพระพุทธบาทจำลองเพื่อเป็นพุทธานุสสติและเป็นพุทธบูชา
ญาติโยมมาสักการะขอให้ตั้งจิตให้ดี จะเป็นบุญกุศลสืบไป
หินก้อนนี้ เดิมสูง ๕ เมตร
ตอนปรับบริเวณวัดปรากฏว่าส่วนที่เหลือแมคโคร์ขุดจนฟันหักก็ปรับไม่ได้
จุดระเบิดหินก็ไม่แตกกดไม่ลง
ข้อมูล : คัดจากจารึกศิลาข้างพระพุทธบาทจำลอง
อาคารพิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด
ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงการก่อตั้งชุมชนหลังการสร้างพระธาตุดอยสะเก็ด
และการเข้ามาของศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม
ซึ่งเป็นมูลเหตุให้คนในชุมชนมีการเลือกนับถือศาสนาหลากหลาย
การแต่งกายและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไตลื้อในต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔ เมืองเชียงใหม่และเมืองน่านได้เข้าไปมีบทบาททางการเมืองและการทหาร
ในสิบสองปันนาและเชียงตุง จึงมีการกวาดต้อนและชักจูงชุมชนไตลื้อเข้าสู่เมืองเชียงใหม่และลำพูน
ตามนโยบาย “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง” จากการค้นคว้า สันนิษฐานว่าบริเวณอำเภอดอยสะเก็ด
เป็นที่ที่กลุ่มชาวไทยลื้อกลุ่มเมืองเชียงรุ้ง เมืองฮำ เมืองแซ่ เมืองลู เมืองออง เมืองลวง
มาตั้งรกรากอยู่เมื่อประมาณ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว และต่อมาเมื่อประชากรเพิ่มมากขึ้นก็มีการขยายชุมชน
ตามที่ราบลุ่มของแม่น้ำต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จนในปัจจุบันชาวบ้านไตลื้อในอำเภอดอยสะเก็ด
มีประมาณ ๔ หมู่บ้าน คือ บ้านลวงเหนือ ลวงใต้ ป่าเมี่ยง ป่าคา
ชาวไตลื้ออำเภอดอยสะเก็ดแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และสัญลักษณ์
เช่น ภาษาพูด ความเชื่อ การแต่งกาย อาหารการกิน การแสดง อาชีพเกษตรกรรม
ตลาดผดุงดอยแดน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ความอุดมสมบูรณ์ของดอยสะเก็ด เริ่มที่บ้านเชิงดอย ทำเลที่เหมาะสำหรับการค้าขายแลกเปลี่ยน
จึงทำให้มีผู้คนมาทำการค้าขายกันอย่างคับคั่ง วิถีชีวิตของคนในชุมชนจึงมีอาชีพค้าขาย
ต่อมา
ขุนผดุงดอยแดนได้สร้างตลาดขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการศื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า