ตำราดูลักษณะแมวไทย
จากสมุดข่อยโบราณ
Kimleng
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงซุกซน น่ารัก เลี้ยงง่าย เล่าสืบต่อกันมาว่า แมวอยู่กับคนมานานนับเป็นเวลาพันๆ ปี จึงเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ป่าชนิดเดียวที่ไม่กลัวคนและอยู่ใกล้ชิดคนมากที่สุด แมวมาอาศัยอยู่บ้านคนนั้้นเพราะเหตุเดียวคือในบ้านคนมีอาหารมากที่สุด ได้แก่หนู ซึ่งแมวจะจับกินเอง
แมวเป็นสัตว์รักอิสระเสรีภาพ เวลาคนส่งเสียงเรียกให้มาหา แมวชอบใจก็จะมา ไม่ชอบใจก็ไม่มา นึกสนุกขึ้นมาก็ไปเที่ยวที่อื่นเสียหลายวัน และนึกจะกลับบ้านเมื่อไรก็กลับ สรุปแล้วแมวก็มีลักษณะดึงดูดให้คนได้หามาเลี้ยงดูสืบต่อเรื่อยมาจนปัจจุบัน อย่างน้อยๆ ก็ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา ดังบทดอกสร้อยว่า "...ร้องเรียกเหมียวๆ เดี๋ยวก็มา เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู" และที่เคล้าแข้งเคล้าขานั้นก็ไม่รู้ว่าแมวว่าง่าย หรือแมวรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ทำกิริยาเช่นนั้น ถ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าไม่มีขาคน แมวก็จะเคล้าขาโต๊ะหรือขาเก้าอี้
ในหนังสือโบราณของหอสมุดแห่งชาติ มีสมุดข่อยโบราณ เรียกว่า ตำราดูลักษณะแมว แสดงประเภทแมวดี ๑๗ ชนิด และแมวร้าย ๖ ชนิด เป็นข้อพิจารณาในเบื้องต้นแก่ผู้รักแมวและกำลังมองหาแมวมาอุปการะเลี้ยงดู เพื่อจักได้บังเกิดผลประโยชน์ต่อกัน เพราะคนไทยมีความเชื่อว่า การเลี้ยงแมวลักษณะดีย่อมเป็นมงคล จะนำสิ่งดี มีโชคลาภ นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนและครอบครัว ในทางตรงกันข้ามเชื่อว่า หากได้แมวลักษณะไม่ดี หรือแมวร้ายมาเลี้ยงไว้ เปรียบดังเงาร้าย ครอบครัวจะหาความสุขไม่ได้ มีทุกข์ภัยที่ประดังเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน เป็นต้น
ตำราดูลักษณะแมว จากสมุดข่อยโบราณ
• แมวดี ๑๗ ชนิด ได้แก่
๑.แมว “วิลาศ” "แม้ใครใคร่เลี้ยงโดยหมาย จักได้เป็นนายผู้ใหญ่เลื่อนที่ถานา ศฤงคารโภคา ทรัพย์สินจักมาเนืองๆ บริบูรณ์พูลมี"
ราวคอทับถงาดท้อง สองหู
ขาวตลอดหางดู ดอกฝ้าย
มีเสวตรสี่บาทตรู สองเนตร์ เขียวแฮ
งามวิลาศงามคล้าย โภคพื้น กายดำ
แมววิลาศ ลักษณะตั้งแต่คอถึงท้องและสองหู ตลอดถึงหางและขาทั้ง ๔ มีสีขาวตลอดเหมือนดอกฝ้าย ลูกตาสองตามีสีเขียว ลำตัวส่วนอื่นๆ เป็นสีดำ ลักษณะสวยงาม
๒.แมว “นิลรัตน์" ถ้าเลี้ยงไว้ย่อมมีคุณเอนกา ศฤงคารโภคา จะเนื่องเป็นนิจบริบูรณ์
สมยานามชาติเชื้อ นิลรัตน์
กายดำสิทธิสามรรถ เลิศพร้อม
ฟันเนตรเล็บลิ้นทัต นิลคู่ กายนา
หางสุดเรียวยาวน้อม นอบโน้มเสมอเศียร
“นิลรัตน์” แปลว่า มณีสีดำ ลักษณะขนสีดำสนิท ฟัน นัยน์ตา เล็บและลิ้นก็เป็นสีดำ หางยาวเรียวยกตวัดได้ถึงหัว
๓.แมว “นิลจักร” กายดำคอขาวรอบขน ใครเลี้ยงเกิดผลทรัพย์สินสมบัติมากมี
นิลจักรบอกชื่อช้อย ลักษณา
กายดุจกลปีกกา เทียบแท้
เสวตรอบรัดกรรฐา โดยที่
เนาประเทศได้แม้ ดั่งนี้ควรถนอม
แมวนิลจักร ลักษณะสีกายดำเหมือนสีปีกของกา รอบลำคอมีสีขาว ดูเหมือนกับสวมปลอกคอสีขาว เป็นแมวดีที่ควรเลี้ยงรักและถนอมรักษา
๔.แมว “เก้าแต้ม” ใครได้แมวเก้าแต้มไว้เลี้ยงดูก็จะทำให้การค้าขายรุ่งเรือง ร่ำรวย
สลับดวงคอโสตรัตต้น ขาหลัง
สองไหล่กำหนดทั้ง บาทหน้า
มีโลมดำบดบัง ปลายบาท สองแฮ
เก้าแห่งดำดุจม้า ผ่าพื้นขาวเสมอ
แมวเก้าแต้ม ลักษณะลำตัวเป็นสีขาว มีดวงตาสีดำ แต้มตามลำตัวที่คอ หู สองไหล่ ปลายเท้าหน้าทั้งสองข้าง รวม ๙ แห่ง ลักษณะแต้มสีดำนี้จะเป็นวงกลมหรือปื้นเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางเรียวยาว สีขาว
๕.แมว “มาเลศ” หรือ “ดอกเลา” ใครพบเร่งให้อุปถัมภ์ แมวนั้นจักนำสุขสวัสดิ์มงคล
วิลามาเลศพื้น พรรณกาย
ขนดังดอกเลาราย เรียบร้อย
โคนขนเมฆมอปลาย ปลอมเสวตร
ตาดั่งน้ำค้างย้อย หยาดต้องสัตบง
แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา ลักษณะลำตัวมีสีดอกเลา คือขนสีเทามอๆ เหมือนเมฆสีเทายามฟ้าพยับฝน มีนัยน์ตาขาวใสหยาดเยิ้มเหมือนสีหยดน้ำค้างบบกลีบดอกบัว
๖.แมว “แซมเสวตร”
ขนดำแซมเสวตรสิ้น สรรพภางค์
ขนคู่โลมกายบาง แบบน้อย
ทรงระเบียบสำอาง เรียวรุ่นห์ งามนา
ตาดั่งแสงหิ่งห้อย เปรียบน้ำทองทา
แมวแซมเสวตร ลักษณะตลอดลำตัวมีขนสีดำแซมด้วยสีขาว ขนเส้นเล็กบาง ละเอียด และค่อนข้างสั้น รูปร่างบางรูปทรงสวยเพรียว ดวงตาสีเขียวเป็นประกายสดใสเหมือนแสงหิ่งห้อย หรือเปรียบเสมือนทาด้วยน้ำทอง
๗.แมว “รัตนกำพล” "ใครเลี้ยงจักมียศถา มีเดชานุภาพแก่คนเกรงกลัว"
สมยากาเยศย้อม สีสังข์
ชื่อรัตนกำพลหวัง ว่าไว้
ดำรัดรอบกายจัง หวัดอก หลังนา
ตาดั่งเนื้อทองได้ หกน้ำเนียรแสง
แมวรัตนกำพล ลักษณะ ขนสีขาวนวลเหมือนสีหอยสังข์ ช่วงอกถึงหลังมีสีดำรอบลำตัว สีนัยน์ตาเหมือนสีทองน้ำหกเป็นประกายดูเนียนตา
๘.แมว “วิเชียรมาศ” "มีคุณยิ่งล้ำนัก จักนำโภคาพิพัฒน์สมบัติเพิ่มพูล"
ปากบนหางสี่เท้า โสตสอง
แปดแห่งดำดุจปอง กล่าวไว้
ศรีเนตรดั่งเรือนรอง นาคสวาดิ ไว้เอย
นามวิเชียรมาศไซร้ สอดพื้นขนขาว
แมววิเชียรมาศ ลักษณะขนสีขาว แต่ที่ปากส่วนบน หาง เท้าทั้งสี่ และหูทั้งสองข้าง รวม ๘ มีสีดำ(สีเข้ม) มีนัยน์ตาประกาย สดใส
๙.แมว “ศุภลักษณ์” หรือ “ทองแดง” ใครเลี้ยงจักได้ยศถา ยิ่งพ้นพรรณนาเป็นที่อำมาตย์มนตรี
วิลาศุภลักษณ์ล้ำ วิลาวรรณ
ศรีดังทองแดงฉัน เพริศแพร้ว
แสงเนตรเฉกแสงพรรณ โณภาษ
กรรษสรรพโทษแล้ว สิ่งร้ายคืนเกษม
แมวศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง ลักษณะร่างกายสวยงามมาก สีขนเหมือนสีทองแดงตลอดทั้งตัว นัยน์ตาเป็นประกายแวววาว แมวชนิดนี้ให้คุณ ช่วยให้สิ่งที่เป็นโทษหรือสิ่งร้ายกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีได้
๑๐.แมว “มุลิลา” แมวชนิดนี้ ตำราว่าให้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์ ไม่ควรเลี้ยงตามบ้าน
มุลิลาปรากฏแจ้ง นามสมาน
ใบโสตสองเสวตรปาน ปักล้วน
ศรีตาผกาบาน เบญจมาศ เหลืองนา
หางสุดโลมดำถ้วน บาทพื้นกายเศียร
แมวมุลิลา ลักษณะ ขนเรียบ เป็นมัน สีพื้นลำตัวตลอดถึงหางเป็นสีดำ บริเวณสองหูเป็นสีขาว นัยน์ตาสีเหลืองเหมือนสีดอกดอกเบญจมาศเหลืองบาน
๑๑.แมว “กรอบแว่น” หรือ “อานม้า” ตีค่าแสนตำลึงทอง ใครเลี้ยงจักนำเกียรติยศมาให้เจ้าของ
นามกรอบแว่นพื้น เสวตรผา
ขนดำเวียนวงตา เฉกย้อม
เหนือหลังดั่งอานอา ชาชาติ
งามดั่งวงหมึกพร้อม อยู่ด้าวใดแสวง
แมวกรอบแว่นหรือแมวอานม้า ลักษณะพื้นกายสีขาว มีขนสีดำรอบดวงตาทั้งสองข้างเหมือนกรอบแว่นตา และมีสีดำที่หลังของลำตัว เหมือนอานหรือที่นั่งบนหลังม้า เป็นแมววดีมีลักษณะดีมีมงคล ซึ่งผู้คนจะเสาะแสวงหามาเลี้ยงกันมาก
๑๒.แมว “ปัศเวต” หรือ “ปัดตลอด” (อ่านว่า แมว "ปัด-ศะ-เวด") หนึ่งดั่งปัดตลอดสอดสี ตำราว่าแมวดี ใครเลี้ยงจักยิ่งตระกูล
ปัศเวตลักษณนั้น ปลายนา ษาฤๅ
ขาวตลอดหางหา ยากพร้อม
รลุมเฉกสลับตา กายเฟพ เดียวแฮ
ตาดั่งคำชายล้อม บุศน้ำพลอยเหลือง
แมวปัศเวต หรือ ปัดตลอด ลักษณะขนสีดำ ขนที่ปลายจมูก ผ่านศีรษะ หลัง ตลอดจนจรดปลายหาง (ด้านบน) เป็นริ้วทางยาวสีขาวตลอด นัยน์ตาเป็นประกายสีเหลืองเหมือนสีบุษย์น้ำพลอย และมีขนสีเหลืองเหมือนทรายทองล้อมรอบดวงตา สวยงามมาก แมวปัศเวต เป็นแมวที่หายากมาก
๑๓.แมว “การเวก” ถ้าได้เลี้ยงจะนำโชคลาภมาให้เจ้าของเปลี่ยนฐานะขึ้นไปเรื่อยๆ
มีนามการเวกพื้น กายดำ
ศรีศรลักษณนำ แนะไว้
สองเนตรเลื่อมแสงคำ คือมาศ
ด่างที่ณาษาไซร้ เสวตรล้วนรอบเสมอ
แมวการเวก ลักษณะพื้นกายสีดำ แต่ไม่ดำหมดทั้งตัว ที่ปลายจมูกมีแต้มสีขาวเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายเลื่อมแสงสีเหลืองอำพันทองสดใส
๑๔.แมว “จตุบท” หนึ่งสี่เท้าด่างขบขัน ท่านว่าควรกัน ให้เลี้ยงแต่ราชินิกูล แมวนั้นย่อมจะให้คุณ
จตุบทหมดเฟศน้อม นามแสดง ไว้นา
โลมสกลกายแสง หมึกล้าย
สี่บาทพิศเล่ห์แลง ลายเสวตร
ตาเลื่อมศรีเหลืองคล้าย ดอกแย้มนางโสรน
แมวจตุบท ลักษณะขนสีหมึก คล้ายเอาหมึกมาไล้ไว้ทั่วร่าง ยกเว้นแต่บริเวณเท้าทั้งสี่และส่วนท้องของลำตัวมีขนเป็นสีขาว นัยน์ตาเป็นสีเหลืองเหมือนดอกโสน
๑๕.แมว “โสงหเสพย” (อ่านว่า โสง-หะ-เสพ-ยะ) กายดำคอขาวรอบขน ใครเลี้ยงไว้เกิดผล ทรัพย์สินสมบัติมากมี"
เสนาะโสงหเสพยชื่อเชื้อ ดำกาย
ขาวที่ริมปากราย รอบล้อม
เวียนเถลิงสอสังข์ปลาย ณาษิก อยู่แฮ
ตาดั่งศรีรงย้อม หยาดน้ำจางแสง
แมวโสงหเสพย หรือบางตำราเขียนเป็น "สิงหเสพย์" ลักษณะขนกายป็นแมวขนสีดำ แต่จะมีสีขาวบริเวณริมฝีปาก เวียนไปรอบคอจนถึงปลายจมูก นัยน์ตาเป็นประกายสีเหลืองเหมือนย้อมด้วยน้ำรงสีจาง
๑๖.แมว “กระจอก” แมวนี้ถ้าเลี้ยงไว้... "จะได้ที่แดนไร่นา ทรัพย์สินโภคา ถ้าเป็นไพร่ก็จักได้เป็นนาย"
มีนามกระจอกนั้น ตัวกลม งามนา
กายดำศรีสรรพสม สอดพื้น
ขนขาวเฉกเมฆลม ลอยรอบ ปากแฮ
ตาประสมศรีชื้น เปรียบน้ำรงผสาน
แมวกระจอก ลักษณะตัวกลมสวยงาม ขนสีดำตลอดทั้งตัว รอบปากเป็นขนสีขาวเหมือนสีเมฆ นัยน์ตาสีเหลืองเหมือนน้ำรง
๑๗.แมว “โกนจา” แมวนี้เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย
กายดำคอสุดท้อง ขาขนเลเอียดเฮย
ตาดั่งศรีบวบกล ดอกแย้ม
โกนจาพจนิพนธ์ นามกล่าว ไว้นา
ปากแลหางเรียวแฉล้ม ทอดเท้าคือสิงห์
แมวโกนจานี้ มีขนสีดำละเอียด ตั้งแต่คอไปจนถึงท้องและขา ปากและหางมีรูปลักษณะเรียวงาม นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม เท้าเหมือนเท้าสิงห์ ท่าทางเดินสง่าเหมือนสิงห์โต
ตำราดูลักษณะแมวไทย
จากสมุดข่อยโบราณ (ต่อ)
• แมวร้าย ๖ ชนิด ได้แก่
๑.แมวร้ายชื่อ “ทุพลเพศ” ใครเลี้ยงไว้จะให้โทษไม่เป็นสุข เกิดความเดือดร้อนแรงผลาญ
ตัวขาวตาเล่ห์ย้อม ชานสลา
หนึ่งดั่งโลหิตทา เนตรไว้
ปลอมลักคาบมัศยา ทุกค่ำ คืนแฮ
ชื่อทุพลเพศให้ โทษร้อนแรงผลาญ
แมวทุพลเพศ ลักษณะลำตัวสีขาว มีดวงตาสีแดงเหมือนย้อมด้วยชานหมากหรือมีดวงตาเหมือนถูกทาด้วยเลือด มักออกไปหากินยามค่ำคืน และชอบขโมยปลามากิน แมว “ทุพลเพศ” ชื่อ ทุพล หมายถึง ไม่ดี ลักษณะโดยรวมไม่สวยงาม เลี้ยงไว้จะให้โทษร้ายแรง จึงไม่ควรนำมาเลี้ยง
๒.แมวร้ายชื่อ “พรรณพยัฆ หรือ ลายเสือ”
มีพรรณพยัฆเพศพื้น ลายเสือ
ขนดั่งชุบครำเกลือ แกลบกล้อง
สีตาโสตรแสงเจือ เจิมเปือก ตาแฮ
เสียงดั่งผีโป่งร้อง เรียกแคว้นพงไสล
แมวพรรณพยัฆเพศ หรือแมวลายเสือ เป็นแมวร้ายที่มีขนกายเป็นลายเสือ ลักษณะขนหยาบเหมือนชุบด้วยเกลือหรือหยาบเหมือนแกลบ มีนัยน์ตาเป็นประกายเหมือนสีของแสงสว่างจนถึงเปลือกตา เวลาร้องเสียงเหมือนเสียงผีโป่งที่ร้องอยู่ตามป่าเขา เป็นแมวร้าย ถือเป็นแมวให้โทษอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ควรเลี้ยง
๓.แมวร้ายชื่อ “ปีศาจ”
ปิศาจจำพวกนี้ อาจินต โทษนา
เกิดลูกออกกิน ไป่เว้น
หางขดดั่งงูดิน ยอบขนด
ขนสยากรายเส้น ซูบเนื้อยานหนัง
แมวปีศาจ เป็นแมวร้ายอีกชนิดหนึ่ง ลักษณะขนสาก หยาบ ตัวผอม หนังยาน ชอบกินลูกของตัวเอง ออกลูกมากี่ตัวก็กินลูกหมด โบราณจัดเป็นแมวร้าย ห้ามได้นำมาเลี้ยง
๔.แมวร้ายชื่อ “หิณโทษ”
หิณโทษโหจชาติเชื้อ ลักษณา
เกิดลูกตายออกมา แต่ท้อง
สันดานเพศกายปรา กฎโทษ อยู่แฮ
ไภยพิบัติพาลต้อง สิ่งร้ายมาสถาน
แมวหิณโทษ เป็นแมวนำมาอันตรายและสิ่งชั่วร้าย นำภัยพิบัติมาสู่บ้าน ใครเลี้ยงไว้จะไม่เป็นมงคล ออกลูกมามักจะมีลูกตายตั้งแต่อยู่ในท้อง
๕.แมวร้ายชื่อ “เหน็บเสนียด ”
เหน็บเสนียดโทษร้าย เริงเข็ญ
ด่างที่ทุยหางเห็น โหดร้าย
ทรงรูปพิกลเบญ จาเพศ
แมวดั่งนี้อย่าไว้ ถิ่นบ้านเสียศรี
แมวเหน็บเสนียด ลักษณะคล้ายค่าง ชอบเอาหางขดซ่อนไว้ใต้ก้น มีรูปร่างผิดปกติพิกลพิการ ใครลี้ยงไว้ในบ้านจะทำให้เสียชื่อเสียงเกียรติยศ
๖.แมวร้ายชื่อ “กอบเพลิง”
มักนอนยุ้งอยู่ซุ้ม ขนกาย อยู่นา
เห็นแต่คนเดินชาย วิ่งคล้าย
กอบเพลิงกำหนดหมาย นามบอก ไว้เอย
ทรลักษณชาติค่างร้าย โทษแท้พลันถึง
แมวกอบเพลิง เป็นแมวที่ลึกลับชอบซ่อนตัว กลัวคน พอเห็นคนมักวิ่งหลบหนี ใครเลี้ยงไว้ไม่ดี จะมีโทษถึงตัว