[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
16 เมษายน 2567 22:09:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บูชาปี่เซียะ เทพศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน  (อ่าน 69826 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
-NWO-
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +1/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United States United States

กระทู้: 518


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 31.0.1650.57 Chrome 31.0.1650.57


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2556 22:24:54 »

บูชาปี่เซียะ เทพศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน


ปี่เซียะ (สำเนียงแต้จิ๋ว) หรือ ผีซิว (สำเนียงกลาง) หรือ เผยเหย้า (สำเนียงกวางตุ้ง) เป็นสัตว์ประหลาดตามความเชื่อของจีนมาแต่โบราณ เชื่อว่า ปี่เซียะ มีรูปร่างและเขาคล้ายกวาง แต่มีปีกคล้ายนก และมีส่วนหางคล้ายแมว เป็นสัตว์สี่ขา และเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ช่วยป้องกันและปัดเป่าภยันตรายและภูตผีปีศาจ สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ได้

ตามตำนานความเชื่เชื่อว่าถูกแบ่งเป็นตัวผู้ชื่อ ปี่ และ ตัวเมียชื่อ เซียะ นอกจากนี้แล้วยังมีชื่อเรียกอื่นอีก เช่น เทียนลู่ หรือ เทียนลก ตามแต่ละพื้นที่อีกด้วย ซึ่งความหมายของชื่อเหล่านี้ แปลได้ว่า กวางสวรรค์ หรือ ขจัดปัดเป่า


ส่วนบางความเชื่อกล่าวไว้ว่า ปี่เซียะ เป็นลูกตัวที่ 9 ของมังกร เป็นสัตว์ที่กินเก่งและไม่มีรูทวาร จึงไม่มีการขับถ่าย ในปลายยุคราชวงศ์โจว ตรงกับยุคชุนชิว มีการนำปี่เซียะมาใช้เป็นสัญลักษณ์โดยประดับเป็นรูปบนธงสำหรับการออกรบ โดยรวมในอดีตสันนิษฐานว่า ปีเซียะให้ความหมายในทางความกล้าหาญ การปกป้องคุ้มภัย และการต่อสู้เพื่อจะให้ได้มาซึ่งชัยชนะ

นอกจากนี้แล้ว ปี่เซียะยังเป็นสัญลักษณ์ของการพิทักษ์และคุ้มครองทรัพย์สมบัติอีกด้วย อันเนื่องจากการที่เป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียวไม่มีการขับถ่าย จึงมีการปั้นเป็นรูปปั้นเฝ้าหน้าท้องพระโรง ภายในพระราชวัง เช่น ฮ่องเต้ปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิงและประเทศจีน

ดังนั้นคนที่บูชา ปี่เซียะ จึงมักจะใช้ถือเคล็ดในเรื่องการเก็บทรัพย์เรียกทรัพย์ ให้มีเงินทองใช้ไปตลอดไม่รั่วไหลเป็นของมงคลเรียกทรัพย์นั่นเอง

ปัจจุบัน มีการบูชาปี่เซียะ โดยมักทำเป็นรูปเคารพของสัตว์ที่มีลักษณะดังกล่าวในลักษณะหมอบ และมักทำเป็นคู่กัน โดยจะตั้งวางให้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยด้วย อีกทั้งยังเป็นที่บูชาของนักพนัน ผู้ที่นิยมเสี่ยงโชคในลักษณะวัตถุมงคล จากการที่เป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียวไม่มีถ่าย จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเก็บทรัพย์ ซึ่งกาสิโนบางแห่งในประเทศจีน, มาเก๊า และฮ่องกง จะมีรูปปั้นปี่เซียะนี้อยู่ด้านหน้าด้วย


การบูชา ปี่เซียะ

- ควรเอาใจใส่ด้วยวิธีทำความสะอาดพูดคุยด้วยบ่อยๆ ลูบหัวและลูบบั้นท้ายคล้ายสัตว์เลี้ยง

- การอธิษฐานนั้นให้ใช้มือลูบเป็นสื่อในการสื่อสารกับปี่เซียะหากตั้งไว้เฉยๆจะได้ ประโยชน์น้อยดังนั้นผู้ที่มีปี่เซียะต้องหมั่นสัมผัสปี่เซียะเพื่อทำการขอ การสัมผัสปี่เซียะนั้นถ้าทำการลูบที่ท้อง จะเกิดอานิสงส์ทางด้านความสมบูรณ์พูนสุขลูบหัวทำให้บารมีดี ปัญญาผ่องใสลูบหลังทำให้มีโชควาสนา ห้ามลูบปาก เพราะจะเก็บทรัพย์ไม่อยู่

- สำหรับปี่เซียะคู่(ตัวใหญ่แบบตั้งโต๊ะ) ต้องตั้งให้เด่น มองเห็นชัด หันหน้าไปที่ประตูเข้าบ้านตั้งเป็นคู่ให้ก้นชนกัน โดยให้ตัวเมียอยู่ด้านขวา(ตัวเมียคือตัวที่ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า มีหน้าที่รักษาพิทักษ์ทรัพย์) ให้ตัวผู้อยู่ด้านซ้าย(ตัวผู้คือตัวที่ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้ามีหน้าที่บันดาลทรัพย์) ควรมีน้ำเปล่าวางไว้หนึ่งแก้ว(ถ้วยก็ได้)นอกจากนี้สามารถกำนัลด้วย ส้ม หรือผลไม้อื่นๆประกอบกันได้




ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก http://th.wikipedia.org

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

- New World Order -
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2557 21:13:08 »


ในการบูชาปี่เซี๊ยะ จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ
" บูชาแบบเดี่ยว " และ " บูชาเป็นคู่ "




ปี่เซียะที่บูชาเดี่ยว ตามตำราโบราณกล่าวว่า
ปี่เซียะที่ถูกต้องตามลักษณะนั้น จะต้องมีลักษณะ 9 ประการคือ
1. อ้าปาก (รับทรัพย์)
2. หางยาว (กวักโชคลาภ)
3. ยกหัว (ข่มศัตรู)
4. เท้าตะปบเงิน (รักษาทรัพย์)
5. ก้าวขา (ก้าวหน้า)
6. ลิ้นยาว (ตวัดโชคลาภเงินทอง)
7. องอาจ (น่าเกรงขาม)
8. ไม่มีรูทวาร (ทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีออก)
9. บั้นท้ายใหญ่ (เก็บทรัพย์ได้มาก)


ส่วนปี่เซี๊ยะที่บูชาเป็นคู่
จะมีลักษณะที่เป็นมงคลของปี่เซียะไว้ 12 ประการ คือ
1. หน้าดุ เขี้ยวแหลม หมายถึง การป้องกันสิ่งอัปมงคลต่างๆ
ไม่ให้มาแผ้วพานต่อทรัพย์สินของผู้ที่มีไว้บูชา
2. ตัวคล้ายกวาง (ส่วนหลัง) หมายถึง ความแคล่วคล่องว่องไว
เจริญรุ่งเรือง มีคุณธรรม
3. เท้าเหมือนราชสีห์ ก้าวไปข้างหน้าอย่างองอาจ หมายถึง
ความมีอำนาจ หนักแน่น มั่นคง
4. กำยำล่ำสัน หมายถึง ความมีสุขภาพแข็งแรง ทรงพลัง
5. ตามองฟ้า หมายถึง มองการณ์ไกล มุ่งมั่น
ที่จะไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
และความกระตือรือร้นในการทำมาหากิน
6. ปีกสองข้าง หมายถึง ความสง่างามมีเสน่ห์ โดดเด่นกว่าผู้อื่น
7. เขาลักษณะงอเป็นตาขอ หมายถึง ความน่าเกรงขาม
8. เคราสองข้าง หมายถึง อายุยืน
9. หูสองข้างกลมปลายเรียว หมายถึง ความหนักแน่นไม่หูเบา
ไม่หวั่นไหวต่อการนินทาว่าร้าย
10. หางพวงเหมือนหางแมว หมายถึง ความอ่อนโยน มีเสน่ห์
สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์
11. เอวคอด สะโพกใหญ่ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย
12. ยืนย่อตัวเล็กน้อย หมายถึง ความอ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่เย่อหยิ่ง
เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่พร้อมจะโลดแล่นไปข้างหน้า
เพื่อที่จะทะยานสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว


ปี่เซียะตัวผู้ >> ก้าวขาซ้าย มีลักษณะตัวเล็กและเพรียว เขาสั้น
เพราะตัวผู้มีหน้าที่หาทรัพย์ จึงต้องมีลักษณะ
ปราดเปรียวว่องไว จึงจะหาทรัพย์ได้มาก


ปี่เซียะตัวเมีย >> ก้าวขาขวา มีลักษณะตัวอวบใหญ่
เพราะตัวเมียมีหน้าที่ให้กำเนิดบุตร
และเฝ้าทรัพย์จึงต้องมีรูปร่างที่ใหญ่
เขายาวน่าเกรงขามเพื่อพิทักษ์ทรัพย์
ทั้งยังแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่งอีกด้วย

บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2557 21:15:40 »


การนำเทพปี่เซียะไปบูชา
วันแรกควรปฏิบัติดังนี้
o ไหว้พระพุทธรูปในบ้าน บอกกล่าวว่าจะนำเทพปี่เซียะเข้ามาบูชา
เพื่อเรียกโชคลาภ ดูแลทรัพย์สิน

o ไหว้พระภูมิเจ้าที่ หรือ ตี่จู๋เอี๊ย บอกกล่าวว่า
จะนำเทพปี่เซียะเข้ามาบูชาเพื่อเรียกโชคลาภ ดูแลทรัพย์สิน

o จุดธูปกลางแจ้ง 7 ดอก บอกกล่าวเทพปี่เซียะ
อัญเชิญให้มาอยู่ในเคหะสถานของเรา ช่วยเรียกโชคลาภ
ทรัพย์สิน เงินทอง ขอให้มีอำนาจบารมี เป็นที่เคารพ
ยำเกรง และมีเสน่ห์ เป็นที่เมตตา เอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่
ให้อำนวยความสะดวกราบรื่นในหน้าที่การงาน
ครอบครัวมีความสมบูรณ์พูนสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
พ้นจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง

o เมื่อนำเทพปี่เซียะตั้งในตำแหน่งที่เป็นมงคล และไหว้ด้วยส้ม 4 ผล

o กลางคืนผู้บูชาสวดมนต์ (บทที่สวดได้) หน้าพระพุทธรูป นั่งสมาธิ
(ทำจิตให้สงบ) ทำติดต่อกัน 3 คืน หลังจากนั้นไหว้พระสวดมนต์
นั่งสมาธิ และปล่อยสัตว์ บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยอนาถา
ตามโรงพยาบาล ตามโอกาส

อานิสงส์ของการบูชา
กล่าวโดยสรุปแล้วความเชื่อในการบูชาปี่เซียะมีดังนี้

1. ทรัพย์มีแต่เข้า ไม่มีออก
2. ขจัดอาถรรพ์ กำจัดปีศาจ และป้องกันสิ่งชั่วร้าย
3. การค้าก้าวหน้า ธุรกิจร่ำรวย รายได้ดี
4. โชคดี มีโชคลาภ เงินทอง
5. สุขภาพร่างกายแข็งแรง
6. นำมาซึ่งเกียรติยศชื่อเสียง
7. ครอบครัวมีแต่ความสุข
8. รุ่งเรืองในทุกๆด้าน โดยเฉพาะการเสี่ยงโชค และค้าขาย

ประเด็นสุดท้ายที่ขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ สำหรับผู้ที่จะบูชาปี่เซียะก็คือ
ปี่เซียะเป็นสัตว์มงคลที่ได้รับความเคารพเยี่ยงเทพองค์หนึ่งเช่นกัน
และเป็นของเฉพาะบุคคล (ผู้บูชา) เท่านั้น
ดังนั้นเมื่อบูชาแล้วห้ามยกให้ใครเป็นอันขาด


- ผู้จัดการรายวัน โดย : สุพิชญา ชัยโชติรานันท์ จาก “มุมจีน”
- http://www.amulet.in.th
- http://www.jingjoktak.com
- http://images.thaiza.com
- http://www.tvmallplus.com
- http://www.akefuture.com
- http://www.miracle-feng-shui.com
- http://www.thaiselling.com
บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2557 21:19:57 »




ขอยืมรูปหน่อยนะร้านค้า ขอบคุณจ้า

สำหรับปี่เซียะเดี่ยว( จี้หยก หรือแบบพกพา )
พกติดตัวห้อยคอ หรือห้อยที่เอว
ต้องอยู่ต่ำกว่าพระห้ามไส่กระเป๋าเงิน
ควรคล้องเอาไว้ให้สัมผัสกับเนื้อตัวของเรา
ปี่เซียะเป็นสัตว์มงคลเฉพาะบุคคลเมื่อบูชาแล้วห้ามยกให้ใคร
(เพราะถือว่าเหมือนกับยกโชคให้คนอื่น )
แต่ปี่เซียะที่ยังไม่ได้บูชาประกาศความเป็นเจ้าของสามารถมอบให้ผู้อื่นได้
โดยแก้เคล็ดด้วยการให้ผู้จะรับปี่เซี๊ยะจ่ายเงินค่าปี่เซี๊ยะให้ผู้มอบ
จำนวนเงิน 2 ตำลึง หรือ 8 บาท
ก็ถือว่าปี่เซี๊ยะนั้นเป็นของผู้รับมอบโดยสมบูรณ์



ปี่เซียะที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก ควรปฏิบัติดังนี้
ในวันพระ(ขึ้น 15 ค่ำ) ให้นำปี่เซี๊ยะวางไว้หน้าพระพุทธรูป
เพื่อเป็นการรับพลังพุทธานุภาพจากพระพุทธรูป อย่างน้อย 1 คืน (หรือทุกวันพระ) ให้จุดธูป 8 ดอกเพื่อบูชาพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์มหาเทพ บิดามารดา ครูอาจารย์ สวดพระคาถาบทใดบทหนึ่ง ให้นั่งสมาธิอธิษฐานจิตอย่างน้อย5นาที
กรวดน้ำแผ่เมตตาส่วนบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลายยิ่งปฏิบัติได้มากเท่าไหร่
เทพปี่เซี๊ยะก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้น
บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2557 21:30:00 »


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องลางตามคติความเชื่อของคนจีน

ปี่เซียะ เทพร่ำรวย

ปีเซียะ   คือเทียนลก  เป็นเทพ  1  ใน  3  เทพของ(ฮก,ลก,ซิ่ว)
เทียนฮกคืออำนาจ  (สัญลักษณ์คือสิงห์โต) 
เทียนลกคือความร่ำรวย  (สัญลักษณ์คือกวางสวรรค์) 
เทียนซิ่วคืออายุยืนนาน(สัญลักษณ์คือเต่ามังกร) 

ปี่เซียะคือกวางสวรรค์มี  1  ปาก ไม่มีรูทวาร  เชื่อกันว่าทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีออก  ธนาคาร  ร้านค้า 
และนักแสวงโชคนิยมมีไว้บูชาเพื่อปกป้องทรัพย์สินเงินทอง  ไม่ให้รั่วไหล 
เป็นสัตว์มงคลที่มีอานุภาพในทางกำจัดสิ่งชั่วร้าย  รวมทั้งป้องกันคุณไสย  และผีร้ายต่างฯ 
เป็นสัตว์ที่เป็นมงคลเรียกทรัพย์  และพิทักทรัพย์เป็นสัตว์ที่นำโชคของชาวจีน



ปี่เซียะคือลูกมังกรตัวที่ 9
มังกร เป็นสัตว์สูงส่งมีอำนาจและบารมี (เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้)ซึ่งชาวจีนให้ความเคารพนับถือ
ปี่เซียะคือลูกมังกรตัวที่ 9 จึงมีลักษณะหรือรูปร่างคล้ายมังกรเป็นหลัก เพราะมังกรมีพร้อม 12 นักษัตริย์ คือ

1.มังกรมีหนวดหนู(ชวด)หมายถึงมีความฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณดี
(,ลูบหนวด)นักเรียน,นักศึกษาอธิษฐานขอให้ฉลาดเรียนหนังสือเก่ง สอบได้คะแนนเกียรตินิยม
2.มังกรมีเขาวัว(ฉลู)หมายถึงความซื่อสัตย์ เข้มแข็ง มั่นคง
(ลูบเขา)อธิษฐานขอให้มีความมานะอดทน มีความเพียรเป็นเลิศ
3.มังกรมีเขี้ยวเสือ(ขาล)หมายถึงพลังอำนาจ วาสนา
(ลูบเขี้ยวเฉพาะคนที่ทำงานมียศมีตำแหน่งเท่านั้น)อธิษฐานขอให้ได้เลื่อนยศ,เลื่อนตำแหน่งหรือได้โยกย้าย
4.มังกรมีตากระต่าย(เถาะ)หมายถึงความเมตตากรุณา
(ลูบดวงตาเหมาะสำหรับคนที่ปฏิบัติธรรม)อธิษฐานขอให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ได้รู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้
5.มังกรมีปีกหรือไม่มีปีกก็ต้องบินได้(มะโรง)หมายถึงความสูงส่ง มีอำนาจบารมี
(ร่ำรวย,มีอำนาจลูบบริเวณปีก)อธิษฐานขอให้การค้าขายเจริญก้าวหน้าและร่ำรวย
6.มังกรมีลำตัวของงูเล็ก(มะเส็ง)หมายถึงความรวดเร็วว่องไวและร่ำรวย
(รุ่งเรืองก้าวหน้า,ลูบบริเวณลำตัว)อธิษฐานขอให้อาชีพการงานเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
7.มังกรมีตะโพกใหญ่เหมือนม้า(มะเมีย)หมายถึงความคักคักเข้มแข็ง ร่ำรวย
(สำเร็จสมหวัง,ลูบตะโพก)อธิษฐานขอให้อาชีพการงานประสพความสำเร็จสมหวัง
8.มังกรมีเคราของแพะ(มะแม)หมายถึงความสุขุมรอบครอบ,อายุยืน
(อายุยืนนาน,ลูบเครา)อธิษฐานขอให้สุขภาพดี มีอายุยืนนาน
9.มังกรมีจมูกของลิง(วอก)หมายถึงความสนุกสนาน ร่าเริง มีความสุข
(มีความสุข,ลูบจมูก)อธิษฐานขอให้ลูกหลานเจริญก้าวหน้าและครอบครัวมีความสุข
10.มังกรมีขาของไก่(ระกา)หมายถึงความสง่างาม ทระนงองอาจ มีเขี้ยวเล็บ
(มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม,ลูบขา)อธิษฐานขอให้ประสพความสำเร็จเกี่ยวกับความรัก
11.มังกรมีหน้าของสุนัข(จอ)หมายถึงความซื่อสัตย์ยุติธรรม
(ผู้ใหญ่หรือเจ้านายเมตตา,ลูบบริเวณหน้า)อธิษฐานขอให้ลูกหลานเจริญก้าวหน้ามีความสุข
12.มังกรมีหางของหมู(กุน)หมายถึงความอยู่ดีกินดี และมีโชคลาภ
(มีโชคลาภ,ลูบที่หาง)อธิษฐานขอให้มีโชคลาและร่ำรวย



การบูชาเทพปี่เซียะไปให้กับผู้อื่นถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง เพราะเทพปี่เซียะเป็นสิ่งของที่ศักดิ์สิทธิ์และมีคุณค่า
เป็นสื่อความหมายไปถึงผู้ที่เรารักและเคารพให้ได้ทราบถึงความในใจว่า "เรารักและเคารพเขาเพียงใด"
และนี่คือประเพณีที่ดีงามของเราชาวพุทธมหายานสืบทอดต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน 



ผลไม้ที่นิยมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ของชาวจีน

ขนมจันอับ ชาวจีนเรียกว่า “โหงวเส็กทึ้ง” แปลว่าขนม 5 สี
ส้ม ชาวจีนเรียกว่า ไต้กิก หมายถึงความเป็นศิริมงคล ความมีโชคลาภ
องุ่น ชาวจีนเรียกว่าผู่ท้อ หมายถึงความเจริญ งอกงาม
สัปปะรด ชาวจีนเรียกว่า อั่งไล้ หมายถึง โชคลาภวิ่งเข้ามาหา
กล้วย ชาวจีนเรียกว่า เฮียงเจีย หมายถึงมีทายาทสืบสกุล
ท้อ ชาวจีนเรียก ท้อ ถือว่าเป็นผลไม้สวรรค์ กินแล้วอายุยืน
ทับทิม ชาวจีนเรียกว่าเสียะลิ้ว เป็นผลไม้สวรรค์เช่นกัน หมายถึงความสมบูรณ์พูลสุข



กระถางธูปที่ใช้ไหว้เจ้าให้ใส่ "โหงวจี้" สำหรับปักธูป

โหงวจี้ หมายถึงสิ่งของที่เป็นมงคล 5 อย่างคือ
1. ข้าวเปลือก(ถ้าเป็นข้าเปลือกที่ผ่านพิธีแรกนาขวัญมาจะถือว่าสุดยอด)
2. ถั่วแดง
3. ถั่วเขียว
4. ถั่วดำ
5. งา
ความหมายคือความเจริญงอกงาม และความรุ่งเรือง

บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2557 21:36:40 »


หยก กับ ปี่เซี๊ยะ
อัญมณี ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนนิยมเสริมสิริมงคลให้มากขึ้น ด้วยความที่มันสวยเป็นเครื่องประดับได้
และยังถือว่าเสริมมงคลอีกต่างหาก "หยก" หมายถึง แร่สองชนิด คือ เจไดต์และเนไฟรต์
แร่ทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน และมีรูปลักษณ์เหมือนกันมาก 
ซึ่งจะมีสีแตกต่างกันออกไป นับตั้งแต่สีขาวนวลไปจนถึงสีม่วง
หรือแม้กระทั่งสีดำและสีเขียว  ซึ่งเป็นสีที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด 
 
คำว่า "หยก" ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมของแร่ทั้งสองชนิดนี้
มีต้นกำเนิดมาจากคำภาษาสเปน "piedra  de la ijada"
แปลตามตัวว่า "หินสีข้าง" (เชื่อว่าเป็นชื่อที่ตั้งให้กับหินชนิดนี้ ในฐานะที่ชาวอินเดียนนำหินดังกล่าวมาใช้ในการรักษาที่เกี่ยวกับไต) 
นักผจญภัยชาวสเปน ผู้ค้นพบในอเมริกาเชื่อว่าหยกสามารถรักษาโรคไตได้
นอกจากนี้คำว่า "Nephrite"  ยังมาจากคำว่า "Nephros" ซึ่งเป็นภาษากรีกแปลว่า "ไต"
ชาวอินเดียนแดงสวมใส่แร่ชนิดนี้เป็นเครื่องรางป้องกันไม่ให้ถูกงูพิษกัดและเพื่อรักษาโรคลมบ้าหมู
และชาวพรีโคลัมเบียน  (ชาวอเมริกันอินเดียนก่อนสมัยที่โคลัมบัสค้นพบอเมริกา) ใช้หยกอย่างแพร่หลาย
เช่นเดียวกับมหาราชาของอินเดียหลายพระองค์ที่คลั่งไคล้หยกอย่างมาก
เพราะสมบัติล้ำค่ามากมายของมหาราชาเหล่านี้แกะสลักมาจากหินอันทรงคุณค่าชนิดนี้นั่นเอง
แต่ทว่าไม่มีชาติใดที่ จะมีความเกี่ยวข้องกับหยกมากไปกว่าชนชาติจีนอีกแล้ว 
ชาวจีนนำหยกมาใช้เมื่อ  4,000 ปีมาแล้วหยกฝังแน่นกับวัฒนธรรม หลักปรัชญา และมโนทัศน์ของชาวจีน
หยกคือสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกับชนชาติจีน แม้กระทั่งปัจจุบันก็มีชาวตะวันตกไม่มากนักที่ลุ่มหลงหยก
หยกที่ดีที่สุดนั้นมาจากประเทศพม่า คนจีนนั้นมีความเชื่อว่าหยกมีพลังอำนาจพิเศษที่ช่วยคุ้มครองผู้สวมใส่
เช่น คนที่ใส่ตกบันไดหรือถูกรถชน แต่สิ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างเดียวคือ สร้อยข้อมือหยก 
หยกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ หรือไม่ก็หักเป็นสองซีก เพราะว่ามันจะดูดซับผลกระทบจากอุบัติเหตุนั้นไว้
และยอมให้ตัวมันเองแตกหัก ก็เลยช่วยชีวิตของคนสวมหรือช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้
ใครก็ตามที่เพิ่งประสบเหตุการณ์ทำนองนี้จะรีบออกไปซื้อจี้หยกมาแทนของเก่าทันที  ไม่มีใครสนใจจะสวมใส่หยก
ที่ได้รับการซ่อมใหม่แม้ว่าจะซ่อมออกมาดีก็ตาม เพราะพลังอำนาจในการคุ้มครองหมดไปแล้วจึงต้องใช้อันใหม่แทนที่

ส่วนเคล็ดลับในการเลือกซื้อหยกสิ่งสำคัญสุดในการเลือกคือสี

สี "เขียวมรกต" (แต่สีเขียวจะเป็นหยกที่มีราคาแพงสุด)
เป็นสีที่คนเสาะหามากที่สุด เพราะเป็นของมรกต จึงควรเป็นสีที่บริสุทธิ์ เข้มสม่ำเสมอกันทั้งเม็ด สีซีดยิ่งราคาถูก

จากนั้นก็เป็นสีดอกลาเวนเดอร์หรือสีม่วง
ยิ่งมีสีเข้มมากเท่าไหร่ยิ่งดี เวลาส่องกับแสงแดดควรจะมีสีกึ่งใส มีความสุกใสเปล่งประกายอยู่เสมอ 
หยกที่เจียระไนเป็นทรงกลมมนหรือลูกปัดเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด  เพราะทั้งสองชนิดสามารถตรวจดูทีละเม็ดได้
ถ้าเป็นไปได้ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดูว่าเป็นหยกแท้ไม่มีการย้อมสี จะดีที่สุด

หลักในการซื้อหยกง่ายๆ
คือ ผู้ที่ซื้อหยกทุกคนควรรู้สึกดีขึ้นและรู้สึกว่าโชคดีขึ้นเมื่อสวมใส่หยก และยิ่งรู้สึกปลอดภัยขึ้นก็จะดีมาก
เพราะคุณค่าของหยกไม่ได้อยู่แค่ความสวยงาม แต่มันอยู่ที่คุณค่าทางจิตใจต่อผู้สวมใส่ด้วย
จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2557 21:47:43 »


การตั้งเทพปี่เซียะ
การตั้งเทพปี่เซียะให้ตั้งในลักษณะต้อนรับแขก  เทพพิทักษ์ (พิทักษ์เจ้านาย)
ตั้งหน้าหิ้งพระ  หรือหน้าเจ้าที่ (ตี่จูเอี้ยะ) ตั้งลักษณะเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น



เปาบุ้นจิ้น  จะมีจั่นเจายืนเคียงข้างคอยคุ้มครอง(ปี่เซียะเดียว)
เปาบุ้นจิ้น  จะมีหวังเฉาและหม่าฮั่นยืนพิทักซ้ายขวา (ปี่เซียะคู่)
การตั้งเทพปี่เซียะ  ต้องดูแล้วสบายตา  พาให้สบายใจ
(คนที่มาดีมองดูแล้วองอาจสวยงาม สง่ามีอำนาจ มีโชคลาภ แต่คนที่มาร้ายมองดูแล้วดุร้ายน่ากลัวมีเคาะห์ร้าย)


การตั้งปี่เซียะที่ดีที่สุด
คือมีครบถ้วนทุกตำแหน่งตามหลักฮวงจุ้ย คือมีตำแหน่งเต่าดำ  เสือขาว  มังกรเขียว  และนกกระจอกแดง

ให้มองเก้าอี้นั่งของฮ่องเต้เป็นหลัก คือมีพนักพิง(ตำแหน่งนี้จะอยู่สูงที่สุด)เขาเรียกตำแหน่งนี้ว่าตำแหน่งเต่าดำ
เป็นตำแหน่งประธานเป็นที่ตั้งของประธาน  เป็นที่พิงหลัง  หมายถึงความมั่นคง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษา
และคุ้มครองช่วยเหลือ 

ส่วนตำแหน่งที่สองและที่สามรองลงมาคือที่ตั้งของปี่เซียะวางซ้ายขวา เปรียบเหมือนพนักวางแขน
เขาเรียกตำแหน่งนี้ว่าแชเล้ง,แปะโฮ้ว  หมายถึงตำแหน่งเสือขาวและมังกรเขียว 
เสือขาวหมายถึงอำนาจ  ส่วนแชเล้งคือมังกรเขียวความหมายคือร่ำรวยและมีโชคลาภ  สมบูรณ์
คือมีอำนาจและร่ำรวยเพราะมีคนคอยช่วยเหลืออุปถัมภ์   

ส่วนตำแหน่งที่สี่คือตำแหน่งนกกระจอกแดง(จูเชียก)จะอยู่ต่ำที่สุด 
ไว้สำหรับวางแก้วน้ำหรือจานผลไม้ต่างฯ  ความหมายคือมีลูกหลาน และบริวาร อุดมสมบูรณ์
สรุปคือมีคุณธรรมมั่นคง  มีอำนาจ  และร่ำรวย  มั่งคั่ง  อุดมสมบูรณ์

เทพปี่เซียะแบบเดี่ยว (ขุนพล)  ใช้เรียกทรัพย์  สำหรับคนที่ทำอาชีพค้าขาย  ธุรกิจหรือต้องการให้เงินเข้า  ไม่เป็นหนี้
เทพปี่เซียะแบบคู่ (เทพพิทักษ์)  ใช้เฝ้าทรัพย์  สำหรับคนที่หาเงินมาได้แต่ไม่ต้องการให้เงินไหลออก (เก็บเงินไม่อยู่)
การที่จะใช้ปี่เซียะคู่หรือปี่เซียะเดี่ยว   ให้ดูหลัก ธรรมชาติ  หลักความสมดุล

บันทึกการเข้า
คำค้น: ปี่เซี๊ยะ บูชา รวย ร่ำรวย เงิน เงินทอง 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.339 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 05 เมษายน 2567 20:30:14